เมืองไทย 360 องศา
เผยตูมออกมาก็ไม่ต้องปฏิเสธหรืออธิบายกันมากความสำหรับ สกลธี ภัททิยกุล อดีต ส.ส. เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ที่ลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อไปรับตำแหน่งรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เรียบร้อยแล้ว
ที่เหลือหลังจากนี้ก็จะเป็นเรื่องราวของการวิเคราะห์ และเสียงวิจารณ์กันทางการเมืองตามมาอื้ออึงไม่น้อยเหมือนกัน เพราะการลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ และก้าวมาเป็นรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครของเขา ย่อมไม่ธรรมดา
หากย้อนกลับไปเมื่อสามสี่วันก่อน มีรายงานข่าวว่า นายสกลธี เข้าพบกับ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล ตอนนั้นมีแหล่งข่าวในพรรคประชาธิปัตย์ ที่ย่อมรู้ถึงความเคลื่อนไหวดังกล่าว เพราะเหมือนกับว่า “สะกดรอย” ตามกันแบบใกล้ชิดกันเลยทีเดียว ออกมาแฉว่า มีการพูดคุยกันเรื่องการตั้งพรรคการเมืองใหม่ เพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นายกรัฐมนตรี โดยคาดว่า จะมีการเปิดตัวกันในเดือนมิถุนายนนี้
ซึ่งวันนั้นนอกเหนือจาก นายสกลธี แล้ว ยังมีคนอื่นในพรรคประชาธิปัตย์เข้าไปด้วยอีกอย่างน้อย 2 คน คือ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีต ส.ส.ปชป. กรุงเทพฯ และ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ อดีต ส.ส.สิงห์บุรี พรรคประชาธิปัตย์ แน่นอนว่า เมื่อเห็นรายชื่อแต่ละคนแล้ว ก็ต้องพิจารณาถึงแบ็กกราวนด์ตามมาว่าพวกเขาเป็นแกนนำ กปปส. ในสายตรงของ สุเทพ เมือกสุบรรณ
เมื่อรูปการณ์เป็นแบบนี้ มันก็ทำให้งานนี้มีความเชื่อมโยงกันระหว่างพรรค กปปส. และพรรคใหม่ที่ในความหมาย “พรรคสีเขียว” ที่แม้ว่าอาจจะเป็นคนละพรรค แต่เป้าหมายเดียวกัน คือ สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่นแหละ หรือไม่เช่นนั้น ในสถานการณ์ที่เร่งรัดก็อาจจะรวมกันเป็นพรรคเดียวกันก็เป็นได้
อย่างไรก็ดี หากตัดตอนมาโฟกัสเฉพาะกรณีของ นายสกลธี ภัททิยกุล ที่ลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ไปนั่งเก้าอี้รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แบบ “สายฟ้าแลบ” ครั้งนี้ ในทางการเมืองย่อมมองกันได้หลายแง่มุม อย่างแรก หากติดตามจากความเคลื่อนไหวจะออกมาในแบบที่ว่าการมารับตำแหน่งรองผู้ว่าฯกรุงเทพมหานครครั้งนี้ มาจากการประสานงานของ “ผู้ใหญ่ในรัฐบาล” มันก็พอเข้าเค้า แม้ว่าจะยังไม่จำเป็นต้องรู้มากนักว่าผู้ใหญ่ที่ว่านั้นคือใคร แต่เมื่อพิจารณาจากแบ็กกราวนด์จากสาย กปปส. ที่นำโดย สุเทพ เทือกสุบรรณ มันก็มีเป้าหมายทางการเมืองเดียวกัน คือ สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
แต่เมื่อให้แยกพิจารณาเฉพาะกรณีตั้ง นายสกลธี ภัททิยกุล เป็นรองผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร แบบฉับพลันทันด่วน มันก็มองได้ว่า นี่คือ เกมช่วงชิงพื้นที่ ชิงมวลชน และขยายมวลชนในกรุงเทพมหานคร เป็นการ “ลดจุดอ่อน” อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน โดยเฉพาะงานเร่งด่วน ก็คือ การเลือกตั้งผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร ที่กำลังจะต้องมาถึงอีกไม่นานข้างหน้า แม้จะยังไม่ชัดเจนว่า พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯคนปัจจุบันจะได้ลงเลือกตั้งหรือเปล่า แต่อย่างน้อยการส่งคนในทีม กปปส. เป็นอดีต ส.ส.กทม.เข้ามา อย่างน้อยก็อาจ “ลดช่องว่าง” ลงไปได้บ้าง
ดังนั้น นาทีนี้แม้ว่าจะยังไม่ชัดเจนในเรื่องของพรรคการเมืองใหม่ ไม่ว่าจะเป็น “พรรคสีเขียว” ในความหมายที่ตั้งขึ้นมาเพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พรรค กปปส. ที่จะตั้งขึ้นมาแบบแยกโดดออกมาต่างหากอีกพรรคหนึ่ง แต่อย่างน้อยการตั้ง นายสกลธี ภัททิยกุล เป็นรองผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร มันก็จะเห็นถึง “พลังดูด” และย่อมต้องตามมาอีกหลายคน เพราะตามข่าวบอกว่าไม่ใช่มีแค่ นายสกลธี คนเดียว ที่เข้าไปในทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันก่อน!!