ประธาน กรธ. เผยเริ่มเดินหน้าวางแนวปฏิรูปโครงสร้างตำรวจ แยกภารกิจไม่เกี่ยวสายงานให้ท้องถิ่นรับไปต่อ ส่วนการสืบสวนสอบสวนยังคงไว้ อ้างกำลังไม่พอแยกสอบสวนให้อัยการ พร้อมนำผลศึกษาชุด “บุญสร้าง” วางแนวทางแต่งตั้งโยกย้าย มั่นใจเสร็จก่อนเลือกตั้ง
วันนี้ (24 เม.ย.) นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าการประชุมว่าได้พิจารณาสาเหตุการทำงานของตำรวจและความทุกข์ร้อนของชาวบ้าน และเริ่มดูเกี่ยวกับภารกิจของตำรวจ เพราะมักมีบ่นกันว่าภาระงานมาก บุคคลากรไม่เพียงพอ ว่ามีสาเหตุมาจากอะไร โดยพบว่ามีหลายงานที่ไม่เกี่ยวกับภารกิจหลักของตำรวจปะปนอยู่มาก ซึ่งแนวทางของคณะกรรมการฯจะเริ่มแยกภารกิจออกเพื่อให้ฝ่ายอื่นที่พอจะทำได้ไปรับงานต่อ เช่น งานทะเบียน งานที่ไม่ได้เกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมโดยตรง งานจราจร ก็จะเริ่มทยอยส่งมอบให้ท้องถิ่นที่มีกำลังพอไปดำเนินการ คงไว้เฉพาะหน้าที่หลักของตำรวจแล้วจึงพิจารณาเรื่องโครงสร้างต่อไป
ส่วนแนวทางปฏิรูปการสืบสวนสอบสวนนายมีชัยบอกว่ายังเป็นอำนาจหน้าที่ของตำรวจ เพื่อควบคู่กันไปกับการป้องกันและปราบปราม แต่จะแยกให้ชัดเจนขึ้นด้วยคุณลักษณะเฉพาะและความเป็นอิสระของพนักงานสอบสวนเพื่อไม่ให้มีการก้าวก่ายกันได้ มาตรฐานใกล้เคียงกับอัยการหรือผู้พิพากษาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งกำลังพิจารณากันอยู่ว่าจะจัดทำร่างกฎหมายอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดการก้าวก่ายกันได้
ส่วนแนวทางแยกให้เป็นอำนาจหน้าที่ของอัยการนายมีชัยบอกว่าปัจจุบันตำรวจมีพนักงานสอบสวนประมาณ 2-3 หมื่นคน หากจะให้อำนาจหน้าที่นี้ไปอยู่กับอัยการก็ไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะบุคลากรไม่เพียงพอ ส่วนเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายที่เป็นหัวใจสำคัญของการปฏิรูปตำรวจก็ต้องมีการพิจารณากัน แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา
นายมีชัยยังชี้แจงเหคุผลที่ต้องตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ขึ้นมาสานงานต่อคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจชุด พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ว่าที่ผ่านมาคณะกรรมการแต่ละคณะบอกได้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและชี้ถึงวิธีการแก้ที่ต้องทำให้ตำรวจมีความเป็นอิสระ แต่ไม่มีคำตอบว่าต้องทำอย่างไร คณะกรรมการชุดปัจจุบันจะนำเอาผลการศึกษาที่เคยมีมาเพื่อศึกษาปัญหาและวิธีการแก้ไข พร้อมชี้ว่าหลักเกณฑ์ต่างๆ เกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้าย ที่ผ่านมามักให้คณะกรรมการตำรวจ หรือ กตร. เป็นผู้แก้ปัญหา ซึ่งแนวทางของคณะกรรมการชุดนี้จะกำหนดหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนไว้ในกฎหมายเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนที่ผ่านมา หรืออาจจะเปลี่ยนคนที่มีอำนาจหน้าที่แต่งตั้งซึ่งอาจจะแก้ปัญหาได้ และคิดว่าการปฏิรูปตำรวจน่าจะสิ้นสุดที่การปฏิรูปกฎหมายโดยคณะกรรมการชุดนี้ และคิดว่าคงใช้เวลาไม่กี่เดือนการทำงานของคณะกรรมการชุดนี้จะได้ข้อสรุป แต่หากไม่ทันการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งต่อไปก็ให้ใช้หลักการพิจารณาตามลำดับอาวุโสที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญไปก่อน อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าจะเสร็จสิ้นก่อนเลือกตั้งแน่นอนเพราะนายกรัฐมนตรีก็เร่งรัดมาอย่างต่อเนื่อง
ส่วนการเตรียมข้อมูลเพื่อชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญกรณีวินิจฉัยร่าง พ.ร.ป.การเลือกตั้ง ส.ส. และ พ.ร.ป.การได้มาซึ่ง ส.ว. นายมีชัยบอกว่าจะมีการประชุมพิจารณาเนื้อหากันในวันนี้ เป็นครั้งแรกหลังหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา