“มีชัย” ชี้พรรคเกิดใหม่เป็นทางเลือกประชาชน เชื่อความคิดชาวบ้านเปลี่ยนไป คิดหลายตลบก่อนกาบัตรเลือกตั้ง แนะพรรคน้องใหม่ยึดประโยชน์บ้านเมืองมากกว่าคะแนนนิยมตัวเอง มั่นใจเลือกตั้งตามโรดแมปยกเว้นอุกกาบาตตกใส่ประเทศ
วันนี้ (15 เม.ย.) ที่รัฐสภา นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงภาพรวมการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่กว่า 90 กลุ่ม เป็นไปตามเจตนารมณ์ตามที่ กรธ.คาดหวังหรือไม่ว่า ดูคึกคักดี และเป็นของแปลกใหม่ เป็นทางเลือกของประชาชนได้มากขึ้น อย่างน้อยไม่ไปจำกัดอยู่เฉพาะไม่กี่พรรคการเมืองเหมือนในอดีต แต่พรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นแล้วจะติดตลาดหรือไม่ ต้องดูอีกระยะหนึ่งว่าจะมีนโยบายดึงดูดใจประชาชนได้อย่างไร
ส่วนนักการเมืองหน้าใหม่จะแจ้งเกิดหรือไม่นั้น นายมีชัยกล่าวว่า คิดว่าถ้าเป็นคนที่มีคุณภาพ คิดว่าประชาชนเปลี่ยนไปมาก เขาจะไม่เพ่งเล็งที่ความเป็นนักการเมืองเก่า แต่ไปดูที่คุณภาพ ชื่อเสียง เกียรติคุณของคนคนนั้นมากกว่าติดยึดในสายสัมพันธ์แบบเก่า ดังนั้น เราอาจได้เห็นอะไรใหม่ๆ แปลกๆ ในการเลือกตั้งครั้งหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิธีการกาบัตรเลือกตั้งที่กำหนดเป็นแบบบัตรใบเดียวจะทำให้คนลงคะแนนต้องคิดหลายตลบ เพราะบัตรของเขาถูกนับ ทั้งนี้ เมื่อประชาชนตื่นตัวทางการเมืองมาก มีความหวังอยากได้คนที่มีความใหม่และความสดมาดูแลประเทศ
เมื่อถามว่านักการเมืองหน้าใหม่หลายคนชูประเด็นจะแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นหลัก นายมีชัยกล่าวว่า เป็นสิทธิของเขา ห้ามไม่ได้ แต่ข้อสำคัญต้องบอกว่าจะแก้เรื่องอะไร หากต้องการจะแก้ไขเพราะคุณสมบัติเข้มเกินไป ก็จะทำให้เรารู้ว่าเขาอยากได้คนประเภทไหนเข้ามา
ถามต่อว่านักการเมืองหน้าใหม่จะต้องปรับตัวให้เข้ากับรัฐธรรมนูญใหม่อย่างไร นายมีชัยกล่าวว่า คนหน้าใหม่ที่เข้ามาจะเปลี่ยนแปลงการเมืองของประเทศในรูปแบบที่ใกล้เคียงกับประเทศที่เจริญแล้ว มองด้วยเหตุและผล ยึดประโยชน์ส่วนรวมของประเทศเป็นสำคัญมากกว่าประโยชน์ของพรรค
“ถ้าทำให้ประเทศเจริญรุ่งเรือง ประชาชนมีความสุข พรรคย่อมได้คะแนนนิยมไปในตัว แต่ไม่ใช่ตั้งใจทำเพื่อให้พรรคได้คะแนนนิยม ส่วนสิ่งที่ประชาชนจะได้เป็นเรื่องผลพลอยได้ อยากให้เขามองสิ่งที่ประเทศและประชาชนจะได้เป็นหลัก แล้วะคะแนนนิยมของพรรคจะเป็นผลพลอยได้” นายมีชัยกล่าว
นายมีชัยกล่าวด้วยว่า วันนี้ยังมั่นใจการเลือกตั้งจะเป็นตามโรดแมป ถ้าไม่มีการเลือกตั้งตอนนั้นก็คงไม่มีใครพูดอะไร เพราะอุกกาบาตคงตกลงมาที่ประเทศไทย และคงไม่มีใครดิ้นรนเลือกตั้ง ส่วนถ้าไม่มีเลือกตั้งจะทำให้เกิดความขัดแย้งหรือไม่นั้น ตนคิดว่าขึ้นอยู่กับลักษณะความขัดแย้ง ถ้าเป็นความขัดแย้งเชิงความคิดการเมืองก็เป็นของปกติธรรมดา เพราะการเมืองเป็นเรื่องต่างคนต่างความคิด แต่ถ้าเป็นความขัดแย้งแบบจะยกพวกตีกัน ถือว่าไม่ใช่ของดี และตนเชื่อว่าประชาชนจะไม่ยอมรับ
ถามว่าเป็นห่วงหรือไม่ว่าการเมืองจะกลับไปมีสภาพแบบเก่า นายมีชัยกล่าวว่า คนเปลี่ยนไปมากแล้ว ถ้าดูจากโซเชียลมีเดีย และสิ่งต่างๆ ที่เราเห็นอยู่ในขณะนี้ ที่สำคัญไม่ได้เปลี่ยนเฉพาะในเมือง ดูจากความนิยมแต่งตัวชุดไทยแบบออเจ้าที่กระจายทั่วประเทศ แสดงให้เห็นว่าเมื่อเกิดอะไรขึ้นเพียงเล็กน้อยข้อมูลก็จะกระจายซึ่งแตกต่างจากอดีต