xs
xsm
sm
md
lg

รัฐบาลตั้งธงไม่รื้อหมู่บ้านป่าแหว่ง “ต่อตระกูล”จุดพลุผ่านทางตัน ย้ายทั้งหลังไปปลูกที่ใหม่ **“อภิสิทธิ์ –สุดารัตน์” ค้อนขวับ “ไดรโว่ คสช.” ดูดไม่เลิก แถมเจอเตะตัดขา **“ไปรษณีย์ไทย” กำไรโตทำเอา “ไอ้โม่ง” ตาโต งัด “วิชามาร” แซะเก้าอี้บิ๊กบอสไม่เลิก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: นกหวีด

ต่อตระกูล ยมนาค, อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ, สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และ สมร เทิดธรรมพิบูล
ข่าวปนคน คนปนข่าว



**รื้อไม่รื้อ ลื้อไม่รื้อ!! รัฐบาลตั้งธงไม่รื้อ “หมู่บ้านป่าแหว่ง” เทียบปม “เหมืองอัครา” เสี่ยงเสียค่าโง่นับหมื่นล้าน ชัก ม.44 ฟันโฉะ แต่ “ป่าแหว่ง” หลักพันล้าน กลับยึกยักซื้อเวลาไปเรื่อย “ต่อตระกูล” จุดพลุผ่านทางตัน ย้ายทั้งหลังไปปลูกที่ดินใหม่ เลี่ยงภาพทุบทำลาย สะเทือนความรู้สึกคนจ่ายเสียภาษี

ยื้อกันสุดลิ่ม .. ปมพิพาท “หมู่บ้านป่าแหว่ง”ที่ “นายกฯตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา งัดมุกตั้งคณะทำงานโดน “รมต.โก้” สุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.สำนักนายกฯ เป็นคนออกหน้า .. เป็นมุก “ซื้อเวลา” เหมือนเช่นที่เคยประสบความสำเร็จในวิกฤต “นาฬิกาเสี่ยป้อม” มาแล้ว .. เพียงเพื่อลดแรงเสียดทานจาก “คำขาด” ของภาคประชาชน ที่บอกว่า “ต้องรื้อเท่านั้น” .. ทั้งที่ความจริงจับอาการของ “ฝ่ายรัฐ” ได้ไม่ยากว่า มีธงที่ “จะไม่รื้อ” เพราะหาก “รัฐบาล คสช.” ตัดสินใจว่าจะทำตามข้อเรียกร้องภาคประชาชน ก็คงลงดาบไปแล้ว .. เพราะมีอาญาสิทธิ์ “มาตรา 44” เหนือทุกสิ่ง แต่ที่ยึกยักๆ ก็ด้วยมี “ธง” ตรงข้ามกับ “มติมหาชน” หวังให้กระแสซาลงมากกว่า .. เทียบง่ายๆ กับกรณี “เหมืองทองอัครา” ที่แทบไม่ลังเลใช้ “อำนาจพิเศษ” สั่งระงับกิจการ จนมีปัญหาถูกนำไปขึ้นโรงขึ้นศาล .. จุดเริ่มต้นมาจากปมปัญหาคล้ายกันตรงที่เป็นเรื่องสิ่งแวดล้อม พ่วงสุขภาวะประชาชน จะต่างกันก็ตรงการดำเนินการของ “รัฐบาล คสช.” .. ทั้งที่ “เหมืองทองอัครา” มีความเสี่ยงต้องเสียค่าชดเชยมูลค่านับหมื่นล้านบาท .. กลับกัน “บ้านป่าแหว่ง” ความเสียหายที่อาจเป็น “ค่าโง่” แค่หลักพันล้าน แถมมีช่องไปไล่เบี้ยเรียกคืนจาก “ตัวการ” ในอดีตเสียด้วย .. ต่างกันอีกตรงที่ “เหมืองทองอัครา” เป็นเรื่องพิพาทกับ “เอกชนต่างชาติ” ส่วน “บ้านป่าแหว่ง” นั้นเป็น “ฝ่ายตุลาการ” ที่ทั้งเป็น 1 ใน 3 อำนาจหลักของชาติ รวมไปถึงเป็น “ข้าราชการ” ด้วยกัน ..

และในระหว่างที่ยื้อยุดกันอยู่นั้น ก็ยังเห็น “ความไม่จริงใจ” ของฝ่ายรัฐ ทั้ง “ขบวนการไอโอ” ปั้นข่าวมาโจมตีผู้ที่เคลื่อนไหวเอย .. ตลอดจนคำขู่ของ วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ที่ยกเรื่องกฎหมาย มาตะแบงไม่จบไม่สิ้น .. อิหรอบนี้เหมือนผลักไสสถานการณ์เข้าสู่ “ทางตัน” ที่อาจนำไปสู่สถานการณ์แตกหักระหว่าง “ภาคประชาชน-รัฐบาล-ฝ่ายตุลาการ” .. ในช่วงที่ดูจะไร้ทางออก ก็มีไอเดียน่าฟังจาก ต่อตระกูล ยมนาค อดีตนายกสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ ที่เสนอวิธีการแก้ปัญหาแบบ “วิศวกร” .. โดยระบุว่า การย้ายบ้านทำได้หลายวิธี ทั้งยกย้ายทั้งหลัง-ตัดเป็นชั้นๆ-ตัดเป็นส่วนๆ-ถอดออกเป็นชิ้น .. ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องพรรค์นี้ คนไทยก็ทำกันออกบ่อย จนเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศ .. มีข้อห่วงใยก็แต่ ต้องสูญเสียงบประมาณ ค่าใช้จ่าย ซ้ำซ้อนกันไปใหญ่ เข้าทำนอง “เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย” รึเปล่า เท่านั้นเอง .. แต่ก็ถือว่าเป็น “ทางเลี่ยง” ไม่ให้เกิดภาพ “ทุบทำลาย” อาคาร-สำนักงาน มูลค่านับพันล้านให้สะเทือนความรู้สึกประชาชนผู้เสียภาษี .. เหมือนทุกฝ่ายพยายามประเคน “ทางเลือก-ทางลง” ให้หมดแล้ว อยู่ที่ “ลุงตู่” ผู้มีอำนาจเต็ม จะตัดสินใจอย่างไร .. แต่ถ้ามี “ธง” ว่า “อั๊วไม่รื้อ” ก็จบข่าว รอดูก็แค่ว่าจะยื้อไปได้สักกี่น้ำ

**ไม่ให้ลืมตาอ้าปาก!! “อภิสิทธิ์ -สุดารัตน์” ค้อนขวับ “ไดรโว่ คสช.” ดูดไม่เลิก แถมเจอเตะตัดขา “รีเซตสมาชิกพรรค” หายแทบเกลี้ยง ตามมาด้วยกลยุทธ์ “ตัดท่อน้ำเลี้ยง” จนได้แต่มองตาปริบๆ อนาคต “เพื่อไทย-ประชาธิปัตย์” ร่วมเป็น “ฝ่ายค้านแห่งชาติ” ลอยมาเลย

เดินเครื่องไม่หยุด .. “ไดรโว่ คสช.”ดูสนั่น สะท้านไปมั้งเมือง ท่ามกลางเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่า “ดาวน์กันหนัก” เสนอตำแหน่งยศฐาในรัฐบาลปัจจุบัน ซื้อใจกันไว้ก่อนเลยทีเดียว .. มีตัวอย่างให้เห็นก็รายของ "เสี่ยจั้ม" สกลธี ภัททิยกุล กับเก้าอี้ “รอง ผู้ว่าฯ กทม.” เช่นเดียวกับ “บ้านใหญ่ชลบุรี” กับ 2 เก้าอี้ข้าราชการการเมืองในยุครัฐบาลทหาร .. หากปล่อยให้ “รัฐบาล คสช.” เดินตามแผนได้สะดวกโยธิน โอกาส “อดอยากปากแห้ง” ไปอีก 4-5 ปีหลังเลือกตั้งก็มีสูง ดีไม่ดี “เพื่อไทย-ประชาธิปัตย์” อาจจะต้องมานั่งจ๋อง เป็น “ฝ่ายค้านแห่งชาติ” ร่วมกันด้วยซ้ำ .. ก็เลยได้เห็น “เดอะมาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมาคอมเมนต์ เรื่อง “ขบวนการดูด” เป็นรายวัน .. ตามมาด้วย “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่ออกมาแขวะไปถึง “ลุงตู่” ว่า แมนๆ กันหน่อย แถมด้วยคำแรงๆ เทียบเป็น “รถดูดส้วม” ไปอีก ..

ตามจริง พรรคเพื่อไทย ที่ก่อร่างมาจาก “พรรคไทยรักไทย” ต้นตำรับพลังดูด อาจจะไม่กระทบเท่าไร ด้วยฐานเสียงหลักยังอิงความนิยม “ทักษิณ” มากกว่า .. ผิดกับทางฝั่ง “ประชาธิปัตย์” แม้ว่าในพื้นที่ภาคใต้ ยังค่อนข้างเหนียวแน่น แต่โดนฉกพื้นที่อื่น โดยเฉพาะ “เมืองหลวง” เค้าลาง “พรรคต่ำร้อย” ก็ลอยมาเลย .. นอกจากเกมดูดสอยนักเลือกตั้ง ตามกลยุทธ์ทอนกำลังคู่แข่งแล้ว “ขุนทหาร” ยังแฮปปี้กับ “แผนรีเซตพรรคการเมือง” ขีดเส้นยืนยันสมาชิกพรรคให้เดือนเดียว ทุกพรรคยอดหายแทบเกลี้ยง .. ประชาธิปัตย์ มีสมาชิก 2.5 ล้านคน มาแค่ 8 หมื่น เพื่อไทย มีสมาชิกประมาณ 1.3 แสน มายยืนยันหมื่นเดียว .. ยังจะมีกลยุทธ์ “ตัดท่อน้ำเลี้ยง” ที่ทำเอาเดือดร้อนมากกว่า ถึงขนาด “อภิสิทธิ์” ต้องออก หน้ามาดักคอด้วยตัวเองเลยว่า มีความพยายามสกัดกลุ่มทุนไม่ให้สนับสนุนพรรคการเมืองเก่า .. เจอแบบนี้เข้าไป พรรคการเมืองเก่าๆ ก็ได้แต่มองตาปริบๆ ไม่เว้นแม้แต่ "พรรคเพื่อไทย" ที่นายทุนเดินว่อนพรรค มีเสบียงกรังของตัวเอง แต่ก็ไม่เคยวางงบประมาณไว้ถึงหลักหมื่นล้านบาท .. ไม่ต้องพูด "พรรคประชาธิปัตย์" ที่ “สปอนเซอร์ดั้งเดิม” ก็ไม่ได้ใจป้ำสายเปย์อะไรขนาดนั้น


** ดีไปก็ใช่ว่าจะดี!! “ไปรษณีย์ไทย” กำไรโตต่อเนื่อง ปีกลายปิดงบฯ เขียวอื๋อ 4.2 พันล้าน แถม “ดีอี” กำลังเสริมเขี้ยวเล็บให้เป็น “Alibaba เมืองไทย” ทำเอา “ไอ้โม่ง” ตาโต งัด “วิชามาร” แซะเก้าอี้ “บิ๊กบอสไปรษณีย์ไทย” ไม่เลิก

โดดเด้งแบบก้าวกระโดด .. ผลประกอบการ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) ปีกลายตัวเลขเขียวอื๋อ บวกไปเหนาะๆ 4,221.89 ล้านบาท .. ที่น่าตกใจกว่านั้นก็เมื่อย้อนไป 4-5 ปีหลัง ยอดกำไรเพิ่มขึ้นหลักพันล้านบาท ต่อปี.. ผลพวงมาจากการปรับตัวเข้า “โหมด 4.0” รองรับความต้องการลูกค้าในยุค E-commerce ได้อย่างเบ็ดเสร็จ .. จน พิเชษฐ์ ดุรงคเวโรจน์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจฯ หมายมั่นจะปั้นให้เป็น “หัวหอก” ในการยกระดับจากช่องทางการขนส่ง-ลอจิสติกส์ ไปสู่ “E-Commerece ครบวงจร” .. ก็ด้วยพื้นฐานของ “ไปรษณีย์ไทย” ที่วันนี้สลัดหลุดจาก “ระบบเก่าๆ” จนวันนี้ครองบัลลังก์ผู้นำในตลาดขนส่ง E-Commerce .. ท่ามกลางการแข่งขันที่เข้มข้น มี “คู่แข่ง” จากภาคเอกชน ทั้งในและต่างประเทศ ที่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด .. ด้วยพื้นฐานที่ดีอยู่แล้ว ยังได้รับการสนับสนุนจาก “พิเชษฐ” ในการเสริมเขี้ยวเล็บด้วย เทคโนโลยีใหม่ๆ ให้อีก .. ทั้งเรื่อง e-Marketplace & Platform, e-Payment, e-Logistics ที่หากหากทำได้ตามแผน แปลงร่างเป็น “Alibaba” ของ “เสี่ยแจ๊ค หม่า” อย่างไรอย่างนั้น เลยทีเดียว .. ทั้งตัวเลขกำไร บวกกับทิศทางในอนาคตที่รัฐบาลยกให้เป็น “เรือธง” ในการขับเคลื่อนธุรกิจ E-commerce จนทำท่าจะฉุดไม่อยู่ .. กลายเป็น “ชักศึกเข้าบ้าน” เมื่อไปเตะตา “ไอ้โม่ง”เข้าอย่างจัง .. จนมีกระแสข่าวงัด “วิชามาร” แซะเก้าอี้ "สมร เทิดธรรมพิบูล" บิ๊กบอสไปรษณีย์ไทย ซะงั้น .. แถม “ไอ้โม่ง” ที่กะเข้ามา “สวมรอย” ความสำเร็จ ข่าวว่าเป็น “คนมีสี” ที่ห่างไกลความรู้ความเข้าใจในธุรกิจสมัยใหม่เสียด้วย .. ก็น่ากลัวว่า “ผู้ใหญ่” จะหลงเกมไปด้วย พาลทำให้ “องค์กรงานดี” พังไปต่อหน้าต่อตา ก็ลองดู


ช.ชฎา


กำลังโหลดความคิดเห็น