อดีต รมว.คลัง ติง รมว.พลังงาน ตอบคำถามราคาน้ำมันผ่านรายการ “เดินหน้าประเทศไทย” แบบเลี่ยงบาลี ไม่ยอมตอบปัญหาหลักเรื่องการเฉือนเนื้อคนไทยให้โรงกลั่นและประเทศเพื่อนบ้าน และการก๊อบปี้นโยบายน้ำมันไปใช้กับก๊าซหุงต้ม ยังอ้างเหตุผลเดิมๆ ต้องส่งออกราคาต่ำเพื่อแข่งกับสิงคโปร์ จี้ตอบใหม่ให้เข้าประเด็น พร้อมแนะใช้แนวทางรัฐบาล “ชวน หลีกภัย” ให้ขายคนในประเทศเท่าราคาส่งออก
ภายหลังจาก นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ชี้แจงปัญหาราคาน้ำมันผ่านรายการ “เดินหน้าประเทศไทย” เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Thirachai Phuvanatnaranubala วิจารณ์กรณีดังกล่าว ในหัวข้อ "รัฐมนตรีพลังงานเลี่ยงบาลีเรื่องนโยบายของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์!"โดยระบุว่า นายศิริ พยายามเลี่ยงบาลีไม่ตอบปัญหาสำคัญ 3 ประเด็น คือ คนไทยถูกเฉือนเนื้อไปให้โรงกลั่นน้ำมันหรือไม่, คนไทยถูกเฉือนเนื้อไปให้ประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ และ รัฐบาลก๊อปปี้นโยบายผิดสำหรับน้ำมันเอาไปใช้กับก๊าซหุงต้ม เพื่อเฉือนเนื้อคนไทยไปให้บริษัทพลังงานหรือไม่
ทั้งนี้ นายธีระชัย ยังได้เสนอให้เปลี่ยนนโยบายราคาน้ำมันที่ขายให้คนไทย เนื่องจากการที่โรงกลั่นเอากำไรจากคนไทยไปตัดราคาส่งออกอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน ทำให้คนไทยเสียเปรียบ โดยคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ในสมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย เคยกำหนดแนวทางให้โรงกลั่นน้ำมันขายให้คนไทยในราคาเท่ากับที่ส่งออก ซึ่งเป็นไปตามหลักเศรษฐศาสตร์ แต่น่าเสียดายที่ ปตท. ไม่ได้ดำเนินการตาม
ส่วนคำชี้แจงของรัฐมนตรีพลังงาน ที่บอกว่า ราคาส่งออกน้ำมันที่ต่ำกว่าราคาขายในประเทศเพราะต้องแข่งขันกับสิงคโปร์นั้น นายธีระชัย เห็นว่า ตามหลักเศรษฐศาสตร์ การที่ธุรกิจเอกชนทั่วไปจะเอากำไรในประเทศไปตัดราคาส่งออกนั้น เป็นสิทธิโดยชอบธรรมของธุรกิจแต่มีเงื่อนไขว่า กำไรที่ได้ในประเทศต้องมาจากความสามารถตัวเอง แต่กรณีโรงกลั่น กำไรในประเทศไม่ใช่กำไรที่เกิดจากการแข่งขันเสรี แต่บางส่วนเป็นกำไรที่เกิดขึ้นจากอภิสิทธิ์ เป็นกำไรที่เกิดขึ้นจากนโยบายของรัฐ และแรงจูงใจที่บิดเบือนนี้กำลังจะสร้างปัญหาหนักขึ้น เพราะหลายโรงกลั่นยังวางแผนที่จะขยายกำลังการกลั่นเพื่อส่งออก จึงขอเรียกร้องให้รัฐมนตรีพลังงาน ชี้แจงอีกครั้ง โดยให้โฟกัสตรงกับ 3 ประเด็นปัญหาที่กล่าวถึงข้างต้น
รายละเอียดข้อความในเฟซบุ๊กนายธีระชัย
“รัฐมนตรีพลังงานเลี่ยงบาลีเรื่องนโยบายของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์!”
ที่ผ่านมา ผมวิจารณ์นโยบายของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ เกี่ยวกับเรื่องน้ำมัน ปรากฏว่า ผู้บริหารของโรงกลั่นสองคนออกมาชี้แจง
แต่ชี้แจงไม่เป็นโล้เป็นพาย ถูกผมและประชาชนผู้อ่านตอกกลับ จนหน้าหงาย
หลังจากนั้น ผมก็รอว่าจะมีใครในรัฐบาล ออกมาชี้แจงอีกหรือไม่
เมื่อวานวันที่ 14 มิถุนายน ก็มีคนระดับเสนาบดีออกมาเป็นครั้งแรก ในรายการชื่อว่า “เดินหน้าประเทศไทย”
ดร.ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีพลังงาน เป็นคนร่ายยาวเอง เพื่อแก้ต่างนโยบายของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์
แต่ปรากฏว่า เลี่ยงไม่ตอบประเด็นปัญหาที่ผมยกขึ้น!
ผมชี้ปัญหา 3 ข้อ
ปัญหาที่หนึ่ง คนไทยถูกเฉือนเนื้อ ไปให้โรงกลั่นน้ำมัน หรือไม่?
ปัญหาที่สอง คนไทยถูกเฉือนเนื้อ ไปให้ประเทศเพื่อนบ้าน หรือไม่?
ปัญหาที่สาม รัฐบาลก้อปปี้นโยบายผิดสำหรับน้ำมัน เอาไปใช้กับก๊าซหุงต้ม เพื่อเฉือนเนื้อคนไทย ไปให้บริษัทพลังงาน หรือไม่?
* ปัญหาที่หนึ่ง *
รัฐบาลในอดีตให้โรงกลั่นได้รับค่าการกลั่นและกำไรสูง โดยนอกจากอ้างอิงราคาสิงคโปร์ ยังให้บวกค่าขนส่งเทียมจากสิงคโปร์มายังประเทศไทยด้วย
นโยบายดังกล่าวเหมาะสม ในห้วงเวลาที่กำลังผลิตไม่เพียงพอกับความต้องการในประเทศ
แต่ในสภาวะปัจจุบัน กำลังกลั่นมีเพียงพอแล้ว
ถ้าไม่ทบทวนนโยบายนี้ ก็จะเข้าข่ายเอื้อเฟื้อโรงกลั่นน้ำมันเกินจำเป็น เอาเปรียบประชาชน
เป็นการเฉือนเนื้อคนไทย ที่ใช้น้ำมันแต่ละวัน 140 ล้านลิตร ไปให้โรงกลั่น !
แต่เหตุใดรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จึงไม่ทำการแก้ไข?
รัฐมนตรีพลังงานไม่ตอบคำถามนี้
* ปัญหาที่สอง *
นโยบายนี้เปิดช่องให้โรงกลั่นสามารถเอากำไรจากคนไทย ไปตัดราคาส่งออกเพื่อแข่งขันกับสิงคโปร์
ดังปรากฏหลักฐานว่า ราคาส่งออกต่ำกว่าราคาขายในประเทศอย่างมาก
และทุกวันนี้ ถึงแม้โรงกลั่นน้ำมันในประเทศ มีกำลังผลิตเกินกว่าความต้องการในประเทศอยู่แล้ว เกือบหนึ่งในห้า ...
แต่ก็ยังมีหลายโรงกลั่น ที่วางแผนขยายเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต
รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ก็รู้สภาพปัญหาดี เพราะตัวเลขส่งออกขึ้นไปถึงระดับ 2 แสนบาร์เรลต่อวัน
ในแต่ละวัน ไทยส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปกว่า 30 ล้านลิตร เป็นการเฉือนเนื้อคนไทยก้อนใหญ่ ไปให้ประเทศเพื่อนบ้าน!
แต่ถึงแม้รัฐบาลพลเอกประยุทธ์เห็นปัญหานี้อย่างชัดเจน เหตุใดจึงไม่แก้ไข?
รัฐมนตรีพลังงานไม่ตอบคำถามนี้เช่นกัน
* ปัญหาที่สาม *
แทนที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์จะยกเลิกนโยบายผิด สำหรับน้ำมัน กลับก้อปปี้เอาไปใช้กับก๊าซหุงต้ม
โดยยกเลิกเพดานที่รัฐบาลในอดีตใช้คุ้มครองครัวเรือน เปลี่ยนเป็นอ้างอิงตลาดโลก เลียนแบบน้ำมัน
นโยบายดังกล่าว ทำให้บริษัทพลังงานกำไรเพิ่มขึ้นอูฟู แต่คนไทยเดือดร้อนอย่างกว้างขวาง เพราะกระทบลงไปถึงระดับคนเดินดิน กินข้าวแกง
จึงต้องถามว่า เหตุผลที่ไม่ยกเลิกนโยบายที่ผิดสำหรับน้ำมัน เพราะต้องการก้อปปี้เอาไปใช้กับก๊าซหุงต้ม ใช่หรือไม่?
เข้าข่ายเป็นการเฉือนเนื้อคนไทย ไปให้บริษัทพลังงาน หรือไม่?
รัฐมนตรีพลังงานไม่ตอบคำถามนี้ด้วย
*** ถามว่า ควรเปลี่ยนนโยบายราคาน้ำมันขายคนไทยเป็นอย่างไร?
เนื่องจากโรงกลั่นยังมีสภาพผูกขาด โดยบริษัท ปตท. ยังถือหุ้นอยู่ใน 3 โรงกลั่น มากถึง 60% ของกำลังผลิตทั้งประเทศ
ดังนั้น ตลาดภายในประเทศจึงยังไม่มีการแข่งขันกันอย่างจริงจัง
การที่โรงกลั่นเอากำไรจากคนไทย ไปตัดราคาส่งออก จึงทำให้คนไทยเสียเปรียบ
คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ในสมัยรัฐบาลชวน หลีกภัย จึงได้กำหนดแนวทาง ให้โรงกลั่นน้ำมันขายแก่คนไทย ในราคาเท่ากับที่ส่งออก (export parity)
คนที่เป็นประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติดังกล่าว คือ ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ ปริญญาเอกเศรษฐศาสตร์จากเนเธอร์แลนด์ ศิษย์เอกของ ศ.ทินเบอร์เก้น รางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์
ดังนั้น แนวคิดว่าโรงกลั่นน้ำมันควรจะขายคนไทย ในราคาเท่ากับที่ส่งออก (export parity) จึงเป็นไปตามหลักเศรษฐศาสตร์ น่าเสียดายที่ ปตท. ไม่ได้ดำเนินการตามที่ท่านมีมติ
*** ถามว่า ในคลิปนี้ รัฐมนตรีพลังงานชี้แจงอะไรบ้าง?
* นาที 1.26 * บอกว่า สาเหตุที่ราคาน้ำมันในประเทศแพงขึ้นมาก เพราะสภาวะตลาดโลก
ประเด็นนี้แทบไม่ต้องอธิบาย ใครๆ ก็ยอมรับกันอยู่แล้ว ไม่มีใครฝืนตลาดโลกได้
* นาที 2.24 * บรรยายว่า เหตุผลที่ราคาขายปลีกในไทยสูง เพราะมีภาษีต่างๆ
ประเด็นนี้แทบไม่ต้องอธิบายเช่นกัน ใครๆ ก็ยอมรับกันอยู่แล้ว ภาษีที่เก็บ ก็เอาไปใช้พัฒนาประเทศ
* นาที 4.26 * บอกว่า ราคาส่งออกที่ต่ำนั้น เพราะต้องแข่งขันกับสิงคโปร์ ถ้าแพงกว่าสิงคโปร์ ลูกค้าย่อมไม่ซื้อจากไทย
คำชี้แจงนี้สำคัญ
ต้องขออธิบายหลักเศรษฐศาสตร์ก่อนว่า การที่ธุรกิจเอกชนทั่วไป จะเอากำไรในประเทศ ไปตัดราคาส่งออกนั้น เป็นสิทธิโดยชอบธรรมของธุรกิจ!
แต่มีเงื่อนไขว่า กำไรที่ได้ในประเทศ ต้องมาจากความสามารถตัวเอง!
แต่กรณีโรงกลั่น กำไรในประเทศ ไม่ใช่กำไรที่เกิดจากการแข่งขันเสรี
แต่บางส่วน เป็นกำไรที่เกิดขึ้นจากอภิสิทธิ์ เป็นกำไรที่เกิดขึ้น จากนโยบายของรัฐ
และแรงจูงใจที่บิดเบือนนี้ กำลังจะสร้างปัญหาหนักขึ้น เพราะหลายโรงกลั่นยังวางแผนที่จะขยายเพื่อส่งออก
จึงจำเป็นต้องแก้ไขปัญหานี้เป็นการเร่งด่วน แต่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์กลับละเลย!
*** ผมขอเรียกร้องให้รัฐมนตรีพลังงาน ชี้แจงอีกครั้งหนึ่ง แต่คราวนี้ ขอให้ท่านโฟกัส ขอให้ตรงกับ 3 ประเด็นปัญหาที่ผมกล่าวถึง
ท่านควรจะชี้แจงนะครับ ...
ท่านเรียนจบจากสถาบันคาลเทคและเอ็มไอทีในสหรัฐ ซึ่งทั้งสองสถาบันเป็นมหาวิทยาลัยดีเด่น Top ten ของโลก
ไม่ใช่ Top ten ธรรมดานะครับ แต่เป็น Top ten อันดับต้นๆ ทีเดียว
ดังนั้น ท่านย่อมเข้าใจเป็นอย่างดี ในสิ่งที่ ดร.ศุภชัย เคยตั้งข้อสังเกตไว้ และเข้าใจดีในคำถามของผม
ถ้าท่านไม่ชี้แจงให้เข้าเป้า ชาวบ้านจะเข้าใจได้อย่างไรว่า ...
รัฐบาลพลเอกประยุทธ์เห็นแก่ประโยชน์ของประชาชน มากกว่าบริษัทพลังงาน?