ข่าวปนคน คนปนข่าว
** อย่าเงียบสิใจคอไม่ดี!! ยึดทรัพย์ “ค้ามนุษย์วิคตอเรีย” เบาะๆ 463 ล้าน ไล่เส้นทางเงินดีๆ ยังมีอีกเพียบ ดีไม่ดีพันไปถึงเงินกู้ 300 ล้านที่ “เสี่ยอ๊อด” ยืมจาก “เสี่ยวิคตอเรีย” แต่น่าแปลก “ดีเอสไอ” สอบไปร่วม 3 เดือน กลับไร้ความคืบหน้า ทั้งที่เห็นทนโท่รับเงินตรงจาก “หัวหน้าแก๊งค้ามนุษย์”
บอกเลย ยังเหลืออีกเยอะ .. วันก่อน คณะกรรมการธุรกรรม ของ ปปง. เพิ่งมีมติให้ยึด-อายัดทรัพย์สินคดีค้ามนุษย์ สถานบริการอาบอบนวด วิคตอเรีย ซีเครท .. ทรัพย์สิน 45 รายการ รวมมูลค่ากว่า 463 ล้านบาท ทั้งที่อยู่ในชื่อ “เจ้าพ่อวิคตอเรีย” กำพล วิระเทพสุภรณ์ และเมีย รวมทั้งที่ซุก อยูในชื่อคนอื่นอีก .. แว่วว่า “เงินสีเทา” ของเครือวิคตอเรีย ไม่จบแค่ยอด 400 กว่าล้านนี่หรอก หากไล่เบี้ยเส้นทางการเงินดีๆ หลักร้อยคงน้อยไป ชัวร์คือหลักพัน อาจถึงแตะหลักหมื่นด้วยซ้ำ .. ด้วย “เงินสีเทา” ถูกยักย้ายถ่ายเทไปในหลายรูปแบบ หลายยอดมีการนำเข้าระบบ “ฟอก” จนกลายเป็น “เงินสีขาว” เรื่องพวกนี้เจ้าหน้าที่เขารู้หมด ขาดแค่หลักฐานเชื่อมโยงเท่านั้น .. ที่ปล่อยผ่านไม่ได้ ก็ยอดเงินกู้ 300 ล้านบาท จาก “เสี่ยกำพล” ที่ปล่อยให้กับ “เสี่ยอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. .. ที่กลายเป็น “ตลกร้าย” ฉาวโฉ่ไปทั่ว มีอย่างที่ไหน “จ่าฝูงหมาต๋า” ดันไปรับเงิน “เจ้าของอาบ อบ นวด” ที่ถูกดำเนินคดีค้ามนุษย์ .. ยิ่งน่าสนใจเมื่อเงินก้อนนี้ที่ไม่มากก็น้อยย่อมมาจากการค้ามนุษย์ ถูกนำเข้ามาในตลาดหุ้น แบบนี้มันไม่ใช่วิสัยปกติ .. รู้กันทั่ววงการว่า “เสี่ยอ๊อด” เป็นระดับ “ขาใหญ่” ในตลาดหุ้น พอร์ตลงทุนเป็นหมื่นล้าน แถมยังมีธุรกรรมซื้อขายหุ้นกับ “เสี่ยกำพล” อีกด้วย .. ครั้นจะบอกว่า แยกส่วนชัดเจนกันเฉพาะ “เงินสีขาว” มาซื้อขายหุ้น เด็กอนุบาลยังไม่เชื่อเลย ..
สิ่งที่ต้องตามต่อก็เงิน 300 ล้านบาทถูกผันไปกี่รอบ นำไปใช้ประโยชน์โภชน์ผลให้งอกเงยที่ไหน ใช้ทำธุรกรรมในตลาดหุ้นตัวไหนบ้าง .. อีกทั้งเมื่อเงินที่ได้มามันไม่บริสุทธิ์ ธุรกรรมที่นำไปใช้ จะเข้าข่ายความผิดหรือไม่ อันนี้คือสิ่งที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมีคำตอบ .. ความพยายามกลบเกลื่อนคดีเงินกู้ 300 ล้านบาท โดยการลาออกจากสมาชิก สนช. ของ “เสี่ยสมยศ” ประชดการที่ สนช. จะตั้งกรรมการสอบเรื่องปกปิดบัญชีทรัพย์สิน ต้องไม่ใช่ตอนจบของเรื่อง .. แบบนั้นมัน “มวยล้ม” แล้วยังไม่ไว้หน้า “รัฐบาลประยุทธ์” ที่เบ่งกล้ามใส่ “แก๊งค้ามนุษย์” ไม่ไว้หน้า แต่เห็นทนโท่ว่า “อดีต ผบ.ตร.” รับเงินผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ ดันเงียบเป็นเป่าสาก .. ขนาดทุจริตกองทุนเสมาฯ ของกระรวงศึกษาธิการ ยังเห็นว่าจะตั้งข้อหา “ฟอกเงิน” คนทุจริตกับคนรับเงิน เพื่อเปิดทางให้สอบเส้นทางการเงินเลย .. เงินตั้ง 300 ล้านบาทที่เกี่ยวโดยตรงกับ “แก๊งค้ามนุษย์” อีกทั้งยังเชื่อกันว่ามีการนำมา “เล่นกล” ในตลาดหุ้นด้วย ก็ควรใช้ “มาตรฐานสูง” เฉกเช่นเดียวกัน .. ออกจะเกินไปหน่อย ที่เมื่อ 3 เดือนก่อน “ดีเอสไอ” เคยเรียกตัว “สมยศ” ไปสอบเรื่องเงินกู้ จนป่านนี้ยังไม่มีคำแถลงคืบหน้าใดๆเลย .. เผอิญวันนี้ (11 พ.ค.61) ป.ป.ช. มีนัดเปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน “เสี่ยอ๊อด” ที่พ้นตำแหน่ง สนช. เมื่อเดือน มี.ค.พอดี ก็น่าจะถือโอกาสไล่เรียงให้สิ้นสงสัย .. ทั้งปมที่ว่าหนี้สิน 300 ล้านบาทไม่ปรากฏในบัญชีทรัพย์สินเมื่อครั้งรับตำแหน่ง สนช. แต่แม้จะไม่ปรากฏในบัญชี ก็ต้องควานหาให้เจอว่า เงินที่ว่าคืนไปแล้ว คืนกันจริง แล้วตอนนี้ไปอยู่ที่ไหนด้วย.
**ไดโนเสาร์คืนชีพ!! “ขุนทหาร” ปรับเป้า หวังยึด “พรรคเบอร์ 1” แค่ “เจ้าพ่อหัวเมือง” นับ 10 ก๊วนที่ดูดมาแล้วยังไม่พอ ต้องยืมมือ “ป๋าเหนาะ” ตั้ง “ล้งวังน้ำเย็น” ตกเขียวอดีตผู้แทนฯ ที่เคยดูแล เสริมนั่งร้าน “แกนนำตั้งรัฐบาล”
ดูดแหลกแต่ยังไม่หนำใจ .. พอดีดลูกคิดเคาะตัวเลขที่นั่ง ส.ส.ที่จะได้จาก “เจ้าพ่อหัวเมือง” นับ 10 ก๊วนที่เซย์เยส มาสวามิภักดิ์ “ขุนทหาร” แล้ว ต้องบอกว่า “ยังไม่พอ” .. ยังไม่ตอบโจทย์ “ศักดิ์ศรี” ของ “นายกฯตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เป็นถึง “หัวหน้ารัฐประหาร-รัฏฐาธิปัตย์” จะเอาชื่อไปอยู่ในโผนายกฯพรรคเล็กๆ มี ส.ส.แค่ 20-30 เสียง ตามประสา “หนูช่วยราชสีห์” ก็กระไรอยู่ .. แม้รัฐธรรมนูญจะกำหนดว่า พรรคที่มีเสียง 25 เสียงสามารถเสนอชื่อนายกฯได้ แต่ระดับนี้แล้ว คงไม่เลือก “ขั้นต่ำ” จะเอาเท่ๆ กลับมาแบบปังๆ ต้อง “เยอะเข้าว่า” .. ยิ่งคิดถึงการทำงานที่มีสภาผู้แทนฯ ที่เต็มไปด้วย “ฝ่านค้าน - ฝ่ายแค้น” ถ้าจะให้ดีต้องเป็น “เสียงข้างมาก” ไม่งั้นเดินลำบาก .. “พรรคแกนนำตั้งรัฐบาล” จึงกลายเป็นเป้าใหม่ของ “พรรคทหาร - พรรคประชารัฐ” .. เมื่อประเมินสรรพกำลังของกลุ่มก๊วนต่างๆ ที่ตอบรับเทียบเชิญแล้ว จากผลการเลือกตั้งปี 2554 ทั้งบัญชีรายชื่อ และแบ่งเขต ก็เริ่มเห็นเค้าลางของพรรคระดับ “100 ที่นั่งบวกลบ” .. กล่าวคือ ที่เป็นพรรคการเมือง ก็มี “ชาติไทยพัฒนา” 15-20 ที่นั่ง “พลังชล” 7 ที่นั่ง “ภูมิใจไทย” 25-30 ที่นั่ง “ชาติพัฒนา” 7-10 ที่นั่ง .. ที่เป็นกลุ่มก๊วน “บ้านริมน้ำ” 4-6 ที่นั่ง “พญานาค” 5 ที่นั่ง “มัชฌิมา” 10-15 ที่นั่ง “นครปฐม” 5 ที่นั่ง “สระบุรี” 2 ที่นั่ง และ “กปปส.” เต็มที่ 5 ที่นั่ง ก็สุดหรู .. นับแบบบอกผ่านเยอะๆ ยังได้แค่ 100 เสียงปริ่มๆ ดีไม่ดียังแพ้ “ประชาธิปัตย์” ที่ยืนพื้น 90-100 เสียงด้วยซ้ำ ไม่ต้องริอาจปีนไปไฝว้กับ “เพื่อไทย” ที่ข่าวว่ายังมา 200 อัพด้วยซ้ำ ..
โจทย์หินที่ “แมวมอง คสช.” ยังตีไม่แตกก็ใน “พื้นที่อีสาน” ที่ ส.ส.ส่วนใหญ่ยังอิงกับ “นายใหญ่” ไม่แตกแถว .. ซ้ำร้ายจังหวัดแถบนั้นยังไร้ “เจ้าเมือง” เป็นเรื่องเป็นราว อาศัยเกาะ “กระแสทักษิณ” เข้าสภาฯแทบทั้งนั้น .. ข่าวที่ว่าสถานีต่อไปของ “ทัพลุงตู่” จะไปปักหมุดที่ จ.สระแก้ว ถิ่นอิทธิพลของ “ป๋าเหนาะ” เสนาะ เทียนทอง แกนนำพรรคเพื่อไทย.. ทำให้ผู้เฒ่าวัย 84 ปีที่มีสมญา “ไดโนเสาร์การเมือง” เนื้อหอมขึ้นมาอีกครั้ง ไม่ใช่แค่ 3 ที่นั่งใน จ.สระแก้ว หรือรวมกับ 1 ที่นั่งใน กทม.ของ “เสี่ยอ๊อป” สุรชาติ เทียนทอง ลูกชายคนเล็ก เท่านั้น .. หากแต่หวังให้ “ป๋าเหนาะ” เป็น “ล้งวังน้ำเย็น” ไปไล่ดูดอดีตผู้แทนฯ ที่เคยชื่ออยู่ก๊วนนี้นับร้อยชีวิต เพื่อมาเสริมนั่งร้านให้ “พรรคทหาร” ต่างหาก .. ใครว่าเป็นไปไม่ได้ ก็ขอให้ตรองสักนิดว่า “ป๋าเหนาะ” ทรงอิทธิพลอยู่แนวชายแดนบูรพาทิศ ตั้งแต่สมัยสระแก้วยังไม่แยกจากปราจีนบุรีด้วยซ้ำ .. มีคอนเนกชั่นเดิมแนบแน่นกับ “บิ๊กบูรพาพยัคฆ์” ทั้ง “ป้อม - ป๊อก - ตู่” เคยมาฝากตัวเป็นลูกเป็นหลานสมัยไปประจำการในพื้นที่มาแล้วทั้งนั้น .. คิวที่ “บิ๊กตู่” จะบินไปสระแก้วเปิดด่านถาวรร่วมกัมพูชา 18 พ.ค.นี้ จึงน่าจับตามองไม่แพ้อีเว้นต์ใหญ่ที่บุรีรัมย์ ไม่กี่วันก่อนเลย.
**ขาใหญ่เมืองคอน!! “ไอ้โม่ง” ดอดทำพิธีพิลึก บนศาลหลักเมืองนครศรีฯ เชื่อแก้เคล็ดให้ตัวเอง-สาปแช่งคนอื่น “กูรู” ห่วงทำให้เกิดอาเพศซ้ำซาก ลือหึ่ง “ไอ้โม่ง” รูปร่างละม้าย “นักการเมืองตระกูลดัง” ที่โดน คสช.สั่งเด้ง กำลังมีเรื่องสอบทุจริตงบปรับปรุงสนามกีฬากลางนครศรีฯ
อะไรนักหนา .. ชาวเมืองคอน จ.นครศรีธรรมราช คงอดบ่นไม่ได้ ก็ไม่รู้ทำไม “ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช” อันเป็นที่เคารพ-ศรัทธา ถึงโดนรังควานไม่เลิก .. ตั้งแต่เมื่อครั้งมีการบูรณะศาลหลักเมือง ก็สู้รบกันจนเป็นคดีความใหญ่โตไปรอบแล้ว .. ล่าสุดยังมี “ไอ้โม่ง” ถือวิสาสะเข้าทำพิธีที่เชื่อกันว่า “แก้เคล็ด” แบบพิลึกพิลั่น .. จู่ๆหิ้วผ้าดำไปผูกเงื่อนไว้ทั่วบริเวณ ทั้ง “เสาหินอ่อน” ทั้ง 12 ต้น ที่เคยเป็นปัญหามาก่อนหน้านี้ .. ลามไปถึงบริเวณนาค 5 เศียร ทางขึ้นศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช ทั้ง 4 ทิศ แล้วยังเอาผ้าแดงผูกคอนาคไว้ด้วย .. เจอะแบบนี้ใครเห็นก็ไม่สบายใจ ด้วยไม่รู้ที่มาที่ไปของพิธีกรรม จะ “หวังดี-หวังร้าย” ก็ไม่ทราบได้ ..
ยิ่งน่าตกใจ เมื่อ “กูรูด้านพิธีกรรม” ตีความว่า พิธีกรรมสื่อไปถึงความสูญเสีย-ความวิบัติ และเชื่อว่าผู้ประกอบพิธีมีเจตนา “สาปแช่ง” ผู้อื่น วิธีแก้ไขก็ทำได้ลำบากยิ่ง .. ไม่ว่าจะตรงความหมายตามที่วิเคราะห์หรือไม่ แต่เรื่องแบบนี้ก็ไม่สมควรไปกระทำในสถานที่อันเป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านชาวเมือง .. พอสืบความได้ว่าเป็น “นักการเมืองท้องถิ่นชื่อดัง” โผล่เข้าประกอบพิธีแก้เคล็ดให้ตัวเอง โดยที่ผู้ดูแลศาล ก็ไม่กล้าห้ามปราม .. จากนั้นก็มีการส่งรูปว่อนสังคมโวเชี่ยลของชาวเมืองคอน ยืนยันว่า “ไอ้โม่ง” คือ “นักการเมืองตระกูลดัง” ค่อนข้างมีชื่อเสียงในทางลบ ที่ “คนคอน” รู้จักกันดี ที่สำคัญกำลังถูกตรวจสอบการทุจริตในสมัยมีตำแหน่งอย่างเข้มข้น .. ก็คลับคล้ายคลับคลา ว่า เพิ่งมี “นักการเมืองตระกูลดัง” โดน คสช. สั่งเด้งจากตำแหน่ง ด้วยมีเรื่องสอบทุจริตงบปรับปรุงสนามกีฬากลางนครฯ .. ไม่รู้ใช่คนเดียวกันหรือเปล่า.
ช.ชฎา