xs
xsm
sm
md
lg

ปลัดแรงงานชี้แก้ปัญหา “ต่างด้าว” ช่วยหนุนไทยขึ้น “เทียร์ 2” เชื่อส่งออก-เศรษฐกิจดีขึ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ปลัดแรงงาน ชี้ ไทยปรับสถานะค้ามนุษย์เป็น “เทียร์ 2” ช่วยลดการกีดกันสินค้าส่ง ส่งออกไปขายยุโรป สหรัฐฯ ได้มากขึ้น เชื่อทำเศรษฐกิจไทยดีขึ้น เผยแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าวเป็นส่วนหนึ่งในผลงานร่วมที่ทำให้สถานะไทยดีขึ้น ยันหลัง 30 มิ.ย. นี้ ดำเนินการ “ต่างด้าวเถื่อน” ตามกฎหมาย

วันนี้ (29 มิ.ย.) นายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงกรณีสหรัฐอเมริกาเผยแพร่รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์หรือทิปรีพอร์ต ประจำปี 2561 โดยขยับสถานะของไทยจาก เทียร์ 2 เฝ้าระวัง มาเป็นเทียร์ 2 ว่า การที่สหรัฐฯ ปรับสถานะไทยจากเทียร์ 2.5 มาเป็นเทียร์ 2 ถือเป็นเรื่องที่ดี ส่งผลให้สินค้าต่างๆ ของประเทศไทยสามารถส่งออกไปขายได้ในตลาดยุโรปและสหรัฐอเมริกา จากที่เราถูกลดอันดับมาหลายปี และถูกกีดกันเรื่องสินค้ามานาน ก็เชื่อว่า จะช่วยทำให้เศรษฐกิจของไทยโดยเฉพาะการส่งออกดีขึ้นด้วย ทั้งนี้ การที่ไทยได้รับการปรับขึ้นมาอยู่ในระดับเทียร์ 2 ถือเป็นผลงานของรัฐบาลที่บูรณาการการทำงานเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ของทุกภาคส่วน เป็นการทำงานตามหลักประชารัฐโดยแท้จริง เพราะหากแต่ละหน่วยงานดำเนินการเอง ต่างคนต่างทำคงไม่สำเร็จ

“ความสำเร็จในเรื่องนี้มาจากการทำงานร่วมกันของหลายหน่วยงาน ทั้งเรื่องของการลดปัญหาการค้านมนุษย์ การแก้ปัญหาเรื่องของแรงงานต่างด้าว ที่เป็นนโยบายของรัฐบาล ทำให้เกิดรูปแบบการทำงานที่มาหารือถึงเป้าหมายที่เราต้องการแก้ไข และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องก็ไปดำเนินการแก้ปัญหาตามรูปแบบของตนเอง ทำให้ผลลัพธ์ออกมาดี อย่างของกระทรวงแรงงานก็เน้นเรื่องของการแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าว โดยมีการออกกฎหมายต่างๆ การขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้วย เพื่อให้เข้ามาทำงานอย่างถูกกฎหมาย ทำให้คนที่เข้ามาทำงานอย่างผิดกฎหมายเป็นถูกกฎหมาย เพื่อให้ได้รับสิทธิ์และการคุ้มครองต่างๆ ไม่ถูกเอาเปรียบ และดูคุ้มครองแรงงานไทย การมีงานทำของผู้สูงอายุ ยุวแรงงาน การฝึกทักษะคนจน ให้ผู้ที่มีโอกาสน้อยได้รับโอกาส คุณภาพชีวิตก็ดีขึ้น” นายจรินทร์ กล่าว

เมื่อถามถึงการบริหารจัดการหลังพ้นช่วงการขึ้นทะเบียนวันที่ 30 มิ.ย. 2561 ไปแล้ว นายจรินทร์ กล่าวว่า การขึ้นทะเบียน รมว.แรงงานก็กำชับแล้วว่าจะให้ดำเนินการจนถึงคนสุดท้ายที่มาดำเนินการ แม้จะเลยเวลาเที่ยวคืนไปแล้วก็ตาม แต่หลังจากนี้ ก็จะดำเนินการตามกฎหมาย มีการตรวจสอบและจับกุมตามกฎหมาย หากพบก็จะจับปรับและให้เดินทางกลับประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาเราแจ้งมาตบอดว่าให้รีบมาดำเนินการ อย่างไรก็ยืนยันว่า หลังจากวันที่ 30 มิ.ย. 2561 ไปแล้ว จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย

วันเดียวกัน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า การที่ประเทศไทยถูกจัดอันดับที่สูงขึ้นดังกล่าวเป็นสิ่งยืนยันความเชื่อมั่นของนานาชาติที่มีต่อทิศทางความพยายามในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลไทยในการป้องกันไม่ให้ประชาชนต้องตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ ซึ่งจะส่งผลดีต่อเสถียรภาพของรัฐบาล อาทิ เกิดความสัมพันธ์ที่ดีกับสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐฯ ในด้านต่างๆ เพิ่มขึ้น ได้รับการพิจารณาเรื่องความช่วยเหลือจากสถาบันสำคัญระหว่างประเทศ อาทิ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลก (The World Bank) รวมทั้งองค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs) ขณะเดียวกัน ยังส่งผลดีต่อการค้าของไทย โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐอเมริกาและประเทศสมาชิกคู่ค้าได้มากขึ้น เกิดภาพลักษณ์ที่ดีแก่สินค้าไทยเพื่อการส่งออก เกิดความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคว่าสินค้าไทยไม่มีการผลิตจากการใช้แรงงานบังคับหรือการค้ามนุษย์ ตลอดจนส่งผลดีต่อเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ

“รัฐบาล โดยกระทรวงแรงงานขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการทุ่มเทบูรณาการทำงานมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง กระทรวงมหาดไทย สาธารณสุข ยุติธรรม คมนาคม พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เกษตรและสหกรณ์ และอีกหลายหน่วยงาน ทั้งนี้ ยืนยันว่า จะยังมุ่งมั่นขจัดปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงานอย่างจริงจังต่อไป แม้ว่าที่ผ่านมามีความก้าวหน้าไปมาก ด้วยมาตรการส่งเสริมและปกป้องสิทธิแรงงานทุกสัญชาติอย่างเท่าเทียม โดยไม่มีการแบ่งแยกสัญชาติของแรงงาน การขับเคลื่อนนโยบาย การตรวจแรงงานอย่างเข้มข้นเพื่อคุ้มครองสิทธิแรงงาน วางระบบการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตลอดจนความร่วมมือกับทุกภาคส่วนอย่างใกล้ชิดระหว่างภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม ประเทศเพื่อนบ้าน องค์การระหว่างประเทศ” พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น