xs
xsm
sm
md
lg

มรดกหม่อมหมู!! “บีทีเอส”ขัดข้อง 2 วันติด การันตีคุณภาพว่า “ห่วยจริง” **อย่ารบในสงครามที่ไม่ชนะ!! กกต.ท่าจะเอาจริงยุบ “เพื่อไทย”ปม “ทักษิณ”ก้าวก่ายกิจการพรรค **ไทยทั้งชาติส่งใจเชียร์ “ทีมหมูป่า”นักเตะ-โค้ช 13 ชีวิต ให้ปลอดภัยจาก “ถ้ำหลวง”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: นกหวีด


ข่าวปนคน คนปนข่าว



**มรดกหม่อมหมู!! “บีทีเอส”ขัดข้อง 2 วันติด การันตีคุณภาพว่า “ห่วยจริง”โทษปี่โทษกลองไปทั่ว ก่อนโดนแฉสิ้นไส้ ไม่คิดจะ “ลงทุน”ระบบป้องกันเองต่างหาก ตามสไตล์ “เสือนอนกิน”ที่ไม่รู้อะไรบังตาให้ “หม่อมหมู”ประเคนสัญญาสัมปทานยาวเป็นชั่วโคตรให้ แถมกำไรปีๆ นึงก็บานเบอะ แบบนี้จะไปลงทุนให้เปลืองทำไม

สงสัยกลัวจะไม่แน่ใจ .. “บีทีเอส” ก็เลยจัดให้ 2 วันติด กับคอนเซปต์ “เจ๊งเช้า เจ๊งเย็น” ที่แม้จะไม่หนักหนาเท่าเมื่อวันก่อน แต่ก็เป็นเครื่องการันตีคุณภาพว่า “ห่วยจริง” ..นอกจากจะ “บ้อท่า” ไม่แก้ไขปรับปรุงแล้ว ยัง “โยนบาปให้คนอื่น”ไปเรื่อย โบ้ยไปว่า “คลื่น 2300 MHz” ของทาง “ทีโอที - ดีแทค”เป็น “ผู้ร้าย” ต้นตอของปัญหาที่ทำให้อาณัติสัญญาณรถไฟฟ้าที่ “อ้างว่า”ใช้ “คลื่น 2400 MHz” ขัดข้อง .. งานนี้ “ดีแทค” ก็เลยพิสูจน์กันจะๆ ทดลองปิดสัญญาณ 2300 MHz ตลอดแนวรถไฟฟ้า แต่ปัญหาก็ยังมีเหมือนเดิม .. สำทับกับ “กูรูโทรคมนาคม”ที่ชี้ว่าไม่เกี่ยว กัน พร้อมทดสอบตรวจวัดตามแนวสายทาง ก็ไม่ปรากฏปัญหาที่ “บีทีเอส” อ้าง .. พอหาทางลงไม่ได้ สุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บีทีเอส ก็เลยไถลไปต่อว่า เป็นเพราะ “สัญญาณ WIFI - คลื่นมือถือ” มารบกวนอาณัติสัญญาณ .. อ้างแบบนี้ ก็เลย “โป๊ะแตก”โดนแฉว่า จริงๆ “บีทีเอส” รู้ปัญหามานานแล้ว ทาง “กสทช.” ก็เตือนมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ก็ไม่คิดจะ “ลงทุน” ระบบป้องกันให้เป็นกิจลักษณะ .. แล้วยังมี “ทฤษฎีที่น่าเชื่อ” ด้วยว่า เดิม “บีทีเอส” เลี่ยงการใช้คลื่น 2400 MHz ที่เป็น “คลื่นสาธารณะ” แล้ว “ลักไก่” ใช้คลื่น 2300 MHz มาตลอด แต่พอเจ้าของ ตัวจริงอย่าง “ทีโอที”ไปให้สัมปทาน “ดีแทค” ก็เลยต้องกลับไปใช้คลื่น 2400 MHz โดยที่ไม่ได้มีระบบป้องกันสัญญาณ ระบบรถไฟฟ้าก็เลยเจ๊งระเนระนาดอย่างที่เห็น ..
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร, สุรพงษ์ เลาหะอัญญา และ คีรี กาญจนพาสน์
พอโดนจับได้ไล่ทันแบบนี้ ก็เลยมีแถลงการณ์ขอโทษออกมาจากบอสใหญ่อย่าง “สุรพงษ์”พร้อมยืนยันว่า ระบบป้องกันสัญญาณจะติดตั้งเสร็จภายในวันศุกร์นี้ (ซะงั้น) .. คำถามตามมาทันทีว่า ที่ผ่านมา ไปทำอะไรอยู่ ทั้งที่เป็นขนส่งมวลชนที่ต้องรับผิดชอบชีวิตคนเป็นหลายแสนต่อวัน กลับ “เลินเล่อ” อย่างไม่น่าเชื่อ .. คำตอบก็มีว่า ด้วยความที่ทรนงตัวเป็น “ธุรกิจผูกขาด” ก็เลยทำตัวเป็น “เสือนอนกิน” เรื่องพัฒนาปรับปรุงบริการ ลืมไปได้เลย ด้วยรู้แก่ใจว่า ยังไงคนก็ต้องใช้ .. ที่สำคัญ ไม่ว่าระบบจะขัดข้องถี่ยิบขนาดไหน “หุ้นบีทีเอส” ก็ดูจะไม่กระเทือน กำไรปีๆ ละหลายพันล้าน อย่าง 2-3 วันนี้ ก็ยังเขียวอื๋อ อยู่ในแดนบวก ทั้งที่ถูกด่าขรมเมือง .. ก็โกยกำไรกันอย่างนี้ไง เลยคิดว่าไม่จำเป็นต้องไปควักเนื้อลงทุนอะไร จริงไม่จริงคงต้องไปถาม คีรี กาญจนพาสน์ เจ้าพ่อบีทีเอส ดูเอง .. ทั้งหลายทั้งปวงก็เป็นอานิสงส์ จากสัญญาสัมปทานที่ยาวเป็น “ชั่วโคตร”ผลงานทิ้งทวนของ “หม่อมหมู”ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร อดีตผู้ว่าฯ กทม. ขวัญใจประชาชน มอบให้ก่อนพ้นตำแหน่งนั่นไง .. มีอย่างที่ไหน สัมปทานเดิมเหลือตั้ง 17 ปี หมดปี 2572 ท่ามกลางเสียงก่นด่าใน “ความห่วยแตก” ของผู้โดยสารมาตั้งแต่เริ่มแรกให้บริการ .. แต่ไม่รู้อะไรมาบังตา ทำ “หม่อมหมู” เห็น “กงจักรเป็นดอกบัว” ประเคนให้เพิ่มไปอีก 13 ปี รวมอายุสัมปทานเป็น 30 ปี หมดอีกที ปี 2585 นู่น .. แล้ว 13 ปีที่ว่านั่นก็คำนวณออกมาเป็นตัวเลขกว่า 2 แสนล้านบาทเลยทีเดียว ตัวเลขมหาศาลนี่ไงที่อาจจะพอเป็นคำตอบได้ว่า “อะไรไปบังตา” อดีตผู้ว่าฯ กทม.ท่าน .. คดีที่ดีเอสไอกล่าวโทษ “หม่อมหมู”ว่าเข้าข่ายฮั้ว-เอื้อประโยชน์ ค้างเติ่งอยู่ที่ ป.ป.ช.มาร่วม 5 ปี ไม่มีความคืบหน้า .. ก็น่าจะเป็นการดีหาก “บิ๊กป๊อด”พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. จะปัดฝุ่นเอาขึ้นมาสร้างผลงาน กู้ศรัทธา “องค์กรปราบโกง”ซักหน่อยดีไหมท่าน.

**อย่ารบในสงครามที่ไม่ชนะ!! กกต.ท่าจะเอาจริงยุบ “เพื่อไทย”ปม “ทักษิณ”ก้าวก่ายกิจการพรรค ตามธง “ฝ่ายคุมอำนาจ" ที่ทำทุกทาง หมายชนะเลือกตั้ง “นายใหญ่ดูไบ”อาจจะแฮปปี้ด้วยซ้ำ มีข้ออ้างชักน้ำเลี้ยงกลับ ไม่ต้องบ้าเลือดเกทับ “สามมิตร” พลิก “ตำราซุนวู”เลือกทิ้งไพ่ “หมอบ”รอสู้ในสงครามที่มีหวังจะชนะ ดีกว่า
ศุภชัย สมเจริญ  และ ทักษิณ ชินวัตร
ท่าจะเอาจริงแฮะ .. คิวที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำลังตรวจสอบคลิปที่ ทักษิณ ชินวัตร พูดที่มหานครลอนดอน เมื่อสัปดาห์ก่อน ปลุกใจสมุนว่า พรรคเพื่อไทย จะชนะเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างแน่นอน .. คราวนี้เป็น ศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. ที่ออกมาพูดเองว่า อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายตามมาตรา 29 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง .. สุ่มเสี่ยงจะ “ตายน้ำตื้น”หาก กกต. “ตีความ”ว่าเข้าข่าย "ครอบงำพรรค" มีโทษสาหัสถึงขั้น “ยุบพรรค” ซ้ำรอย “ไทยรักไทย-พลังประชาชน” .. นัยหนึ่งที่ "กกต.รักษาการ" ขมีขมันเป็นพิเศษ ก็ด้วยหวังโชว์ผลงาน เผื่อจับผลัดจับผลูได้ “ต่อวีซ่า” ยึดเก้าอี้ต่อไป ในช่วงที่ "กกต.ชุดใหม่" ยังลูกผีลูกคน .. แต่อีกนัยก็ “ธง” ของ "ฝ่ายคุมอำนาจ" ที่หมายเจาะยาง “พรรคเพื่อไทย” อยู่แล้ว พอ "ทักษิณ" แหลมออกมา เหมือนลูกไหลเข้าข้อ .. ยิ่งโรดแมปเลือกตั้งรอบหน้าทำท่าจะแน่นอนแล้ว เหลือเวลาไม่ไม่ถึงปี แต่ก็ยังตีป้อมค่ายเพื่อไทยไม่แตก โดยเฉพาะโซนภาคอีสาน ที่ชี้วัดผลแพ้ชนะเลือกตั้ง .. ดาบ “ยุบพรรค”ที่อยู่ในมือ กกต. ก็อาจเป็น “ทางลัด”ในการต่อท่ออำนาจได้สำเร็จ .. ยิ่งในยามที่การเคลื่อนไหวทางการเมืองยังทำได้ไม่ถนัดนัก แล้วอะไรก็ดูจะ “ค้านสายตา” ฝ่ายตรงข้ามอยู่ ไหนๆ ก็ไหนๆ ทิ่มไปอีกดาบจะเป็นไรไป .. ดีไม่ดี “นายใหญ่ดูไบ” จะแฮปปี้ด้วยซ้ำ ก็ตอนนี้กำลังถูก “ลูกพรรค” กดดันหนักให้ต่อ “ท่อน้ำเลี้ยง” ..

หลังความเคลื่อนไหวของ “สามมิตรสายเปย์”ที่มี สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ - สมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นแกนนำในการเดินสาย “ดูด”อดีตผู้แทนฯ เข้าคอก “พลังประชารัฐ” .. เดิม “ทักษิณ”ก็สั่งระดมทุนออกสู้ในระดับ "ครึ่งหมื่นล้าน" กะจะบลัฟกลับทาง “กลุ่มสามมิตร” เหมือนกัน .. ทว่าเมื่อประเมินสถานการณ์แล้ว อาจจะได้ไม่คุ้มเสีย แม้จะไม่ได้ควักจากกระเป๋าตัวเองก็เถอะ ด้วยทั้งมีคู่แข่งเป็น “ฝ่ายคุมอำนาจ” อีกทั้งกฎกติกา ก็ไม่เข้าทาง .. ดังที่ “ผู้สันทัดกรณี” วิเคราะห์มาตลอด หลังรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ว่า “เพื่อไทยชนะก็ไม่ได้ตั้งรัฐบาล” .. เมื่อพลิก “ตำราซุนวู” ดูแล้ว ก็ต้องตรองกันหนัก กับข้อที่ว่า "อย่ารบในสงครามที่เราจะไม่ชนะ” แล้วแบบนี้จะไปทุ่มทุนเปล่าๆ ปลี้ๆ ทำไมกัน .. งานนี้แทนที่จะเกทับ ก็เลยขอ “หมอบ”รอเวลาไปก่อนดีกว่า เหมือนอย่างที่โม้ไว้กับ “สื่อนอก” เทียบตัวเองกับ มหาเธร์ โมฮัมหมัด ที่รีเทิร์นนายกฯ มาเลเซีย ในวัย 92 ปี .. ที่ว่า “ผมอ่อนกว่ามหาเธร์ 23 ปี เพราะฉะนั้นเรื่องการ Comeback มันเกิดขึ้นได้” นั่นแหละ

**ส่งใจไปถ้ำหลวง!! ไทยทั้งชาติส่งใจเชียร์ “ทีมหมูป่า”นักเตะ-โค้ช 13 ชีวิต ให้ปลอดภัยจาก “ถ้ำหลวง” วอน “ผู้ไม่เกี่ยวข้อง”อย่าไปยุ่มย่ามในพื้นที่ ลดความคับคั่งบริเวณหน้างาน อำนวยความสะดวกให้ “คนทำงานจริงๆ”เพื่อดำเนิน “ภารกิจสำคัญ”ให้สำเร็จโดยเร็วเถอะ

รอข่าวดีอยู่นะ .. นาทีนี้ไทยทั้งชาติขอส่งพลังแรงใจไปเชียร์ “ทีมหมูป่า” นักฟุตบอลเยาวชน พร้อมด้วยโค้ช รวม 13 ชีวิต ที่พลัดหลงอยู่ภายใน “ถ้ำหลวง”เขตวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตั้งแต่เย็นวันที่ 23 มิ.ย. ที่ผ่านมา .. ปฏิบัติการค้นหาน้องๆ นักฟุตบอล และโค้ชทีม "หมูป่าอะคาเดมี่แม่สาย" ยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ที่ทุกภาคส่วน “รัฐ -เอกชน - ประชาชน”ต่างระดมสรรพกำลังเข้าช่วยเหลือทุกทางที่ทำได้ .. โดยเฉพาะความทุ่มเทของ “เจ้าหน้าที่”ไม่ว่าทหาร-ตำรวจ-ฝ่ายปกครอง ตลอดจนกู้ภัย ที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างสุดความสามารถ แม้จะพบว่างานยาก และเสี่ยงเพียงใดก็ตาม .. กระทั่งน้ำใจของชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง “ถ้ำหลวง” ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำที่สูบออกจากถ้ำ ท่วมทั้งบ้านทั้งสวน แต่ทุกคนก็ยอม แค่ขอให้ทั้ง 13 ชีวิตปลอดภัยก็พอ .. ด้วยทุกคนต่างรู้ว่าปฏิบัติการครั้งนี้ไม่มีเป้าหมายอื่น นอกเหนือจาก “หาจนกว่าจะพบอย่างเร่งด่วน” แม้นาทีนี้จะยังไม่พบตัว แต่ก็มีความคืบหน้าเป็นลำดับ พร้อมด้วย “สัญญาณที่ดี” ต่อความหวัง และการรอคอย ว่าทั้ง 13 ชีวิตยังปลอดภัยดี ..

ทว่า ท่ามกลางบรรยากาศร่วมแรงร่วมใจ ก็ยังมีเรื่องที่ชวน “อิดหนาระอาใจ”ไม่น้อยกับ “พวกฉวยโอกาส”หลายรูปแบบ .. ทั้ง “ข่าวลวง-ข่าวลือ” ที่พรั่งพรูออกมาในหลายช่องทาง จนทำให้เกิดความสับสนในการทำงาน .. ไม่เว้นกระทั่ง “สื่อบางคน-บางแห่ง” ที่หิวข่าว-ขายข่าวกันหน้ามืดตามัว จนละเลยจรรยาบรรณ .. ประเภท “เหลือบไร” อ้างเป็นครอบครัวผู้สูญหาย ขอรับบริจาคก็มี หรือพวกไม่รู้จักกาลเทศะ ก็เยอะ ทั้ง “คนทรง - คนขายหวย” ที่โผล่ไปป้วนเปี้ยนในพื้นที่ .. กระทั่ง “ผู้ใหญ่บางคน”ก็อุตส่าห์ดั้นด้นไปลงพื้นที่ “พรีเซนต์เฟซ” กลายเป็น “ภาระ”ที่ต้องเสียทรัพยากรบุคคลเป็นร้อย มาชักแถวต้อนรับ .. ถือเป็น “เรื่องแย่ๆ”ใน “ภาวะวิกฤต”ที่ได้ยินว่า ได้ “จัดระเบียบ” กัน “ผู้ไม่เกี่ยวข้อง”ออกนอกพื้นที่ ลดความคับคั่งบริเวณหน้างาน อำนวยความสะดวกให้ “คนทำงานจริงๆ”เพื่อดำเนิน “ภารกิจสำคัญ” ให้สำเร็จโดยเร็ว


ช.ชฎา


กำลังโหลดความคิดเห็น