xs
xsm
sm
md
lg

ส่องนวัตกรรมดูด “บิ๊กตู่” ไม่ต้องย้ายพรรค ขอแค่แรงหนุนก็พอ!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เมืองไทย 360 องศา



ใครได้เห็นลีลาของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่สนามช้าง อารีน่า สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ของ เนวิน ชิดชอบ เมื่อวันจันทร์ที่ 7 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ถือว่า เขาได้พัฒนาการทางการเมืองไปอีกขั้น เรียกว่า ใกล้ถึงระดับสุดยอดเต็มทีแล้ว

เพราะไม่ว่าจะให้มองกันแบบพวก “ติ่งโอตะ” แฟนคลับ ก็ต้องส่งเสียงกรี๊ดกันหูแทบแตก หรือหากให้มองกันแบบฝ่ายตรงข้ามแบบน่าหมั่นไส้ก็ต้องขบเขี้ยวเคี้ยวฟันกรอดๆ เพราะคลั่งแค้นเต็มที เพราะทั้งลีลาของคนที่ “จัดหามาให้” อย่าง “ยี้ห้อย” เนวิน ชิดชอบ และคนที่ตอบรับอย่าง “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ต้องบอกว่าในทางการเมืองนี่แหละใช่เลย ส่วนจะเป็นแบบไหน “ผีเน่ากับโลงผุ” หรือแบบ “ทำทุกอย่างไปสู่เป้าหมายสูงสุดโดยไม่คำนึงถึงวิธีการ” ก็แล้วแต่มุมมอง

ภาพที่สนามช้างอารีน่า ดังกล่าวไม่ต้องอธิบายมากความ แค่ภาพเดียวก็เข้าใจความหมายได้ทั้งหมด โดยไม่ต้องไปตั้งคำถามให้ปฏิเสธจนน่ารำคาญ

เอาเป็นว่างานนี้ กลุ่มการเมืองบุรีรัมย์ - สุรินทร์ ภายใต้การนำของ เนวิน ชิดชอบ ในนามพรรคภูมิใจไทย ที่มี “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รับแสดงเป็นหัวหน้าพรรคอยู่ในเวลานี้ “ไม่ปฏิเสธ” เป็นพันธมิตร ทึ่จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอีกรอบ หลังการเลือกตั้งครั้งหน้า

ที่ยังต้องใช้คำว่า “ไม่ปฏิเสธ” ก็เป็นเพราะว่าหนทางข้างหน้ายังอีกไกลพอสมควร แต่หากให้พิจารณาบรรยากาศและภาพที่เห็นก็พอเข้าใจได้แล้วว่า มีการตกปากรับคำกันไปเบื้องต้นแล้ว และก็มั่นใจว่า “ดีลนี้มันคุ้มค่า” แบบวินวิน ทั้งสองฝ่าย

อย่างไรก็ดี เพื่อให้เห็นภาพก็้ต้องนำเสนอความเห็นจากฝ่ายตรงข้ามจากคนของพรรคเพื่อไทย อย่าง นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ อดีต ส.ส.มหาสารคาม ที่ประเมินเอาไว้เมื่อวันก่อน ที่มองว่า วิธีดูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา น่าจะมีสองแบบในคราวเดียวกัน คือ 1. ดูดเข้าพรรคการเมืองใหม่เพื่อให้ได้ ส.ส. จำนวนไม่น้อยกว่า 25 เสียง สำหรับการเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ และ 2. ดูดให้โหวตสนับสนุนให้เป็นนายกฯ โดยที่ไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกพรรคใหม่ที่จะจัดตั้งขึ้น

คำอธิบายของอดีต ส.ส. ที่คว่ำหวอดในสนามเลือกตั้งมานานอย่างเขาย่อมมองออกว่า “การไปจังหวัดบุรีรัมย์ของ พล.อ.ประยุทธ์ และคณะเที่ยวนี้ ไม่ได้เพื่อต้องการดูดให้ ส.ส. ออกจากพรรคภูมิใจไทย แต่เป็นการดูดให้พรรคภูมิใจไทย สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เท่านั้น และคงไม่ได้คุยกันที่บุรีรัมย์ แต่คุยกันที่อื่นไว้แล้ว และภาพที่คนมาต้อนรับจำนวนมาก ก็เป็นเพียงการจัดฉากให้เห็นว่าคนบุรีรัมย์ชื่นชอบ พล.อ.ประยุทธ์ เท่านั้น”

แม้ว่าความจริงจะเป็นแบบไหน แต่เมื่อพิจารณาจากความเป็นไปได้และตามเหตุและผล ก็น่าจะมั่นใจได้ว่า แนวทางน่าจะเป็นแบบนี้แหละ เพราะเมื่อพิจารณาจากกลไกและเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เปิดทางให้เกิดพรรคขนาดกลางและขนาดเล็กมากขึ้น และเกิดเป็นรัฐบาลผสม มากกว่าความเป็นไปได้ที่จะเกิดเป็นพรรคขนาดใหญ่เพียงพรรคเดียวที่มีบทบาทตั้งรัฐบาลเหมือนกับในยุค ทักษิณ ชินวัตร

ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาจากบรรยากาศที่คาดกันว่าจะเหาะมาแบบ “นายกฯคนนอก” เหมือนที่หลายฝ่ายเคยคาดการณ์เอาไว้นั้น เอาเข้าจริงมันแทบเป็นไม่ได้เลย เพราะจะเกิดเงื่อนไขสร้างความปั่นป่วนตามมาภายหลังประเภท เป็นนายกฯได้ แต่บริหารไม่ได้ ทำให้มั่นใจว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะกลับมาอีกครั้ง ก็ต้องใช้เงื่อนไข “คนใน” มาตามระบบ เพื่อลดเงื่อนไขป่วนดังกล่าวนั่นแหละ

จนทำให้เกิดความเคลื่อนไหวตั้งพรรคการเมืองใหม่ขึ้นมาโดยเฉพาะ ซึ่งพรรคที่ว่านี้ก็อาจเป็นพรรคขนาดกลางธรรมดา สำหรับเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เท่านั้น

เมื่อพิจารณาจากกรณีของกลุ่มบุรีรัมย์ - สุรินทร์ ในนามพรรคภูมิใจไทย ของ เนวิน ชิดชอบ กับพวกนั้นทำให้ต้องย้อนกลับไปพิจารณาการเข้าร่วมงานของกลุ่มชลบุรี ในนามพรรคพลังชล ของพวก “คุณปลื้ม” ก่อนหน้านี้ ที่มีการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาไปแล้ว มันจะทำให้เห็นภาพชัดว่าลักษณะการดูดอาจจะเป็นแบบเดียวกัน นั่นคือ พรรคพลังชล ยังอยู่ที่เดิม เพียงแต่ว่าให้สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เท่านั้น อาจรวมไปถึงพวก “สะสมทรัพย์” ที่นครปฐม แม้ว่าอาจจะยังไม่ชัดเจนร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะยังต้องรอสถานการณ์หลังการเลือกตั้ง แต่อย่างน้อยก็น่าจะรับคำกันหลวมๆ แบบนี้ไปแล้วก็ได้

และยังรวมไปถึงกลุ่ม “บ้านริมน้ำ” ของ สุชาติ ต้นเจริญ กลุ่ม “สุโขทัย” ของ สมศักดิ์ เทพสุทิน หรือพรรคชาติไทยพัฒนา ของพวกศิลปอาชา - โพธสุธน และ พรรคชาตพัฒนา ที่นำโดย สุวัจน์ ลิปตพัลลภ มันก็ย่อมทำให้เห็นภาพในวันข้างหน้าชัดเจนขึ้น

อย่างไรก็ดี วิธีการดูดแบบนี้หากจะพูดแบบใหม่ก็อาจเรียกว่า นี่คือ “นวัตกรรม” ของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มีการพัฒนาวิธีการออกแบบ “การดูด” มาเป็นนการเฉพาะตัว ที่งานนี้ “จอมซื้อ จอมเซ้ง” อย่าง ทักษิณ ชินวัตร ยังต้องปวดหัวแก้เกมกันอุตลุต ในเวลานี้ เพราะการดูดแบบนี้มีทั้งพระเดช พระคุณ มาพร้อมกันทีเดียว จนบางทีเป็นคำขอร้องที่ไม่อาจปฏิเสธได้!!


กำลังโหลดความคิดเห็น