กรรมการถกร่าง กม. ปฏิรูปตำรวจนัดแรก “คำนูณ” เผย เตรียมรื้อใหม่แทบทั้งหมดเน้นตอบโจทย์สองอย่าง ขจัดทุกข์ชาวบ้าน - ตำรวจดีต้องเติบโต โดยผ่านกรอบ 6 ข้อ คือ โครงสร้าง อำนาจสอบสวน หลักเกณฑ์การแต่งตั้งโยกย้าย ความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ นิติวิทยาศาสตร์และ สวัสดิการ
วันนี้ (21 เม.ย.) นายคำนูณ สิทธิสมาน กรรมการปฏิรูปกฎหมาย ในฐานะกรรมการพิจารณาร่างพ.ร.บ. ตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า คณะกรรมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ที่มี นายมีชัย ฤชุพันธุ์เป็นประธาน ได้ทำการประชุครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 เม.ย. ที่ผ่านมา ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยการประชุมจะไม่ได้พิจารณาแก้ไข พ.ร.บ. ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 เฉพาะบางประเด็น ตามที่คณะกรรมการปฏิรูปตำรวจเสนอมาเท่านั้น แต่อาจพิจารณายกร่างขึ้นใหม่ทั้งฉบับ รวมทั้งแก้ไขกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ด้วย
นายคำนูณ กล่าวว่า การจัดทำกฎหมายครั้งนี้จะต้องทำเพื่อตอบโจทย์ 2 ประการ ได้แก่ 1. ความทุกข์ของประชาชน ทั้งที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ และความคาดหวังที่ต้องการจากตำรวจ 2. ความทุกข์ของตำรวจ ทั้งที่ไม่อาจใช้เพียงความรู้ความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่เติบโตไปตามสายงานได้อย่างปกติ และความไม่พร้อมหรือขาดแคลนในด้านต่างๆ
นายคำนูณ กล่าวอีกว่า ในการตอบโจทย์ทั้ง 2 ข้อนี้ จะพิจารณาผ่าน 6 กรอบตามดำริของนายกรัฐมนตรี ประกอบด้วย 1. โครงสร้าง ทั้งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และการถ่ายโอนภารกิจที่ไม่ใช่งานตำรวจแท้ออกไปให้หน่วยงานอื่นด้วย 2. อำนาจสอบสวน ควรอยู่กับตำรวจเต็มเหมือนเดิม หรือควรมีหน่วยงานอื่นมาร่วมในกระบวนการด้วย 3. การแต่งตั้งโยกย้าย รวมถึงการแต่งตั้ง ผบ.ตร. จะต้องกำหนดกฎเกณฑ์การพิจารณาไว้ให้ชัดเจนในกฎหมายหลัก ไม่ใช่อยู่แต่ในกฎหมายลำดับรองหรืออนุบัญญัติเท่านั้น โดยจะต้องระบุให้ชัดเจนว่าจะให้มาจากหลักอาวุโสเป็นสัดส่วนเท่าไร รวมทั้งจะต้องบัญญัติกฎเกณฑ์ของการคิดคำนวณหลักอาวุโสที่มิใช่อาศัยเพียงเกณฑ์อายุไว้ให้ชัดเจนในกฎหมายหลักด้วย
4. ความพร้อมในการทำหน้าที่ของตำรวจ ยังมีความขาดแคลนงบประมาณและอุปกรณ์ที่จำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่อยู่หรือไม่เพียงใด 5. ระบบนิติวิทยาศาสตร์ - ควรขึ้นตรงต่อตำรวจ หรือเป็นอิสระในระดับหนึ่ง และควรมีกี่หน่วย โดยพิจารณาถึงโอกาสที่จะได้รับความเป็นธรรมสูงสุดของประชาชน และ 6. สวัสดิการ หมายรวมถึงระบบร้องเรียน ร้องทุกข์ ภายในของตำรวจเองด้วย
โดยจะพิจารณาจากข้อเสนอจากองค์กรและหน่วยงานต่างๆ ที่ได้ศึกษาและเสนอไว้แล้วประกอบด้วย
นายคำนูณ กล่าวว่า เมื่อได้ข้อสรุปทั้งหมดจะจัดทำเป็นร่างกฎหมายและตรวจร่างกฎหมายได้พร้อมสรรพในคณะกรรมการชุดเดียว เพราะมีสัดส่วนจากคณะกรรมการกฤษฎีกาคณะพิเศษอยู่ด้วย