ข่าวปนคน คนปนข่าว
**รถไฟฟ้าไม่มานะเธอ!! “บีทีเอส”คงคอนเซปต์ “เจ๊งเช้า เจ๊งเย็น ไม่เน้นบริการ” ครึ่งปีเสียไปแล้ว 28 หน มิ.ย.เดือนเดียว ขัดข้องแทบจะวันเว้นวัน “บิ๊กบีทีเอส”ยักไหล่ สิ้นปีน่าจะแก้ปัญหาได้ โซเชี่ยลฯ จุดกระแส “ยกเลิกสัมปทาน”เหตุเอาแต่ขึ้นค่าตั๋ว-ไม่เคยปรับปรุงบริการ แต่กางสัญญาที่“หม่อมหมู” ทิ้งไว้ต่างหน้า หมดตั้งปี 2585 นู่น
#ยกเลิกสัมปทาน BTS ..กลายเป็นแฮคแทกฮิตในทวิตเตอร์ ประจำวันจันทร์ ต้นสัปดาห์นี้ เมื่อ “รถไฟฟ้าบีทีเอส”จัดหนัก ขัดข้องใน “ชั่วโมงเร่งด่วน”ทั้ง “พีคเช้า-พีคเย็น”ทำเอาผู้โดยสารบ่นกันระงม .. จากที่เคยมีมอตโตติดปากตามหนังฮิต “รถไฟฟ้ามาหานะเธอ”กลายเป็น “รถไฟฟ้าไม่มานะเธอ”ผู้โดยสารที่เคารพต้องรอกันเหงือกแห้ง .. รอบเช้าว่าหนักแล้ว บอกขอเวลาแก้ไข 10 นาที ล่อไปกว่า 4 ชั่วโมง รอบเย็นยิ่งสาหัสกว่า ไม่บอกไม่กล่าว บอกผู้โดยสารรออย่างไร้ความหวัง .. แล้วระบบการแจ้งเตือน ก็ “ขาดความเป็นมืออาชีพ” อย่างสิ้นเชิง รถขัดข้อง คนล้นสถานี “หนูด่วน” เพจ อย่างเป็นทางการ ยังขอความร่วมมือ อย่ารับประทานอาหารในระบบอยู่เลย ขณะที่เสียงประกาศบนสถานี พร่ำพูด “ขอเวลาแก้ไข 10 นาที” บ้าง “กำลังเข้าสู่ภาวะปกติ” บ้าง ทั้งที่ยังซ่อมไม่เสร็จ .. เจอแบบนี้เข้าไป อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เต้นผาง เรียก “บิ๊กบีทีเอส” ทั้ง สุรพงษ์ เลาหะอัญญา - อาณัติ อาภาภิรม ชี้แจง .. แต่ก็ไม่ได้อะไรมาก มีเพียง “ข้ออ้าง”ว่า ระบบอาณัติสัญญานรถขัดข้อง เนื่องจากอยู่ในระหว่างติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณสายสีเขียวใต้ .. กลายเป็นเรื่องทางเทคนิคที่แก้ไม่ตก แต่ทำไมไม่บอกกันก่อน ให้ “หนูด่วน” แจ้งล่วงหน้าซักนิด ให้คนได้วางแผนการเดินทางกันบ้าง กระทบทั้งการงาน-ชีวิตประจำวัน .. ก็ไม่ใช่แค่เมื่อวาน ที่เป็นปัญหา เจอขุดไปตั้งแต่ต้นปี ยังไม่ครบ 6 เดือนดี ทั้งเสีย ทั้งขัดข้องรวมแล้ว 28 หน เอาแค่เดือน มิ.ย. ที่แทบจะ “วันเว้นวัน”ยังไม่หมดเดือน ขัดข้องได้โล่ไป 9 ครั้งเต็มๆ ..
ที่น่าใจหายก็ “ดร.อาณัติ” ท่านบอกว่า ช่วงนี้ ระบบอาณัติสัญญาณถูกคลื่นรบกวน คาดว่าในสิ้นปีนี้ จะวางระบบป้องกันคลื่นรบกวนได้ตลอดเส้นทาง .. โปรดฟังอีกครั้ง “สิ้นปีนี้” ถึงจะแก้ปัญหาได้ ก็นับไปอีก 6 เดือน กับการเอาชีวิตไปแขวนไว้กับระบบขขนส่งมวลชน ที่แทบไม่มีทางเลือก .. เป็นที่มาของเทรนด์ฮิต “#ยกเลิกสัมปทานBTS” สะท้อนความรู้สึกของผู้โดยสาร ที่ประสบชะตากรรมกับการให้บริหารของ “บีทีเอส” มาอย่างยาวนาน .. ด้วยคงมองว่า “บีทีเอส” ทำตัวเป็น “เสือนอนกิน” กอดสัญญาสัมปทานประเภท “เจ๊งเช้า เจ๊งเย็น ไม่เน้นบริการ” ที่เปิดช่องให้ขึ้นค่าโดยสารจนแพงหูฉี่ แต่บริการไม่เอาอ่าว .. แต่จะหวังให้แคมเปญ “# ยกเลิกสัมปทานBTS”เป็นจริง ก็คงได้แค่ฝัน แม้อำนาจตัดสินใจจะอยู่ที่ “กรุงเทพมหานคร” (กทม.) ก็จริง แต่การประเมินอยู่ที่ “ค่าเฉลี่ย” ความล่าช้าของรถไฟฟ้า ไม่ต่ำกว่า 97.5% .. แต่เชื่อไหมว่า เจ๊งกันวันเว้นวันแบบนี้ ทางบีทีเอส ยังแจ้งไว้ว่า เกิน 99% ด้วยเทคนิคที่คำนวณทุกขบวน ถัวเฉลี่ยให้ตาย ก็ไม่มีตกเกณฑ์ .. แล้ว “บีทีเอส” ก็คงจะอยู่คู่ “คนกรุง - คนไทย” ไปอีกนานแสนนาน จากสัญญาฉบับปัจจุบัน ที่จะไปหมดเอาปี 2585 นู่น .. อันเป็น “มรดกต่างหน้า”ที่ “หม่อมหมู” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร อดีตผู้ว่าฯกทม. ขวัญใจประชาชน เจ้าของคอนเซปต์ “ชีวิตคนกรุงเทพ ชีวิตดีๆ ที่ลงตัว” ทิ้งเอาไว้ก่อนพ้นตำแหน่งไม่นาน .. ที่จู่ๆ ก็นึกครึ้ม ต่ออายุสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้า บีทีเอส ที่เหลือสัญญาเดิมจาก 17 ปี หมดปี 2572 เพิ่มให้อีก 13 ปี รวมอายุสัมปทานเป็น 30 ปี ไปหมดปี 2585 .. เป็นการต่อสัญญาที่มีคดีเข้าข่ายฮั้ว-เอื้อประโยชน์ ที่ “ดีเอสไอ”ชงมาให้ “ป.ป.ช.”แล้ว แต่ค้างมาหลายปี ก็ยังเงียบเชียบผิดปกติ .. ถ้าจะลุ้นยกเลิกสัญญาจริงๆ คงต้องรวมใจกันแช่งให้ ป.ป.ช. รีบทำคดี แล้วลงดาบเชือด “หม่อมหมู”ซะละมั้ง
**เผื่อฟลุคได้อยู่ต่อ!! “กกต.รักษาการ”สั่งสอบคลิป “ทักษิณ” ขู่ยุบ “เพื่อไทย”ฐานเข้าข่ายครอบงำพรรค โชว์ผลงานเตะตา “ผู้มีอำนาจ”ที่หมาย เจาะยาง “พรรคทักษิณ”หวังเป็นไม้เด็ดได้ต่อวีซ่าคุมเลือกตั้ง ในยามที่ “กกต.ชุดใหม่”ยังลูกผีลูกคน อาจถูกกดปุ่มคว่ำทั้งกระดาน อีกครั้ง
ออกตัวล้อฟรีเลยทีเดียว .. ตามข่าวที่ว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตรียมที่จะพิจารณาเอาผิดคลิปที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯหนีคดี พูดปลุกใจสมุนว่า พรรคเพื่อไทยจะชนะเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างแน่นอน .. เห็นว่า พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต.ป้ายแดง ระบุว่า อาจจะเข้าข่าย “ครอบงำพรรค” โดยที่ “กกต.ชุดใหญ่”ได้มอบหมายให้ สำนักกิจการพรรคการเมืองฯ รวบรวมตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนชงเข้าที่ประชุมในวันนี้ (26 มิ.ย.) .. เห็นข่าวแบบนี้ก็ใจคอไม่ดี เพราะถ้าแค่ “คนนอก” วิเคราะห์สถานการณ์การเมือง ถึงกับต้อง “ยุบพรรค” มีหวังพรรคการเมืองทั่วฟ้าเมืองไทย ได้สูญพันธุ์กันหมด .. ต้องไม่ลืมว่าอำนาจ“ชี้เป็นชี้ตาย” ของ กกต. ที่จะใช้ “ดุลพินิจ” สั่งสอบและยุบพรรค หากพบว่าปล่อยให้ “คนนอก” ครอบงำพรรค ก็เหมือน “ดาบสองคม” .. เอาง่ายๆ ไม่ใช่แค่พรรคเพื่อไทย ที่จะมีปัญหาเรื่องนี้ อย่าง “พรรคพลังประชารัฐ” ที่ว่ากันว่า พะยี่ห้อ “พรรคทหาร” เองก็ไม่น่ารอด ทั้งการที่บุคคลที่อยู่เบื้องหลังยอมรับกลายๆ ว่ามีส่วนร่วมด้วย .. หรือการที่มี “นักการเมือง” คุยโขมงไปทั่วถึงปฏิบัติการ “กลุ่มสามมิตร” ของ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ – สมศักดิ์ เทพสุทิน ที่กำลังเดินสาย ต้อนอดีตผู้แทนฯ เข้าคอก “พลังประชารัฐ”เองทั้งยังไม่มีตำแหน่งแห่งที่อะไรในพรรค .. ขณะที่ “ทักษิณ” ก็พูดขี้หมู ขี้หมา ตามประสาคนพร่ำไปเรื่อย ไม่น่าจะเอามาเป็นสาระ ไม่ใกล้เคียงประเภท “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” อะไรเลย คงไม่น่าเอาตายกันถึงขั้น “ยุบพรรค” .. หากใช้ “บรรทัดฐานเดียวกัน” ก็คงต้องยุบตั้งแต่ยังไม่ได้ตั้งด้วยซ้ำ จนอยากจะเตือนว่า “เย็นไว้โยม” อย่าเพิ่งไปสร้างบรรทัดฐานอะไรแบบนั้น ..
ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไม “กกต.รักษาการ”ของประธาน ศุภชัย สมเจริญ ถึงดูขมีขมันเป็นพิเศษกับเรื่องนี้ ผิดวิสัยองค์กรอิสระที่ทำงาน “เชิงรับ”มาตลอด จู่ๆ คึกคัก “เปิดเกมรุก” บอกว่ามีอำนาจสอบ ไม่ต้องรอให้มีใครร้องเรียนซะอย่างนั้น .. ก็คงรับรู้ดีว่า “ฝ่ายคุมอำนาจ” มีธงเจาะยางพรรคเพื่อไทย ไม่ทางใดทางหนึ่ง พอ “ทักษิณ” แหลมออกมา เหมือนลูกไหลเข้าข้อให้ “กกต.รักษาการ” ได้โชว์ผลงาน .. ที่ไม่ได้หวังอะไรมากมาย แค่หวังพิชิตใจ “ผู้มีอำนาจ” เผื่อจับผลัดจับผลูได้อยู่กันยาวๆ ในยามที่ “กกต.ชุดใหม่” ยังลูกผีลูกคน .. แม้ชื่อของ “7 ว่าที่” จะอยู่ในชั้น สนช. รอแค่โหวตรับไม่รับ รอบไฟนอล ที่อาจจะนัดโหวตกันสัปดาห์นี้ แต่ก็มีข่าวทำนอง แม้ว่าจะไม่มีคิว “คว่ำกระดาน” เหมือนหนก่อน แต่ก็มี “บางราย” อาจต้องร่วง นำไปสู่กระบวนการสรรหากันใหม่ ยืดเยื้อออกไปอีก .. แต่ก็วางใจไม่ได้ ดีไม่ดีหาก “กกต.รักษาการ” โชว์ (สนอง) งานดี อาจจะกดปุ่มคว่ำทั้งกระดาน แล้วหันมาต่อวีซ่ายาวๆ ยกภารกิจคุมเลือกตั้งหนหน้าให้ กกต.ชุดนี้ ที่เหลือกันอยู่ 4 หน่อ ดูแลไปเลย ก็ได้ใครจะรู้ .. ก็โรดแมปเลือกตั้งรอบหน้า ก็อีกไม่ถึงปีเอง ตามที่ วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ตั้ง “ตุ๊กตา”ตามสูตร 3-3-5 หรือ 11 เดือน ไว้ว่า เร็วสุด 24 ก.พ.61 ช้าสุด 5 พ.ค.61 ในวงหารือกับ 74 พรรคการเมืองเมื่อวานนี้ (25 มิ.ย.)
**ฆาตกรก็คือฆาตกร!! “แอมเนสตี้ไทย”ทำงานคุ้มค่าจ้าง “องค์กรแม่” โวยวาย “ไอ้มิก”โดนประหารยังไม่จบดี กางปีกปกป้อง “ไอ้วุธ”ฆาตกรหั่นศพแฟนเก่า อ้าง “ไม่ใช่อาชญกรโดยกำเนิด” ยก “หมอวิสุทธิ์” ที่แค่ออกบวชหลังพ้นคุก ราวกับเป็น “องคุลีมาล”ที่บรรลุอรหันต์ หมายกลบความริยำ ของ “ไอ้โหด - ไอ้เหี้ยม”รายอื่นๆ
ความวัวไม่ทันหาย ความควายมาทันที .. หลังวิวาทะ “โทษประหาร”กรณี “ไอ้มิก” ฆาตกรรมฆ่าโหดแทง 24 แผล ที่กลายเป็นนักโทษเด็ดขาดถูกศาลฉีดยาพิษประหารชีวิตคนแรก ในรอบเกือบ 10 ปี ยังไม่ทันจาง .. ก็มีเรื่องคดีสะเทือนขวัญ “ไอ้วุธ” ฆ่าหั่นศพแฟนเก่ารวม 14 ชิ้นยัดกระสอบปุ๋ย โผล่ขึ้นมารับลูก ให้วิพากษ์กันต่อว่า เอาไม่เอาโทษประหาร .. เทียบกันแล้วเคสของ “ไอ้วุธ” ดูจะโหดกว่า “ไอ้มิก” ด้วยซ้ำ ด้วยพฤติการณ์ใช้ค้อนทุบผู้เสียชีวิตจนตายคาที่ แล้วยังนอนกับศพข้ามคืน เช้าทำทีออกไปทำงานตามปกติ .. แล้วจึงย้อนกลับมาหั่นศพ แยกชิ้นส่วนอย่างชำนิชำนาญ เอาไปทิ้งข้างทาง เมื่อถูกจับตัวได้ ก็สารภาพอย่างไม่รู้สึกรู้สา .. ยังไม่ทันเข้ากระบวนการยุติธรรมดี ก็มีเสียงเพรียกหาสิทธิให้กับ “ไอ้วุธ” ออกมาจาก “ขาประจำโลกสวย” ออกมาเรียกแขกกันอีกแล้ว ..
ตามคิวที่ สมศรี หาญอนันทสุข อดีตประธานองค์กรสิทธิมนุษยชน แอมเนสตี้ประเทศไทย และปัจจุบันก็ยังเป็นสมาชิกอยู่ .. มองว่า คดีหั่นศพของ “ไอ้วุธ” ก็เหมือนคดีฆ่ากันตายทั่วๆไป มูลเหตุมาจากความหึงหวง จึงมี “อารมณ์ชั่ววูบ” .. พร้อมปกป้องฆาตกรทุกคนว่า “ไม่ได้อาชญากรโดยกำเนิด”จึงควรที่จะมี “สิทธิในการมีชีวิต”อยู่ต่อไป แทนที่จะต้องถูกประหารชีวิต .. “เจ๊สมศรี” ยกกรณีตัวอย่างดีๆ “หมอวิสุทธิ์” ที่ฆ่าหั่นศพเมียตัวเอง แต่ก็ “สำนึกผิด”และปฏิบัติตัวดีทำประโยชน์ตอนอยู่ในคุก กระทั่งพ้นโทษ ก็มุ่งเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ เป็นตัวอย่างของ “คนที่กลับตัวแล้ว” .. เป็นการ “เลือกที่จะหยิบมาพูด” เหมือนเปรียบ “หมอวิสุทธิ์” เป็น “องคุลีมาล” ทั้งที่เดนคุกที่ออกบวช ยังไม่น่าจะสรุปได้ว่า กลับตัวกลับใจได้ด้วยซ้ำ .. แต่ที่ต้องยกขึ้นมา เพียงเพื่อเอามากลบความริยำตำบอนในกรณี “ไอ้โหด - ไอ้เหี้ยม” รายอื่นๆ ที่กระทำผิดซ้ำหลังพ้นโทษกันอย่างดาดดื่น .. ก็เข้าใจบทบาทของ “แอมเนสตี้” ที่ทำหน้าที่เรียกร้องสิทธิมนุษยชนอย่างแข็งขัน ตามคอนเซปต์ “ไม่มีงานฟรีในโลก” รับค่าจ้าง-ค่าตำแหน่งมาแล้ว ก็ต้องมีแอคชั่น ตามแนวทางของ “องค์กรแม่” .. หากแต่ถามกลับว่า หาก “แอมเนสตี้” ยืนข้างฆาตกร แล้ว “ผู้เสียชีวิต - ครอบครัวผู้ตาย”จะไปทวงถาม “สิทธิในการมีชีวิต” กับใครที่ไหนดี .. ยังไม่รวมภาระรับผิดชอบที่รัฐต้องเลี้ยงดู “ฆาตกรใจเหี้ยม”อันมาจากภาษีประชาชนอีกล่ะ คงไม่ต้องถึงขนาดให้เอา “ไอ้โหด - ไอ้เหี้ยม”ไปเลี้ยงดูที่บ้านของ “พวกโลกสวย” หรอกนะ .. ไม่มีใครเป็นอาญกรโดยกำเนิด แต่เมื่อฆ่าคนตาย ฆาตกรก็ย่อมเป็นฆาตกรอยู่วันยันค่ำ อมุนษย์ประเภทนี้แล้วก็ไม่น่าเลี้ยงเอาไว้ทำพันธุ์หรอก.
ช.ชฎา
รูป - ประชาชนรอรถไฟฟ้า BTS สุรพงษ์ เลาหะอัญญา - อาณัติ อาภาภิรม
-พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา- ศุภชัย สมเจริญ - ทักษิณ ชินวัตร
-- สมศรี หาญอนันทสุข
**รถไฟฟ้าไม่มานะเธอ!! “บีทีเอส”คงคอนเซปต์ “เจ๊งเช้า เจ๊งเย็น ไม่เน้นบริการ” ครึ่งปีเสียไปแล้ว 28 หน มิ.ย.เดือนเดียว ขัดข้องแทบจะวันเว้นวัน “บิ๊กบีทีเอส”ยักไหล่ สิ้นปีน่าจะแก้ปัญหาได้ โซเชี่ยลฯ จุดกระแส “ยกเลิกสัมปทาน”เหตุเอาแต่ขึ้นค่าตั๋ว-ไม่เคยปรับปรุงบริการ แต่กางสัญญาที่“หม่อมหมู” ทิ้งไว้ต่างหน้า หมดตั้งปี 2585 นู่น
#ยกเลิกสัมปทาน BTS ..กลายเป็นแฮคแทกฮิตในทวิตเตอร์ ประจำวันจันทร์ ต้นสัปดาห์นี้ เมื่อ “รถไฟฟ้าบีทีเอส”จัดหนัก ขัดข้องใน “ชั่วโมงเร่งด่วน”ทั้ง “พีคเช้า-พีคเย็น”ทำเอาผู้โดยสารบ่นกันระงม .. จากที่เคยมีมอตโตติดปากตามหนังฮิต “รถไฟฟ้ามาหานะเธอ”กลายเป็น “รถไฟฟ้าไม่มานะเธอ”ผู้โดยสารที่เคารพต้องรอกันเหงือกแห้ง .. รอบเช้าว่าหนักแล้ว บอกขอเวลาแก้ไข 10 นาที ล่อไปกว่า 4 ชั่วโมง รอบเย็นยิ่งสาหัสกว่า ไม่บอกไม่กล่าว บอกผู้โดยสารรออย่างไร้ความหวัง .. แล้วระบบการแจ้งเตือน ก็ “ขาดความเป็นมืออาชีพ” อย่างสิ้นเชิง รถขัดข้อง คนล้นสถานี “หนูด่วน” เพจ อย่างเป็นทางการ ยังขอความร่วมมือ อย่ารับประทานอาหารในระบบอยู่เลย ขณะที่เสียงประกาศบนสถานี พร่ำพูด “ขอเวลาแก้ไข 10 นาที” บ้าง “กำลังเข้าสู่ภาวะปกติ” บ้าง ทั้งที่ยังซ่อมไม่เสร็จ .. เจอแบบนี้เข้าไป อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เต้นผาง เรียก “บิ๊กบีทีเอส” ทั้ง สุรพงษ์ เลาหะอัญญา - อาณัติ อาภาภิรม ชี้แจง .. แต่ก็ไม่ได้อะไรมาก มีเพียง “ข้ออ้าง”ว่า ระบบอาณัติสัญญานรถขัดข้อง เนื่องจากอยู่ในระหว่างติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณสายสีเขียวใต้ .. กลายเป็นเรื่องทางเทคนิคที่แก้ไม่ตก แต่ทำไมไม่บอกกันก่อน ให้ “หนูด่วน” แจ้งล่วงหน้าซักนิด ให้คนได้วางแผนการเดินทางกันบ้าง กระทบทั้งการงาน-ชีวิตประจำวัน .. ก็ไม่ใช่แค่เมื่อวาน ที่เป็นปัญหา เจอขุดไปตั้งแต่ต้นปี ยังไม่ครบ 6 เดือนดี ทั้งเสีย ทั้งขัดข้องรวมแล้ว 28 หน เอาแค่เดือน มิ.ย. ที่แทบจะ “วันเว้นวัน”ยังไม่หมดเดือน ขัดข้องได้โล่ไป 9 ครั้งเต็มๆ ..
ที่น่าใจหายก็ “ดร.อาณัติ” ท่านบอกว่า ช่วงนี้ ระบบอาณัติสัญญาณถูกคลื่นรบกวน คาดว่าในสิ้นปีนี้ จะวางระบบป้องกันคลื่นรบกวนได้ตลอดเส้นทาง .. โปรดฟังอีกครั้ง “สิ้นปีนี้” ถึงจะแก้ปัญหาได้ ก็นับไปอีก 6 เดือน กับการเอาชีวิตไปแขวนไว้กับระบบขขนส่งมวลชน ที่แทบไม่มีทางเลือก .. เป็นที่มาของเทรนด์ฮิต “#ยกเลิกสัมปทานBTS” สะท้อนความรู้สึกของผู้โดยสาร ที่ประสบชะตากรรมกับการให้บริหารของ “บีทีเอส” มาอย่างยาวนาน .. ด้วยคงมองว่า “บีทีเอส” ทำตัวเป็น “เสือนอนกิน” กอดสัญญาสัมปทานประเภท “เจ๊งเช้า เจ๊งเย็น ไม่เน้นบริการ” ที่เปิดช่องให้ขึ้นค่าโดยสารจนแพงหูฉี่ แต่บริการไม่เอาอ่าว .. แต่จะหวังให้แคมเปญ “# ยกเลิกสัมปทานBTS”เป็นจริง ก็คงได้แค่ฝัน แม้อำนาจตัดสินใจจะอยู่ที่ “กรุงเทพมหานคร” (กทม.) ก็จริง แต่การประเมินอยู่ที่ “ค่าเฉลี่ย” ความล่าช้าของรถไฟฟ้า ไม่ต่ำกว่า 97.5% .. แต่เชื่อไหมว่า เจ๊งกันวันเว้นวันแบบนี้ ทางบีทีเอส ยังแจ้งไว้ว่า เกิน 99% ด้วยเทคนิคที่คำนวณทุกขบวน ถัวเฉลี่ยให้ตาย ก็ไม่มีตกเกณฑ์ .. แล้ว “บีทีเอส” ก็คงจะอยู่คู่ “คนกรุง - คนไทย” ไปอีกนานแสนนาน จากสัญญาฉบับปัจจุบัน ที่จะไปหมดเอาปี 2585 นู่น .. อันเป็น “มรดกต่างหน้า”ที่ “หม่อมหมู” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร อดีตผู้ว่าฯกทม. ขวัญใจประชาชน เจ้าของคอนเซปต์ “ชีวิตคนกรุงเทพ ชีวิตดีๆ ที่ลงตัว” ทิ้งเอาไว้ก่อนพ้นตำแหน่งไม่นาน .. ที่จู่ๆ ก็นึกครึ้ม ต่ออายุสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้า บีทีเอส ที่เหลือสัญญาเดิมจาก 17 ปี หมดปี 2572 เพิ่มให้อีก 13 ปี รวมอายุสัมปทานเป็น 30 ปี ไปหมดปี 2585 .. เป็นการต่อสัญญาที่มีคดีเข้าข่ายฮั้ว-เอื้อประโยชน์ ที่ “ดีเอสไอ”ชงมาให้ “ป.ป.ช.”แล้ว แต่ค้างมาหลายปี ก็ยังเงียบเชียบผิดปกติ .. ถ้าจะลุ้นยกเลิกสัญญาจริงๆ คงต้องรวมใจกันแช่งให้ ป.ป.ช. รีบทำคดี แล้วลงดาบเชือด “หม่อมหมู”ซะละมั้ง
**เผื่อฟลุคได้อยู่ต่อ!! “กกต.รักษาการ”สั่งสอบคลิป “ทักษิณ” ขู่ยุบ “เพื่อไทย”ฐานเข้าข่ายครอบงำพรรค โชว์ผลงานเตะตา “ผู้มีอำนาจ”ที่หมาย เจาะยาง “พรรคทักษิณ”หวังเป็นไม้เด็ดได้ต่อวีซ่าคุมเลือกตั้ง ในยามที่ “กกต.ชุดใหม่”ยังลูกผีลูกคน อาจถูกกดปุ่มคว่ำทั้งกระดาน อีกครั้ง
ออกตัวล้อฟรีเลยทีเดียว .. ตามข่าวที่ว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตรียมที่จะพิจารณาเอาผิดคลิปที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯหนีคดี พูดปลุกใจสมุนว่า พรรคเพื่อไทยจะชนะเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างแน่นอน .. เห็นว่า พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต.ป้ายแดง ระบุว่า อาจจะเข้าข่าย “ครอบงำพรรค” โดยที่ “กกต.ชุดใหญ่”ได้มอบหมายให้ สำนักกิจการพรรคการเมืองฯ รวบรวมตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนชงเข้าที่ประชุมในวันนี้ (26 มิ.ย.) .. เห็นข่าวแบบนี้ก็ใจคอไม่ดี เพราะถ้าแค่ “คนนอก” วิเคราะห์สถานการณ์การเมือง ถึงกับต้อง “ยุบพรรค” มีหวังพรรคการเมืองทั่วฟ้าเมืองไทย ได้สูญพันธุ์กันหมด .. ต้องไม่ลืมว่าอำนาจ“ชี้เป็นชี้ตาย” ของ กกต. ที่จะใช้ “ดุลพินิจ” สั่งสอบและยุบพรรค หากพบว่าปล่อยให้ “คนนอก” ครอบงำพรรค ก็เหมือน “ดาบสองคม” .. เอาง่ายๆ ไม่ใช่แค่พรรคเพื่อไทย ที่จะมีปัญหาเรื่องนี้ อย่าง “พรรคพลังประชารัฐ” ที่ว่ากันว่า พะยี่ห้อ “พรรคทหาร” เองก็ไม่น่ารอด ทั้งการที่บุคคลที่อยู่เบื้องหลังยอมรับกลายๆ ว่ามีส่วนร่วมด้วย .. หรือการที่มี “นักการเมือง” คุยโขมงไปทั่วถึงปฏิบัติการ “กลุ่มสามมิตร” ของ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ – สมศักดิ์ เทพสุทิน ที่กำลังเดินสาย ต้อนอดีตผู้แทนฯ เข้าคอก “พลังประชารัฐ”เองทั้งยังไม่มีตำแหน่งแห่งที่อะไรในพรรค .. ขณะที่ “ทักษิณ” ก็พูดขี้หมู ขี้หมา ตามประสาคนพร่ำไปเรื่อย ไม่น่าจะเอามาเป็นสาระ ไม่ใกล้เคียงประเภท “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” อะไรเลย คงไม่น่าเอาตายกันถึงขั้น “ยุบพรรค” .. หากใช้ “บรรทัดฐานเดียวกัน” ก็คงต้องยุบตั้งแต่ยังไม่ได้ตั้งด้วยซ้ำ จนอยากจะเตือนว่า “เย็นไว้โยม” อย่าเพิ่งไปสร้างบรรทัดฐานอะไรแบบนั้น ..
ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไม “กกต.รักษาการ”ของประธาน ศุภชัย สมเจริญ ถึงดูขมีขมันเป็นพิเศษกับเรื่องนี้ ผิดวิสัยองค์กรอิสระที่ทำงาน “เชิงรับ”มาตลอด จู่ๆ คึกคัก “เปิดเกมรุก” บอกว่ามีอำนาจสอบ ไม่ต้องรอให้มีใครร้องเรียนซะอย่างนั้น .. ก็คงรับรู้ดีว่า “ฝ่ายคุมอำนาจ” มีธงเจาะยางพรรคเพื่อไทย ไม่ทางใดทางหนึ่ง พอ “ทักษิณ” แหลมออกมา เหมือนลูกไหลเข้าข้อให้ “กกต.รักษาการ” ได้โชว์ผลงาน .. ที่ไม่ได้หวังอะไรมากมาย แค่หวังพิชิตใจ “ผู้มีอำนาจ” เผื่อจับผลัดจับผลูได้อยู่กันยาวๆ ในยามที่ “กกต.ชุดใหม่” ยังลูกผีลูกคน .. แม้ชื่อของ “7 ว่าที่” จะอยู่ในชั้น สนช. รอแค่โหวตรับไม่รับ รอบไฟนอล ที่อาจจะนัดโหวตกันสัปดาห์นี้ แต่ก็มีข่าวทำนอง แม้ว่าจะไม่มีคิว “คว่ำกระดาน” เหมือนหนก่อน แต่ก็มี “บางราย” อาจต้องร่วง นำไปสู่กระบวนการสรรหากันใหม่ ยืดเยื้อออกไปอีก .. แต่ก็วางใจไม่ได้ ดีไม่ดีหาก “กกต.รักษาการ” โชว์ (สนอง) งานดี อาจจะกดปุ่มคว่ำทั้งกระดาน แล้วหันมาต่อวีซ่ายาวๆ ยกภารกิจคุมเลือกตั้งหนหน้าให้ กกต.ชุดนี้ ที่เหลือกันอยู่ 4 หน่อ ดูแลไปเลย ก็ได้ใครจะรู้ .. ก็โรดแมปเลือกตั้งรอบหน้า ก็อีกไม่ถึงปีเอง ตามที่ วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ตั้ง “ตุ๊กตา”ตามสูตร 3-3-5 หรือ 11 เดือน ไว้ว่า เร็วสุด 24 ก.พ.61 ช้าสุด 5 พ.ค.61 ในวงหารือกับ 74 พรรคการเมืองเมื่อวานนี้ (25 มิ.ย.)
**ฆาตกรก็คือฆาตกร!! “แอมเนสตี้ไทย”ทำงานคุ้มค่าจ้าง “องค์กรแม่” โวยวาย “ไอ้มิก”โดนประหารยังไม่จบดี กางปีกปกป้อง “ไอ้วุธ”ฆาตกรหั่นศพแฟนเก่า อ้าง “ไม่ใช่อาชญกรโดยกำเนิด” ยก “หมอวิสุทธิ์” ที่แค่ออกบวชหลังพ้นคุก ราวกับเป็น “องคุลีมาล”ที่บรรลุอรหันต์ หมายกลบความริยำ ของ “ไอ้โหด - ไอ้เหี้ยม”รายอื่นๆ
ความวัวไม่ทันหาย ความควายมาทันที .. หลังวิวาทะ “โทษประหาร”กรณี “ไอ้มิก” ฆาตกรรมฆ่าโหดแทง 24 แผล ที่กลายเป็นนักโทษเด็ดขาดถูกศาลฉีดยาพิษประหารชีวิตคนแรก ในรอบเกือบ 10 ปี ยังไม่ทันจาง .. ก็มีเรื่องคดีสะเทือนขวัญ “ไอ้วุธ” ฆ่าหั่นศพแฟนเก่ารวม 14 ชิ้นยัดกระสอบปุ๋ย โผล่ขึ้นมารับลูก ให้วิพากษ์กันต่อว่า เอาไม่เอาโทษประหาร .. เทียบกันแล้วเคสของ “ไอ้วุธ” ดูจะโหดกว่า “ไอ้มิก” ด้วยซ้ำ ด้วยพฤติการณ์ใช้ค้อนทุบผู้เสียชีวิตจนตายคาที่ แล้วยังนอนกับศพข้ามคืน เช้าทำทีออกไปทำงานตามปกติ .. แล้วจึงย้อนกลับมาหั่นศพ แยกชิ้นส่วนอย่างชำนิชำนาญ เอาไปทิ้งข้างทาง เมื่อถูกจับตัวได้ ก็สารภาพอย่างไม่รู้สึกรู้สา .. ยังไม่ทันเข้ากระบวนการยุติธรรมดี ก็มีเสียงเพรียกหาสิทธิให้กับ “ไอ้วุธ” ออกมาจาก “ขาประจำโลกสวย” ออกมาเรียกแขกกันอีกแล้ว ..
ตามคิวที่ สมศรี หาญอนันทสุข อดีตประธานองค์กรสิทธิมนุษยชน แอมเนสตี้ประเทศไทย และปัจจุบันก็ยังเป็นสมาชิกอยู่ .. มองว่า คดีหั่นศพของ “ไอ้วุธ” ก็เหมือนคดีฆ่ากันตายทั่วๆไป มูลเหตุมาจากความหึงหวง จึงมี “อารมณ์ชั่ววูบ” .. พร้อมปกป้องฆาตกรทุกคนว่า “ไม่ได้อาชญากรโดยกำเนิด”จึงควรที่จะมี “สิทธิในการมีชีวิต”อยู่ต่อไป แทนที่จะต้องถูกประหารชีวิต .. “เจ๊สมศรี” ยกกรณีตัวอย่างดีๆ “หมอวิสุทธิ์” ที่ฆ่าหั่นศพเมียตัวเอง แต่ก็ “สำนึกผิด”และปฏิบัติตัวดีทำประโยชน์ตอนอยู่ในคุก กระทั่งพ้นโทษ ก็มุ่งเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ เป็นตัวอย่างของ “คนที่กลับตัวแล้ว” .. เป็นการ “เลือกที่จะหยิบมาพูด” เหมือนเปรียบ “หมอวิสุทธิ์” เป็น “องคุลีมาล” ทั้งที่เดนคุกที่ออกบวช ยังไม่น่าจะสรุปได้ว่า กลับตัวกลับใจได้ด้วยซ้ำ .. แต่ที่ต้องยกขึ้นมา เพียงเพื่อเอามากลบความริยำตำบอนในกรณี “ไอ้โหด - ไอ้เหี้ยม” รายอื่นๆ ที่กระทำผิดซ้ำหลังพ้นโทษกันอย่างดาดดื่น .. ก็เข้าใจบทบาทของ “แอมเนสตี้” ที่ทำหน้าที่เรียกร้องสิทธิมนุษยชนอย่างแข็งขัน ตามคอนเซปต์ “ไม่มีงานฟรีในโลก” รับค่าจ้าง-ค่าตำแหน่งมาแล้ว ก็ต้องมีแอคชั่น ตามแนวทางของ “องค์กรแม่” .. หากแต่ถามกลับว่า หาก “แอมเนสตี้” ยืนข้างฆาตกร แล้ว “ผู้เสียชีวิต - ครอบครัวผู้ตาย”จะไปทวงถาม “สิทธิในการมีชีวิต” กับใครที่ไหนดี .. ยังไม่รวมภาระรับผิดชอบที่รัฐต้องเลี้ยงดู “ฆาตกรใจเหี้ยม”อันมาจากภาษีประชาชนอีกล่ะ คงไม่ต้องถึงขนาดให้เอา “ไอ้โหด - ไอ้เหี้ยม”ไปเลี้ยงดูที่บ้านของ “พวกโลกสวย” หรอกนะ .. ไม่มีใครเป็นอาญกรโดยกำเนิด แต่เมื่อฆ่าคนตาย ฆาตกรก็ย่อมเป็นฆาตกรอยู่วันยันค่ำ อมุนษย์ประเภทนี้แล้วก็ไม่น่าเลี้ยงเอาไว้ทำพันธุ์หรอก.
ช.ชฎา
รูป - ประชาชนรอรถไฟฟ้า BTS สุรพงษ์ เลาหะอัญญา - อาณัติ อาภาภิรม
-พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา- ศุภชัย สมเจริญ - ทักษิณ ชินวัตร
-- สมศรี หาญอนันทสุข