ข่าวปนคน คนปนข่าว
**รอดูทิศทางลม!! “กำนันเทือก”เช็กกระแส 2 กำหนดการสำคัญ “ค่ายประชาธิปัตย์”พร้อมความชัดเจนอนาคต“หัวหน้ามาร์ค”ก่อนถือฤกษ์ 7 เม.ย. จัดผ้าป่าใหญ่ที่สมัยประกาศตั้งพรรคกปปส. อีกปีกตั้งวอร์รูม“เถกิง-สำราญ-ยะใส”คุมงานพีอาร์ เทงบทำห้องส่ง บนคลับหรูแปซิฟิกซิตี้ ตีปิ๊บพรรคใหม่เต็มพิกัด
ไม่สมราคาคุย .. ป่านนี้ยังไม่เห็นวี่แวว“กำนันเล็ก”ธานี เทือกสุบรรณ น้องชาย “กำนันเทือก”สุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกปปส. จะไปจดจองชื่อพรรค“พรรคมวลมหาประชาชน”อย่างที่คุยเขื่องมาร่วมเดือนซักที .. ก็ในขณะที่“พรรคกำนัน”ยังเตาะแตะต้วมเตี้ยมอยู่ พรรคอื่นเขาไปถึงไหนต่อไหนแล้ว .. อย่าง “พรรคทางเลือกใหม่”ที่เคยถูกจับตามองว่าจะเป็น“พรรค กปปส.”เพราะมี ราเชน ตระกูลเวียง ประธาน กปปส.นนทบุรี เป็นหัวหน้าพรรค ก็ขออนุญาตประชุมพรรค วางงานกันเสร็จสรรพไปแล้ว .. เหตุที่“พรรคกำนัน”ยังต้องนิ่งอยู่ ก็ว่ากันว่า ถึงตอนนี้ยังไร้สัญญาณเป็นมั่นเป็นเหมาะจาก“บิ๊ก คสช.”ในการจะใช้เป็น “พรรคนอมินี”หรือ “พรรคทหาร”..อีกเหตุก็ต้องรอความชัดเจนจากซีกพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีการนัดหมายสมาชิก อดีตส.ส.พรรค เข้ารายงานตัวยืนยันสถานะในวันที่ 1 เม.ย.นี้ .. ทื่ตามข่าวว่านอกจาก “ธานี-เชน” ที่เป็น“พี่น้องเทือกสุบรรณ” แล้ว ก็ไม่มี“แกนนำ กปปส.”รายใดที่แจ้งความประสงค์จะเข้าสังกัด“พรรคกำนัน”เลย .. กระทั่ง“ลูกขิง”เอกนัฎ พร้อมพันธุ์ ยังอาศัยช่วงเวลาไปออกสื่อต่างๆ ประกาศคืนรังพรรคประชาธิปัตย์ .. โดยข่าวว่าอาศัยบารมี “ลุง”นิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เจรจากับผู้ใหญ่ในพรรคให้ ด้วยเห็นว่าหากเปลี่ยนสีเสื้อ“หลานขิง”ไปไม่รอดแน่ ..
อีกหมุดหมายหนึ่ง ก็วันที่ 6 เม.ย. วันคล้ายวันเกิดพรรคประชาธิปัตย์ ที่ปีนี้ครบ 6 รอบ 72 ปี ที่เชื่อว่า จะมีศิษย์เก่า-ศิษย์ปัจจุบัน มาร่วมงานอย่างคับคั่ง ถือเป็นการชี้ว่า ใครอยู่-ใครไป .. แล้วคาดว่าจะมีความชัดเจนว่า หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะยังชื่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หรือไม่ด้วย .. บังเอิญอย่างร้ายกาจ ถัดมาวันเดียว“กำนันเทือก”มีกำหนดจัดทำบุญทอดผ้าป่ามหากุศลเพื่อการศึกษา ณ วิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี .. วันนั้นคงเห็นหน้าเห็นหลังว่า“ลุงกำนัน”เอาไงแน่ อาจยึดฟลอร์ ประกาศตั้งพรรคไปในคราวเดียว .. ขณะเดียวกัน ในความไม่ชัดเจนก็มี ความเคลื่อนไหวบางปีกของ“พรรคกปปส.”อยู่เนืองๆ ที่ยึด“แปซิฟิก ซิตี้ คลับ”คลับวีไอพี ย่านสุขุมวิท เป็นวอร์รูม .. มีการเซตทีมไว้สำหรับการผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ ที่เตรียมปูพรมเต็มที่ในช่วงพรรคตั้งไข่ .. ไม่เท่านั้น ยังมีการกั้นพื้นที่ เทงบประมาณ จัดทำห้องสตูดิโอ อุปกรณ์ทันสมัยครบครัน ยิ่งกว่าห้องส่งทีวีดิจิทัลบางแห่งอีกด้วย .. ทีมงานที่เข้าๆ ออกๆ ก็หน้าละม้ายคล้าย“เถกิง สมทรัพย์ - สำราญ รอดเพชร”ส่วนเรื่องนโยบาย-วิสัยทัศน์ ก็ให้ “จารย์ยะใส”สุริยะใส กตะศิลา รับผิดชอบ .. รายละเอียดปลีกย่อยเป็นอย่างไรไม่ทราบ แต่ “บิ๊กบราเธอร์”ยังคงเป็น “กำนันเทือก”ผู้เคยประกาศจะไม่ยุ่งเกี่ยวการเมืองตลอดชีวิตนั่นแหละ
**รับความจริงไม่ได้!! “ลุงตู่”สวมบท “ลุงเฉย”แถสีข้างแหก ข่าวทุจริตยุค“กากีโกง”บาน ทำต่างชาติหนีหมด ประชาชนสุดระอา“รัฐข้าราชการ”ขนาด “พ่อเมืองเชียงราย”ยังทนไม่ได้ ลากไส้เละ จ.เชียงราย ถลุงภาษีชาติ จาก 100 ได้ผลจริงแค่ 30-40%
โทษปี่โทษกลองไปเรื่อย .. “นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พูดในรายการฮิต เมื่อคืนวันศุกร์ ประมาณว่าที่ผ่านมามีการนำเสนอข่าว-วิพากษ์วิจารณ์ปม “ทุจริตคอร์รัปชัน”บ่อยจนพร่ำเพรื่อ ส่งผลให้ต่างประเทศไม่ไว้ใจ-นักลงทุนต่างชาติหนีหมด .. หรือถ้าพูดเป็นคำติดปาก“ท่านผู้นำ”คงประมาณว่า“ลดราวาศอก”กันบ้างเถอะ อะไรประมาณนั้น .. จนต้องถาม“ผู้นำประเทศ”กลับว่า ที่ว่าบ่อยนั้น“คนพูด”หรือ “คนโกง”กันแน่ .. อีกทั้ง “นายกฯตู่”ยังอ้างไปอีกว่า ทุกๆ เรื่องอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ อย่าไปพูดกันให้เสียหาย จนไม่แน่ใจว่าตรวจสอบกัน“ช้า”หรือตั้งใจจะ “เฉย”กันแน่ .. เพราะที่มันเสียหายไปแล้วก็งบประมาณแผ่นดิน ย้ำอีกครั้งว่าทาง“ม.หอการค้า”เคาะตัวเลขกลมๆ ออกมาว่า 3 ปีกว่า ในยุค คสช. มีการจ่ายสินบาท คาดสินบน จนงบประมาณประเทศเสียหายไปราว 9 แสนล้านบาท เกือบครึ่งหนึ่งของงบประมาณแผ่นดิน 1 ปี ..
ซ้ำร้ายยังคาดการณ์ความรุนแรงของปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันในปี 2561 สูงขึ้น 48% หรือ “ครึ่งเท่าตัว”ได้ฟังแบบนี้ยังเฉยอยู่ได้คงไม่ปกติ .. ประเภท“ยิ่งขุดยิ่งเจอ”เงินช่วยเหลือผู้ยากไร้ ที่เจอฤทธิ์ “ข้าราชการ”อมตังค์-สวมชื่อกันยกดอย .. หรือกองทุนเสมาฯ ช่วยเด็กยากจน ยันทุจริตวัคซีนฉีดหมา ต้นตอ “ขบวนการโกงทั้งแผ่นดิน”ล้วนแล้วแต่เป็น “ข้าราชการ” ที่สวม“เครื่องแบบสีกากี”ทั้งสิ้น .. จนทำไปทำมาคนไทยเกือบลืมความเลวร้ายของ “นัการเมือง-นักเลือกตั้ง”กันไปเลยทีเดียว .. และไม่ใช่แค่ประชาชนทนไม่ได้ ข้าราชการกันเองยังไม่ไหว รายของ ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าฯเชียงราย ที่ออกมาลากไส้ ถึงความฟอนเฟะของการใช้งบประมาณของ จ.เชียงราย .. ยกตัวอย่างงบฯ 100 บาท ที่เห็นมรรคผลจริงๆ แค่ 30-40 บาท กินกันยุ่บยั่บ 60-70% .. จนแฟ้มโครงการกองเต็มโต๊ะ 20 กว่าเรื่องที่เซ็นต์ไม่ได้ ด้วยเพราะผิดกติกา และไม่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม .. เรื่องแบบนี้ ต้องยอมรับความจริง ตีปิ๊บให้เป็น“ขี้ปาก”สร้างกระแสให้มีการตรวจสอบโดยไวมากกว่า ไม่ใช่มาห้ามวิพากษ์-นำเสนอข่าว เหมือนรับความจริงไม่ได้ อย่างที่ “ลุงตู่”ท่านว่า .. ทำตัวเป็น“ลุงเฉย”แบบนี้ แทนที่จะได้อยู่ต่อท่ออำนาจแบบแบเบอร์ จะยิ่งห่างไกลความจริงไปเรื่อยๆ
** ประวัติศาสตร์กำลังซ้ำรอย!! “กฤษฎีกา”ไฟเขียว “กสทช.รักษาการ”ประมูลคลื่นรอบใหม่ สมใจ “บิ๊กซอยสายลม”ที่วางเกมกรุยทางให้ “แจส”ที่เคยทิ้งคลื่น 4G คัมแบ็ก “ปั่นป่วน”วงการอีกครั้ง แถมวางเกมบีบ“ค่ายสีฟ้า”ที่คลื่นจะไม่พอใช้ จนสงสัย“ทุนยุโรป”คงทิ้งฐานเมืองไทยเร็วขึ้น
เฮกันลั่นซอยสายลม .. เมื่อ ดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ร่อนหนังสือตอบกลับมายัง สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) .. ระบุว่า กรรมการ กสทช. ชุดปัจจุบัน ที่มี “บิ๊กอ้อ”พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร เป็นประธาน ที่ถือเป็น“ชุดรักษาการ”มีอำนาจในการดำเนินงานกิจการของ กสทช. ทุกด้าน .. ข่าวว่า“เลขาฯดิสทัต”ถูก “บิ๊กซอยสายลม”ที่อ้างทั้ง “ตึกไทยฯ-บ้านใหญ่” กดดันให้งัดแฟ้มขึ้นมาดูเป็นเรื่องแรกๆ จนตอบกลับรวดเร็วผิดสังเกต.. เท่ากับว่าเป็นการเปิด“ไฟเขียว”ให้สามารถเดินหน้า“เรื่องใหญ่”อย่างการสามารถจัดประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 และ 1800 MHz ได้อย่างสะดวกโยธิน .. และ ฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาฯ กสทช. ก็เด้งรับลูก ประกาศบรรจุเข้าวาระการประชุมบอร์ด กสทช. ในวันที่ 28 มี.ค.นี้เรียบร้อย .. ก่อนหน้านี้ "บอร์ด กสทช." มีมติชะลอการประมูลออกไปก่อน ด้วยเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ ที่อีกไม่เกิน 1-2 เดือนนี้ก็จะได้ “7อรหันต์ กสทช.”ชุดใหม่ที่ สนช.นัดเคาะรอบไฟนอล วันที่ 19 เม.ย.นี้ .. ที่ว่าเฮลั่นซอย นั่นก็แค่ “บิ๊ก กสทช.บางคน” ขณะที่“บอร์ด กสทช.ส่วนใหญ่”ดูจะอึกอัก กลืนไม่เข้าคายไม่ออก.. ก็ด้วยที่ผ่านมาสภาพความเป็นจริงของการประมูลคลื่นที่จัดโดย กสทช. ก็มีผูกปมปัญหามาโดยตลอด .. ล่าสุดก็ต้องบากหน้าไปขอให้ “หัวหน้า คสช.”ออกคำสั่งมาตรา 44 เพื่อช่วยเหลือผู้ประการอยู่หลัดๆ ยังจะหากระดูกมาแขวนคอเพิ่มอีก ..
ถึงจะมี “เดดไลน์”ขีดไว้ว่า สื้นเดือน ก.ย.นี้ สัมปทานคลื่น 1800MHz ของ “ดีแทค”จะหมด ส่งผลให้ “ดีแทค”จะไม่มีคลื่นเพียงพอให้บริการลูกค้าก็ตาม .. นั่นก็เป็นแค่ “ข้ออ้าง”ที่หากคำนึงถึงความเหมาะสมแบบ“ไม่เสียมารยาท”ก็มีกลายหนทาง ตลอดจนเสนอให้ใช้ ม.44 ยืดสัมปทานออกไปก่อนได้ไม่ยาก .. แต่ “บิ๊กซอยสายลมบางคน”ไม่คิดเช่นนั้น พยายามเร่งรัดการประมูลครั้งนี้มาต่อเนื่อง ด้วยเกรงว่าหาก กสทช.ชุดใหม่เข้าประจำการ การประมูลอาจไม่ได้ตรง“กติกา”ที่ตัวเองวางเกมไว้ จึงแอบอ้างไปทั่วว่า “ผู้ใหญ่”สั่งมาจนติดปาก .. ทั้งที่รู้อยู่ว่าการประมูลงวดนี้ ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการน้อยมาก ถึงขนาดแก้เงื่อนไขการประมูลจาก“ตั๋วใบใหญ่”3 ใบๆ ละ 15MHz ที่มูลค่าเริ่มต้น 7 หมื่นกว่าล้านบาท ซอยเป็น “ตั๋วใบเล็ก”9ใบๆละ 5 MHz เพื่อลดมูลค่า “ตั๋ว”ลง ด้วยหวังว่าจะสร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการเดิม และเปิดทางให้ “รายใหม่หน้าเก่า” เข้าร่วม .. ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ค่ายอื่นมีคลื่นในมือ“เต็มกราฟ”แถม “แบกหลังแอ่น”จนต้องรอพึ่ง “อภินิหาร ม.44” .. แต่ก็กำลังถูกตะล่อมให้เข้ามาร่วมประมูล เพื่อเคาะราคาให้สูง บีบคู่แข่งอย่าง “ค่ายสีฟ้า”.. ขณะที่ “ค่ายสีฟ้า”เอง แม้จะต้องสู้ขาดใจ ไม่งั้นคลื่นไม่พอ แต่ข่าวว่าคงแค่ “ประคองตัว”เอาคลื่นเก่ากลับมา เพื่อให้บริการได้ตามเดิมไปพลางเท่านั้น ด้วย “ทุนยุโรป”เตรียมทิ้งฐานเมืองไทยในเร็ววันนี้ .. แว่วว่างานนี้อาจจะมี “เสือรายที่ 4”เข้ามาร่วมวงศ์ไพบูลย์อีกครั้ง ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็ “แจส โมบาย” ของ "พิชญ์ โพธารามิก" ที่เคยสร้างตราบาป ทิ้งใบอนุญาต 4G คลื่นความถี่ย่าน 900 MHz มูลค่ากว่า 7 หมื่นล้านบาทไปหน้าตาเฉย .. เชื่อไหมว่า การทิ้งใบอนุญาตมูลค่า 75,654 ล้านบาท ครั้งนั้น กลับถูกริบเงินประกัน 644 ล้านบาท และถูกปรับจิ๊บจ๊อยอีกแค่ 199 ล้านบาท .. ทั้งที่หากเอากันจริงๆ การกระทำของ “แจส”เข้าข่ายความผิดตาม มาตรา 8 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ หรือ “พ.ร.บ.ฮั้ว”พ.ศ. 2542 ที่กำหนดว่า ต้องปรับ 50% ของจำนวนเงินที่มีการเสนอราคา .. อีกทั้ง “เงินประกัน -ค่าปรับ”ที่ กสทช.ได้เทียบไม่ได้กับผลประโยชน์กอบโกยไปได้จากจังหวะขึ้น-ลงของหุ้น “JAS”ในช่วงนั้นเลย .. ไม่เท่านั้น สัญญาต่างๆ ระหว่าง แจส กับ กสทช. ก็ดำเนินการกันต่อ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีการถูกดำเนินการใดๆที่ใกล้เคียงกับการขึ้น “แบล็กลิสต์”ที่เคยมี “ขาใหญ่ กสทช.”ขู่ไว้เลย .. ไม่เกินความคาดหมายหรอกที่จะมีชื่อ“แจส โมบาย”ขอเข้าร่วมประมูลรอบนี้ ก็ด้วย “บิ๊กซอยสายลม”ดันไปมีเอี่ยวกับจังหวะ “น้ำขึ้น-น้ำลง”ของหุ้น “JAS”เมื่อ 2 ปีก่อนนั่นด้วยนี่สิ .. หนก่อนได้กันไปเยอะ ก็ติดใจกันเป็นธรรมดา แบบนี้ประวัติศาสตร์น่าจะซ้ำรอยอีกครั้ง.
ช.ชฎา