xs
xsm
sm
md
lg

“มีชัย” ย้ำหลักกระจายอำนาจ ตร.ที่ไม่จำเป็น ให้ส่วนราชการดูแล เล็งนำร่อง กทม.-เมืองใหญ่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

มีชัย ฤชุพันธุ์ (แฟ้มภาพ)
ประธาน กรธ.ย้ำหลักการกระจายอำนาจตำรวจที่ไม่จำเป็น ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดูแล ยันไม่มีการเลย์ออฟ พร้อมเตรียมร่างแผนกระจายอำนาจตำรวจให้ท้องถิ่น เตรียมแผนนำร่องที่ กทม. และเมืองใหญ่อื่นๆ โต้ปัดบอก “บุญสร้าง” เกรงใจจนปฏิรูปไม่ได้ แต่ตนไม่เกรงใจใคร

วันนี้ (8 พ.ค.) นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าการทำงานว่า ขณะนี้กำลังพิจารณาเกี่ยวกับหลักการใกล้เสร็จแล้ว กำลังไล่ดูว่าจะต้องแก้กฎหมายกี่ฉบับ รวมถึงต้องมีกฎหมายพิเศษเพื่อให้การสืบสวนสอบสวนเป็นไปโดยสะดวกรวดเร็ว ประชาชนสามารถใช้บริการได้โดยไม่ต้องยุ่งยาก เช่น การแจ้งความนอกพื้นที่เกิดเหตุได้ จากเดิมที่ต้องแจ้งความสถานีตำรวจพื้นที่เกิดเหตุเท่านั้น และพยายามลดภาระตำรวจให้น้อยลง มุ่งทำงานเกี่ยวกับการรักษาความสงบมากขึ้น ส่วนแนวทางกระจายอำนาจก็มีหลักการให้ตำรวจสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องรอฟังคำสั่ง ให้ตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจมีอำนาจการปฏิบัติงานอย่างแท้จริง พร้อมกับแบ่งสายงานเป็นแท่งอย่าง สายงานป้องกันและปราบ และสายงานสืบสวนสอบสวน ก็เป็นอีกสายหนึ่งโดยมีวิธีการทำงานเป็นทีม เช่น การให้มีผู้ช่วยพนักงานสืบสวน หรืออาจมอบภาระให้หน่วยงานบางหน่วยที่มีอำนาจตามกฎหมายสามารถสอบสวนเบื้องต้นได้ เพื่อกระจายภาระหน้าที่ตำรวจ แต่ก็ไม่ทำให้อำนาจในการสืบสวนสอบสวนของตำรวจน้อยลง รวมถึงงานจราจรในส่วนปลีกย่อย เตรียมให้ท้องถิ่นดำเนินการไปก่อน ทั้งการอำนวยความสะดวกและการเอาผิดเกี่ยวกับจอดรถ

นายมีชัยยืนยันด้วยว่า การกระจายหน้าที่และอำนาจของตำรวจในส่วนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานหลักให้ท้องถิ่นหรือหน่วยงานต่างๆ ดูแล ไม่ได้กระทบต่อโครงสร้างสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ยืนยันว่าไม่มีการเลย์ออฟตำรวจ หรือโดนอัตรากำลัง เพราะทุกวันนี้อัตรากำลังของตำรวจก็ไม่เพียงพอกับภารกิจอยู่แล้ว แม้จะถ่ายภารกิจออกไปให้หน่วยงานอื่น ตำรวจก็ยังมีภารกิจทำงานอยู่ดี หากยังคงให้มีภารกิจที่ไม่จำเป็น ในที่สุดก็ต้องมีการเพิ่มอัตรากำลังอีกอยู่ดี จึงไม่น่าเป็นห่วงหากจะต้องมีการเพิ่มอัตราในหน่วยงานต่างๆ หรือส่วนท้องถิ่นบ้าง

นายมีชัยย้ำหลักการแก้ไขกฎหมาย เป็นไปเพื่อให้ภารกิจไม่จำเป็นหมดไป พร้อมผลักดันให้ท้องถิ่นร่วมช่วยเหลือการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ซึ่งได้พูดคุยกับตัวแทนที่รับผิดชอบเกี่ยวกับท้องถิ่นก็ยอมรับได้เกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่าน เช่นการดำเนินการใน กทม.ภายใน 1 ปี, เทศบาลนครภายใน 2 ปี, เทศบาลเมืองภายใน 3 ปี โดยวางไว้ให้ กทม.และเมืองใหญ่ๆ นำร่อง ก็ขึ้นอยู่กับความพร้อมแต่ละพื้นที่ด้วย ส่วนระบบงบประมาณ แม้ว่าภารกิจจะลดลง แต่นายมีชัยยืนยันว่า งบประมาณไม่น่าจะลดลง เพราะจำนวนกำลังพลตำรวจ พนักงานสอบสวน ที่มีอยู่แล้วมีจำนวนไม่เพียงพอ

สำหรับงานสืบสวนสอบสวน นายมีชัยกล่าวว่า งานสืบสวนกับสอบสวนคงแยกจากกันไม่ได้ เพราะต้องมีการสืบสวนในแง่หาผู้กระทำผิดและการรวบรวมพยานหลักฐานของฝ่ายสอบสวน แต่ในกรณีที่สงสัยในความเที่ยงธรรมก็จะให้อัยการมาร่วมสอบสวนได้

นายมีชัยปฏิเสธด้วยว่า ไม่เคยพูดว่าคณะกรรมการของ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ เกรงใจตำรวจจนปฏิรูปไม่ได้ เพียงแต่บอกว่าตนเองทำงานไม่ได้เกรงใจใคร พร้อมอธิบายว่าแนวคิดของคณะกรรมการชุดปัจจุบันส่วนหนี่งก็นำมาจากคณะกรรมการของ พล.อ.บุญสร้าง เพียงแต่ว่าแนวคิดที่เกิดขึ้นยังขาดตัวบทกฎหมายมาสนับสนุน ซึ่งเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการชุดปัจจุบันนี้ ส่วนการปฏิรูปตำรวจยังตอบไม่ได้ว่าจะจบที่คณะกรรมการชุดนี้หรือไม่ แต่คิดว่าเรื่องความจำเป็นเร่งด่วนในระยะต้น คณะกรรมการชุดนี้จะคิดให้หมด แต่ในระยะยาวเช่นการผลักดันตำรวจจังหวัด คงจะต้องไปคิดกันอีกทีหนึ่ง เพราะเป็นเรื่องที่ใช้ระยะเวลานาน

ประธานคณะกรรมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ย้ำด้วยว่า ตั้งใจแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้มีรายละเอียดเรื่องสำคัญ ทั้งเรื่องการประเมินคนในการแต่งตั้งโยกย้าย กลไก โครงสร้าง วิธีคิด พยายามจะเขียนรายละเอียดไว้ในกฎหมายให้มากที่สุด จะได้ไม่ขึ้นอยู่กับการกำหนดโดยคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. เพื่อเป็นหลักประกันเกี่ยวกับการทำงานตำรวจที่ชัดเจน


กำลังโหลดความคิดเห็น