MGR Online - กรมสอบสวนคดีพิเศษ เผยแพร่เอกสารชี้แจง คอลัมนิสต์"ผู้จัดการ360" กรณีสอบสวน“สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง”กู้เงิน “เสี่ยกำพล” ผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ “วิคตอเรีย ซีเครท” 300 ล้านบาท ผ่านมา 3 เดือน คดีไม่คืบ ระบุอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเข้าข่ายฟอกเงินหรือไม่ โดยมีบุคคลที่ต้องเรียกสอบรวม 40 คน
วันนี้ (11 พ.ค.) คณะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เผยแพร่เอกสารโดยระบุว่า “ตามที่ปรากฏข่าวในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน 360 องศา ฉบับวันที่ 10 พฤษภาคม 2561 คอลัมน์ “จันทราท่าพระอาทิตย์” ได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับการที่ดีเอสไอได้เชิญ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ไปสอบสวนขยายผลกรณีปรากฏหลักฐานการรับเงินจากนายกำพล วีระเทพสุภรณ์ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาของดีเอสไอ ในความผิดเรื่องค้ามนุษย์ แต่เวลาผ่านไป 3 เดือน ดีเอสไอไม่เคยแถลงข่าวให้สาธารณชนทราบความคืบหน้านั้น เพื่อให้สาธารณชนเข้าใจถึงขั้นตอนการปฏิบัติงานของดีเอสไอและทราบผลการดำเนินการ จึงชี้แจงดังนี้
“1. สืบเนื่องจากดีเอสไอได้ดำเนินคดีอาญาต่อนายกำพล วีระเทพสุภรณ์ กับพวก ในความผิดฐานร่วมกันค้ามนุษย์ และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องจากกรณีที่ดีเอสไอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ผสานกำลังเข้าตรวจค้นสถานบริการ “วิคตอเรีย ซีเครท” โดยรับเป็นคดีพิเศษที่ 5/2561 คดีดังกล่าวสอบสวนเสร็จสิ้นและสรุปสำนวนการสอบสวนพร้อมความเห็นส่งพนักงานอัยการเพื่อดำเนินการตามกฎหมายแล้ว
2. จากการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ ที่ 5/2561 ปรากฏข้อเท็จจริงอันน่าเชื่อว่า นายกำพล วีระเทพสุภรณ์ กับพวก นำทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ไปดำเนินการเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินเพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของเงินดังกล่าว รวมทั้ง กระทำด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อปกปิด อำพรางลักษณะที่แท้จริงการได้มาซึ่งทรัพย์สิน หรือยักย้าย ถ่ายเท จำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์สินดังกล่าวไปยังบุคคลประมาณ 40 ราย จึงมีการแยกการสอบสวนเป็นคดีพิเศษที่ 10/2561 และเชิญผู้เกี่ยวข้องมาสอบสวนถึงพฤติการณ์ในการโอน รับโอนเงิน ว่ามีมูลหนี้หรือที่มาอย่างไร มีลักษณะที่เข้าข่ายเป็นความผิดตามที่กฎหมายบัญญัติหรือไม่ รวมทั้งมีการสอบสวนสถาบันการเงิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อทราบข้อเท็จจริง ซึ่งบุคคลตามข่าวเป็นหนึ่งในบุคคลที่ดีเอสไอเชิญมาสอบสวนปากคำด้วย
3. ปัจจุบัน คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษยังอยู่ระหว่างการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานในคดีพิเศษที่ 10/2561 ตามข้อ 2 ซึ่งมีจำนวนธุรกรรมที่ต้องตรวจสอบจำนวนมาก การดำเนินการทุกขั้นตอนเป็นไปตามกฎหมาย และเนื่องจากเรื่องนี้เป็นที่สนใจของสาธารณชน ดังนั้น หากคดีมีความคืบหน้าที่สำคัญ ดีเอสไอจะได้ประชาสัมพันธ์ให้สาธารณชนทราบต่อไป”
