ข่าวปนคน คนปนข่าว
**อภินิหารอุ้มนายทุน!! เตรียมคลอด ม.44 อุ้ม “ทีวีดิจิทัล”พ่วง “ทุนใหญ่ค่ายมือถือ”หลังมี“วงประชุมลับ”ระหว่าง“บิ๊กซอยสายลม”กับ “บิ๊กค่ายมือถือค่ายหนึ่ง”ก่อนชงมาตรการเปย์เต็มเหนี่ยว “รสนา”ดักคอมีเงื่อนไขแลกเปลี่ยน “เงินทอน”สู้ศึกเลือกตั้งหรือไม่ ??
ประจานความล้มเหลว .. ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นนโยบายที่ผิดพลาดของ “ภาครัฐ”โดยเฉพาะ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่ออกใบอนุญาต แบบไม่ดูสภาพตลาดที่เป็นจริง จน “ทีวีดิจิทัล”เจ๊งกันบักโกรก .. ถึงต้องโร่มาขอให้ คสช. ออกคำสั่งตาม มาตรา 44 เพื่อพักชำระหนี้ให้ผู้ประกอบการ เป็นเวลา 3 ปี .. แถม กสทช.ต้อง “ควักเนื้อ”ออกค่าเช่าโครงข่ายทีวีดิจิทัลภาคพื้นดิน (MUX)ให้อีก 50% เป็นเวลา 24 เดือน .. ตรงตามคำพิพากษาศาลปกครองกลางใน “คดีเจ๊ติ๋ม ทีวีพูล” ก่อนหน้านี้ที่ระบุชัดว่า แผนการขยายเครือข่ายผู้ชมทีวีดิจิทัลของ กสทช. ไม่เป็นไปตามแผน แจกกล่องทีวีดิจิทัล ที่ใช้งบประมาณกว่า 16,000 ล้านบาทล่าช้า ที่สุดมีประชาชนนำคูปองมาแลกกล่องไปแค่ 9 ล้านครัวเรือนเท่านั้น ที่สำคัญ ติดตั้งใช้งานจริงไม่ถึงด้วยซ้ำ .. เป็นที่มาของบ่วงที่ผูกคอเหล่าผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล ที่ตอนนี้แทบอยากจะถอดบ่วงตาม “เจ๊ติ๋ม” กันแทบทุกช่อง ..
ไม่เพียงแค่ “ทีวีดิจิทัล”เท่านั้น การออกคำสั่ง ม.44 รอบนี้ ยังพ่วงมาตรการช่วยเหลือ “โอเปอร์เรเตอร์ค่ายมือถือ”ไปด้วย ทั้งที่เป็นคนละเรื่องกัน .. ตามที่ รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว.ชื่อดัง ตั้งข้อสังเกตว่า งานนี้อาศัยลูกมั่ว อุ้มนายทุน แล้วยังอาจจะมีผลพวงได้เป็น“เงินทอน”สู้ศึกเลือกตั้งหรือไม่ .. ด้วยมีการย้ำหลายหนว่า กสทช. ผิดพลาดในการเปิดประมูลคลื่น 900 MHz หรือ 4G ที่มีราคาแพงเกินความเป็นจริง .. สะท้อนจากการทิ้งประมูลของ “ค่ายจัสมิน”ที่ร่วมวงประมูลจนราคาคลื่นพุ่งปรึ๊ดไปถึง 75,654 ล้านบาท เช่นเดียวกับราคาหุ้น JAS ที่พุ่งขึ้นอย่างมีเลศนัย .. หรือกระทั่ง “ทุนใหญ่”อย่าง “ทรู - เอไอเอส”ก็ยังประสบปัญหาในการชำระค่าประมูล จนต้องต่อรองขอผ่อนชำระ ทั้งที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการประมูลตั้งแต่แรก .. และแม้ว่าการร่วมหาทางออกของ วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กับ ฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาฯ กสทช. จะเป็นการเยียวยาเพื่ออุ้ม “อุตสาหกรรมโทรคมนาคม” ที่เป็นกลไกสำคัญในยุค 4.0 .. แต่การเอื้อกันเกินพอดี ก็จะทำให้เป็นขี้ปากได้ว่า ใช้ “อำนาจพิเศษ”ขัดหลักธรรมาภิบาล เบียดบังเป็นภาระงบประมาณแผ่นดิน เพื่อช่วยเหลือ “กลุ่มทุน”แลกกับ “ผลประโยชน์บางประการ”ตามที่“อดีต ส.ว.รสนา”ตั้งข้อสังเกตไว้ .. ท่ามกลางกระแสข่าวว่า มี “วงประชุม ลับ”ระหว่าง “บิ๊กซอยสายลม”กับ “บิ๊กค่ายมือถือค่ายหนึ่ง”เมื่อวันพฤหัสฯที่ 15 มี.ค. ที่ผ่านมา ก่อนที่รุ่งขึ้น “เลขาฯฐากร”จะเข้าทำเนียบฯไปประชุมกับ “รองฯวิษณุ”ก่อนเคาะเบื้องต้นเป็นมาตรการเปย์ “ค่ายมือถือ”แบบเต็มเหนี่ยวขนาดนี้.
** ไม่มีใครผิดใครถูก!! สภาคณาจารย์ มมส.อุ้ม “อาจารย์มือทุบ”คู่กรณี “น้องแบม”ชัด ตรงตามข่าวเมาท์ “บิ๊ก มมส.”ล็อบบี้ให้ผลสอบ เอียงเข้าทางอาจารย์ ส่วนประเด็น“ฟาดหลัง-สั่งกราบเท้า”ที่ผิดทนโท่ สั่งตั้งกรรมสอบอีกชุด หวังถ่วงเวลาให้เรื่องซา ก่อนเลิกแล้วต่อกัน
มวยล้มซึ่งหน้า .. ผลสอบ “อาจารย์มือทุบ”สายไหม ไชยศิรินทร์ หัวหน้าภาควิชาคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) คู่กรณีของ “น้องแบม”ปณิดา ยศปัญญา นิสิต มมส. ชั้นปีที่ 4 ฮีโร่ผู้เปิดโปงกลโกงเงินผู้ยากไร้ จนสะเทือนไปทั้งแผ่นดิน .. ปรากฏว่า “สภาคณาจารย์ มมส.”สรุปออกมาแบบงงๆ “ไม่มีใครผิดใครถูก”ตรงเป๊ะ ตามกระแสข่าวราวกับ “ล็อกข้อสอบ”ก่อนหน้านี้ว่า “บิ๊ก มมส.”ที่หน้าฉากออกมาชื่นชม “น้องแบม”งั้นงี้ แต่หลังฉาก ล็อบบี้กดดันสภาคณาจารย์ เพื่อให้ผลสอบเข้าทาง “ฝั่งอาจารย์”มากกว่า“ฝ่ายนิสิต”..ทั้งที่ความผิดทนโท่ อย่างน้อยเรื่อง “ทำร้ายร่างกาย”ที่ “เจ๊สายไหม”ใช้มือฟาด“น้องแบม”แล้วแถว่า “หมั่นเขี้ยว” ..แต่สภาคณาจารย์ก็เงื้อง่าราคาแพง ส่อจะอุ้มกันอีก ให้ตั้งกรรมการสอบอีกชุดว่า ทุบนิสิตแบบที่ว่า เข้าข่ายผิดจรรยาบรรณหรือไม่ .. พร้อมขีดเส้นทราบผลภายใน 30 วัน หรืออย่างช้าที่สุดไม่เกิน 60 วัน คงหวังให้เรื่องซา เลิกแล้วต่อกันไป .. เช่นเดียวกับประเด็น “กราบเท้า”ที่แถไปว่า นำนิสิตไปไกลเกลี่ย และบอกให้ก้มกราบ ไม่ได้สั่งให้กราบเท้า แต่ “น้องแบม”กราบเท้าเอง มีนิสิต 2 คนร้องไห้ แต่ไม่ทราบเหตุผล .. มันชัดเจนว่า คนเป็นอาจารย์ไม่คิดจะปกป้อง“คนทำดี”ไม่ปกป้อง “ลูกศิษย์ตัวเอง”แบบนี้ก็พอสรุปได้แล้วว่า ผิดจรรยาบรรณความเป็น “ครูอาจารย์”ไม่เห็นต้องสอบอะไรเพิ่มเติมเลย .. จึงไม่แปลกที่ “น้องแบม”ซึ่งอุตส่าห์ไปฟังผลสอบสวนด้วยตัวเอง ถึง “คาใจ”ในหลายประเด็น ก็เพราะผลสอบเหมือนปัดสวะ ให้พ้นทางมากกว่า .. อารมณ์แบบนี้ก็ไม่ต่างจาก อุ้นกันเอง ครื้นเครงในกะลา ไม่สนว่าอารมณ์สังคมไปไหน ต่อไหนแล้ว .. ก็ด้วยวีรกรรม “น้องแบม”ที่ถือเป็นการจุดเทียนเล่มเล็กๆ ทำให้จนถึงตอนนี้ ทาง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ตรวจสอบการเบิกจ่ายงบฯของ“ศูนย์ช่วยเหลือคนไร้ที่พึ่ง” ..พบมีความผิดผิดปกติแล้ว 49 ศูนย์ เพิ่มขึ้นอีก 5 จังหวัด ได้แก่ ศรีสะเกษ กำแพงเพชร พังงา สกลนคร และ จันทบุรี งบประมาณ 104 ล้านบาทเศษ คิดเป็นประมาณ 85% ของงบประมาณทั้งหมด .. ทิศทางลมกรรโชกขนาดนี้ ยังอุ้มกันไปหน้าตาเฉย คิดอ่านใช้ “วิกฤตเป็นโอกาส”ไม่เป็น.
** พาเสียสุนัข!! ถล่มยับ“ปลัดกระทรวงหมอ”ไอเดียกระฉูด ชงเก็บภาษีสัตว์เลี้ยง“กรมปศุสัตว์”เด้งดึ๋งเห็นดีด้วย เข้าทำนอง รำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง บกพร่องคุมวิกฤติพิษสุนัขบ้าไม่อยู่ โบ้ยความรับผิดชอบให้ประชาชน
ก่อนพูดไม่คิด .. จากเรื่อง“ภาษีหมา”ก็เลยกลายเป็น “พาเสียสุนัข”ไปซะได้ .. รายของ นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่จู่ๆไอเดียกระฉูด จุดพลุประเด็น “ภาษีสัตว์เลี้ยง”นัยว่าเพื่อเป็นการป้องกัน “เชื้อพิษสุนัขบ้า”ที่กำลังระบาดลามไปค่อนประเทศอยู่ในตอนนี้ มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 6 ราย รวมทั้งเป็นการลดจำนวนประชากร “หมา-แมวจรจัด”ด้วย .. พูดไม่ทันไร ก็กลายเป็นดราม่า “คนรักหมา-แมว”ถล่มกันยับ “หมอเจษฎา”ก็เลยต้องเปิดการ์ด “สื่อเข้าใจคลาดเกลื่อน”ก่อนแก้ตัวอย่างรวดเร็วว่า “แค่ยกตัวอย่างต่างประเทศ”..โดนถล่มไม่เท่าไร ยังต้องหงายเงิบ เมื่อคนเก็บภาษีอย่าง “กระทรวงการคลัง”ออกมาระบุในทำนองว่า ไม่ทราบรายละเอียดที่ “ปลัดกระทรวงหมอ”เสนอ รวมทั้งจากการศึกษาก็ไม่พบว่า มีประเทศไหนในโลกใบนี้ ที่เก็บภาษีคนเลี้ยงหมา-แมว ..
กระทั่งผู้รับผิดชอบโดยตรง ประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร ก็ยังชิ่งปมร้อน “โนคอมเมนต์”ท่าเดียว .. ที่รับลูกก็เห็นจะมี นายสัตว์แพทย์ อภัย สุทธิสังข์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรฯ ที่ดูจะเห็นดีเห็นงามกับไอเดีย “หมอเจษฎา”ไม่น้อย ถึงกับขอบอกขอบใจ ที่กล้าออกมาพูดเช่นนี้ .. น่าสังเกตว่าที่ "กรมปศุสัตว์”เห็นดีด้วยกับ “กระทรวงหมอ”ที่กำกับดูแล “กรมควบคุมโรค”ก็ด้วยเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงกับการป้องกันเชื้อพิษสุนัขบ้าในสัตว์ .. ที่ปรากฏว่า ปีนี้ดูจะ “รับมือไม่ไหว”จนสถานการณ์วิกฤตในหลายจังหวัด .. แม้การระบาดของโรคจะมาจากหลายปัจจัย แต่การ ชงเรื่อง “ภาษีหมา-แมว”ขึ้นมาในช่วงนี้ ก็หนีไม่พ้นถูกมองว่า ทำงานบกพร่องกันเอง แล้วผลักภาระมาให้ประชาชน .. แทนที่จะโบ้ยความรับผิดชอบ สู้ก้มหน้าทำงานให้ดี แก้ปัญหาให้จบซะก่อน ค่อนมาคุยกันอีกทีเรื่อง แนวทาง “จัดระเบียบสัตว์เลี้ยง”โดยเฉพาะ “หมา-แมว”..ไม่ใช่พอเกิดเรื่องแล้วก็รำไม่ดีโทษปี่กลอง ให้ถูกด่าฟรีไปเรื่อย.
ช.ชฎา
** ล้อมกรอบ **
ขอแสดงความเสียใจกับ“ครอบครัวชัยจินดา”ที่สูญเสีย คุณพ่อปราณีต ชัยจินดา อายุ 90 ปี บิดาของพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ที่ได้ถึงแก่กรรม เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยเจ้าภาพจะตั้งศพบำเพ็ญกุศล ณ ศาลาทักษิณาประดิษฐ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. พิธีสวดอภิธรรมศพ จนถึงวันที่ 25 มี.ค. เริ่มตั้งแต่เวลา 18.30 น. (วันที่ 26 มี.ค. งดพิธีสวดพระอภิธรรมศพ ) และพิธีพระราชทานเพลิงศพ (เมรุ 1) ในวันที่ 27 มี.ค. เวลา 17.00 น.