xs
xsm
sm
md
lg

ไอ้เสือถอย!! “กรมศุลฯ”ออกประกาศเลอะเทอะ ปูทางให้“จอมรีด - จอมไถ” **“พรรค กปปส.”ลงท้ายเป็น“พรรคเทือกสุบรรณ”หลัง“แกนนำ - เซเลป กปปส.”เมินร่วมทัพ ** งานนี้อาจมีตายหมู่!! กลโกง “เงินผู้ยากไร้”ลามถึงส่วนต่างซื้อ“ผ้าห่ม”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: นกหวีด


ข่าวปนคน คนปนข่าว



**ไอ้เสือถอย!! “กรมศุลฯ”ออกประกาศเลอะเทอะ ปูทางให้“จอมรีด - จอมไถ”ทำมาหากินหรือเปล่า ก่อนเจอถล่มเละ จนต้องดึงเรื่องกลับมาทบทวนใหม่ แน่จริงประเดิมสุ่มตรวจ“วีไอพี”ก่อนดีไหม “กก.ปฏิรูปกฎหมาย”ทักอาจไม่สอดคล้องรธน.เรียก “อธิบดีกุลิศ”เลกเชอร์กฎหมายด่วน

กลับลำแทบไม่ทัน .. หลัง “กรมศุลกากร”ออกประกาศรวดเดียว 2 ฉบับ เกี่ยวกับการ“ดีแคลร์”สิ่งของติดตัวเข้า-ออกประเทศวันก่อน .. ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง โดนถล่มเละเทะ จนต้องลบประกาศออกจากเว็บไซต์แทบไม่ทัน .. แม้ กุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลฯ จะพยายามอธิบายว่าเป็น“กฎหมายเก่า”ที่มีอยู่แล้ว แค่เอามา“ปัดฝุ่นใหม่”เพื่อให้ล้อกับ"พ.ร.บ.ศุลกากร 2560" ที่เพิ่งประกาศใช้ก็ตาม .. เรื่องของเรื่องมันดูมี“ลับลมคมใน” ชอบกล ทั้ง “ไทม์ไลน์”ในประกาศ ที่ลงวันที่ 26 ก.พ. ผ่านไปร่วมสัปดาห์ ถึงค่อยมาเผยแพร่ โดยไร้คำอธิบายใดๆ .. พอเกิดเรื่อง มีการตีความกันกว้างขวาง “อธิบดีกุลิศ”ถึงออกมาชี้แจงอย่างเสียไม่ได้ .. แต่ก็ไม่เคลียร์ ด้วยเนื้อหาในประกาศ“กำกวม”ทั้งการไม่สำแดงขาออก อาจมีความผิด หรืออะไรบ้างที่ต้องดีแคลร์ แล้วคำว่า"ใช้เป็นปกติวิสัย" คืออะไร .. แล้วยังมี “ช่องโหว่”เบ้อเริ่ม ที่ให้เจ้าหน้าที่ใช้“ดุลพินิจ”ชี้ถูกผิดได้ แบบนี้เหมือนตัดถนนราดยางให้“จอมรีด - จอมไถ”ได้เดินสะดวก .. จนมีคำถามว่า คิดไม่ซื่อ หวัง“ลักไก่”เปิดช่องให้เจ้าหน้าที่ “ทำมาหากิน”หรือไม่ประการใด ..
กุลิศ สมบัติศิริ และ คำนูณ สิทธิสมาน
ที่สุดทานกระแสไม่ไหว“อธิบดีกุลิศ”เลยต้องส่ง ชัยยุทธ คำคุณ รองอธิบดีฯ ในฐานะโฆษกกรมศุลฯ ออกมา“แก้ต่าง”ว่า “ไม่บังคับทุกคน”ให้สำแดงทรัพย์สินอะไรอย่างที่คิดกัน หากใครไม่สะดวกสำแดง ก็ไม่มีความผิด .. ส่วนกรณีสินค้าปลอดภาษี(Duty Free)ก็ยังใช้มาตรฐานเดิม ทั้ง “บุหรี่ -สุรา”หรือประเภทอื่นๆ ก็มูลค่าไม่เกิน 2 หมื่นบาท .. พร้อมยอมรับโดยดุษฎีว่า เนื้อหาในประกาศ ทำให้เกิดความเข้าใจผิด ขอกลับไปปรับแก้ให้ชัดเจนเสียก่อน .. สมยี่ห้อ“ข้าราชการไทย”ชอบทำตามอำเภอใจ นึกอยากประกาศอะไร ก็ประกาศ พอโดนด่า ก็ขอกลับไปทบทวน แล้วจะมาประกาศใหม่ .. เชื่อสิ ประกาศรอบ 2 ก็คง“เลอะเทอะ”เหมือนเดิม แล้วหาก“เจ้าหน้าที่”ทะลึ่งใช้ “ดุลพินิจ”สุ่มตรวจ ไม่ดูตาม้าตาเรือ ก็คงหนีไม่พ้นโดนดราม่าถล่มเละอีก .. แล้วถ้าจะเอากันจริงๆ ประเดิมสุ่มตรวจ“ผู้โดยสารวีไอพี”หรือบรรดา“กัปตัน - แอร์โฮสเตส”ดูก่อนก็จะเป็นการดี .. ไม่เท่านั้นยังมีความเห็นของ "คำนูณ สิทธิสมาน" โฆษกคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย ที่ตั้งข้อสังเกตว่า“ประกาศกรมศุลฯ”ดูจะไม่ม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 77 ฐานสร้างภาระแก่ประชาชนโดยไม่จำเป็น ซะด้วย .. ออกประกาศมึนๆ แบบนี้ “คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายในระยะเร่งด่วน” ก็เลย ส่งเทียบเชิญ “อธิบดีกุลิศ”ไปเลกเชอร์กฎหมายซะหน่อย.

**รู้ไส้รู้พุงกันดี!! “พรรค กปปส.”ลงท้ายเป็น“พรรคเทือกสุบรรณ”หลัง“แกนนำ - เซเลป กปปส.”เมินร่วมทัพ แถมเจอ“พี่มาร์ค”ปิดทาง “ม้าไม้เมืองทรอย”แทงสวน“สุเทพ”ไม่หนุน“ประยุทธ์”ต่อท่ออำนาจ สัญญาณเข้มแบบนี้“เด็กกำนัน”มีหนาว

ยังไม่มาตามนัด .. กกต.เปิดจดจองพรรคการเมืองมาแล้ว 5 วัน รวมมีกลุ่มรับบัตรคิวกรอกเอกสารแล้ว 50 พรรค .. น่าแปลกที่จนป่านนี้ “พรรคมวลมหาประชาชน”ที่ออกหน้าโดย“กำนันเล็ก”ธานี เทือกสุบรรณ น้องชายของ “กำนันเทือก”สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำ กปปส. ยังไม่มาตามนัด .. ทั้งที่ก่อนหน้านี้ “กำนันเล็ก”ออกตัวแรง ประกาศมาแน่ พร้อมโวลั่น ว่าจะกวาดที่นั่งส.ส.ไม่น้อยกว่า 30-50 เสียงเลยทีเดียว แล้วพี่ชายจะสมัครเป็นสมาชิกด้วย .. เผอิญเจอ“พี่เทือก”พูดเหมือน“แตะเบรก”บอกปัดไม่รู้ ไม่เห็น ที่ “น้องในไส้”กำลังจะตั้งพรรคการเมือง .. ใครก็อ่านออกว่า หาก“พี่เทพ”ไม่ตีธงให้ มีหรือ “น้องเล็ก”จะออกมาประกาศโต้งๆแบบนี้ .. เพียงแต่มันคงมีอะไร“ผิดคิว”ก็เลยไม่ออกมารับลูกตามที่เตี๊ยมกันไว้ .. ผนวกกับคิวของ“แกนนำ -เซเลป กปปส.”ต่างเมินพรรคใหม่กันถ้วนหน้า .. เช็กชื่อไปเช็กมาจาก “พรรค กปปส.”จะกลายเป็น “พรรคเทือกสุบรรณ”ซะมากกว่า เพราะปรากฏว่ามีแต่ “กำนันเล็ก”กับ เชน เทือกสุบรรณ สองพี่น้อง ตระกูลเทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี ที่จะลาออกไปสังกัด “พรรคมวลมหาประชาชน”เท่านั้น ..
สุเทพ เทือกสุบรรณ
ด้วยฝืนความจริงไม่ได้ว่า ฐานเสียง กปปส.-ประชาธิปัตย์ เป็นกลุ่มเดียวกันแบบแยกไม่ออก .. ขืนทะเล่อทะล่า ชิ่งออกมา คงไม่แคล้วเป็น“ส.ต.สอบตก”กันแน่ โดยเฉพาะใน “แดนสะตอ”ที่ความนิยม“ค่ายสีฟ้า”ยังคงเข้มขลัง .. ยิ่งต้นสังกัดเก่า ตลบหลังด้วยการสั่งเช็คชื่อ“อดีตส.ส.ภาคใต้”ให้แสดงความชัดเจนว่า จะอยู่พรรคประชาธิปัตย์ต่อไปหรือไม่ .. ส่งสัญญาณว่าใครยังคิด “เหยียบเรือสองแคม”ก็หมดโอกาสสวมเสื้อปชป. ลงเลือกตั้งหนหน้า .. แล้วไอ้ที่คิดว่าจะมาเป็นตัวช่วย ด้วยการชูรักแร้สนับสนุน“ลุงตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯหลังการเลือกตั้ง ก็เหมือนต้องคิดใหม่ .. ด้วยทั้งกระแส กปปส. ตอนนี้ไม่เหมือนก่อน ถือว่าอยู่ใน “แดนลบ”ส่วน “บิ๊กตู่”เรตติ้งก็ร่วง“แดนลบ”เช่นกัน .. ทู่ซี้เอา “ขั้วลบ”มาต่อกัน มีหวังช็อตตาย เจ๊งระเนระนาด .. จนแว่วว่า“เทพเทือก”เริ่มนิ่งไม่ได้ เขี่ยไอเดีย “เลือกตั้งเชิงยุทธศาสตร์”ที่ล้อไปกับ “สูตรจัดสรรปันส่วนผสม”ที่จะใช้ในการเลือกตั้งหนนี้ .. กับการ “เกี้ยะเซียะ”ขอเข้าป้ายเป็นที่ 2 ต่อจากผู้สมัครปชป. เพื่อเพิ่มยอด ส.ส.บัญชีรายชื่อ เสร็จศึกมาจับมือเป็นพันธมิตรกัน .. แต่ก็ไม่ได้รับการขานรับจาก“ขาใหญ่ ปชป.”ที่ยังไม่เลิกหวาดระแวง จากเมื่อครั้งที่ “สุเทพ”เดินเกมแรงยึด “ค่ายสะตอ”เมื่อไม่นานมานี้ .. พิเคราะห์กันในหมู่ “แกนนำ ปชป.”แบบรู้ไส้รู้พุงว่า ขืนเออออไปด้วย มีหวังโดนหัก"หลังเดาะ" เป็นแน่แท้ .. ดีไม่ดีเจอไม่เด็ด“ม้าไม้เมืองทรอย”เมื่อถึงเวลาโหวตในสภาฯเสียกระบวนกันไปอีก .. จึงไม่แปลกที่ “เดอะมาร์ค”อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะออกมาประกาศโครมว่า ไม่สามารถเดินไปแนวทางเดียวกับพรรคการเมืองที่จะสนับสนุน“ประยุทธ์”ได้ .. แทงสวนจุดยืนของ “พี่เทพ”เข้าอย่างจัง แล้วก็ยังเป็นการส่งสัญญาณให้ใครที่พะยี่ห้อ “เด็กกำนัน”ทำใจล่วงหน้าว่า อาจถูกเขี่ยทิ้งอย่างไม่ใยดีก็เป็นได้.
 พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว
** งานนี้อาจมีตายหมู่!! กลโกง “เงินผู้ยากไร้”ลามถึงส่วนต่างซื้อ“ผ้าห่ม”ของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ที่อ้างราคากลาง“ปภ.”หรือกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทำท่าจะบานไม่หุบ จาก“กระทรวงนักบุญ”กำลังจะลามไปถึง“กระทรวงคลองหลอด”

ลุกลามบานตะไท .. วีรกรรม “น้องแบม”ปณิดา ยศปัญญา นิสิต ปี 4 คณะมนุษยศาสตร์ ม.มหาสารคาม ที่เป็นแค่“นักศึกษาฝึกงาน” แต่เปิดโปงกลโกง“เงินผู้ยากไร้”ของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จนสะเทือนไปทั้งประเทศ .. ทำให้ พุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ ปลัดฯ และ ณรงค์ คงคำ รองปลัดฯ เก้าอี้ปลิว ต้องไปเข้ากรุ ปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี รอผลสอบข้อเท็จจริง .. แล้วก็ไม่รู้เป็นเหตุให้ “บิ๊กอู๋”พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว อดีต รมว.พัฒนาสังคมฯ ต้องทำพิธีบวงสรวงเทพเทวดา-สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ครั้งใหญ่ที่ออฟฟิสใหม่ กระทรวงแรงงาน ด้วยหรือเปล่า .. จนโดนแซวว่า หวังปัดรังควาน เรื่องค้างเก่าที่“กระทรวงนักบุญ”ที่พัวพันมาเข้าตัวหรือเปล่า .. ที่มันระทึกกว่านั้น ไม่เพียงแต่การทุจริตเงินผู้ยากไร้ มันยังลามไปถึง การจัดซื้อผ้าห่มในช่วงปี 2557 -2559 ของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ งบประมาณ 390 ล้านบาท .. มันบังเอิญที่ตอนนั้น อธิบดีกรมฯชื่อ“พุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์”ส่วนรองอธิบดีกรมฯ ก็“ณรงค์ คงคำ”..ที่มีข้อมูลไหลออกมาว่า กรมพัฒนาสังคมฯ จัดซื้อผ้าห่มจากวิสาหกิจชุมชน และกลุ่มพัฒนาอาชีพ ในราคาผืนละ 240 บาท ทั้งที่ราคาท้องตลาดอยู่ที่ 160-170 บาทเท่านั้น .. ตามข้อมูลนี้เท่ากับว่ามี “ส่วนต่าง”เกิดขึ้นแน่นอน แต่หายไปไหนไม่ทราบได้ .. ล่าสุด นภา เศรษฐกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมฯ ออกมาเปิดเผยว่า การจัดซื้อผ้าห่มในราคาเฉลี่ยผืนละ 240 บาท การดำเนินงานตามประกาศอ้างอิงราคาของ“กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย”หรือ “ปภ.”ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย .. แบบนี้ก็บานไม่หุบ จาก“กระทรวงนักบุญ” กำลังจะลามไปถึง“กระทรวงคลองหลอด”ด้วยล่ะซิ๊.

ช.ชฎา


กำลังโหลดความคิดเห็น