อดีตรองโฆษกรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ปากดีวิจารณ์ข้ามรุ่น ชี้ “สมชัย” ถูกปลดเพราะวิจารณ์ผู้มีอำนาจสั่งซ้ายหันขวาหันไม่ได้ ซัด “ประยุทธ์” ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง เรื่องขัดกันแห่งผลประโยชน์
วันนี้ (21 มี.ค.) ร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง อดีตรองโฆษกรัฐบาล กล่าวว่า ตนเองไม่เชื่อโดยเด็ดขาดว่า สาเหตุที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งปลดนายสมชัย ศรีสุทธิยากร พ้นจาก กกต.นั้น เป็นเพราะเป็นห่วงเรื่องผลประโยชน์ขัดกัน เพราะถ้าย้อนดูพฤติกรรมของรัฐบาลที่ผ่านมาจะเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ใส่ใจเรื่องหลักผลประโยชน์ทับซ้อน หรือหลักผลประโยชน์ขัดกัน ไม่อย่างนั้นคงไม่เอานายทุนรายใหญ่ๆ ไม่กี่เจ้าที่ทำธุรกิจแบบผูกขาดมานั่งกำหนดนโยบายเศรษฐกิจของประเทศร่วมกับรัฐบาล ทั้งๆ ที่เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และจะทำให้เอกชนรายย่อยเสียเปรียบ แล้วที่อ้างว่านายสมชัยมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมนั้น อยากถามว่าคนข้างตัวท่านที่อ้างว่ายืมนาฬิกาเพื่อนมาใส่ 25 เรือน แบบนี้มีพฤติกรรมเหมาะสมนักหรือ
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์คงลืมดูตัวเองว่าเป็นทั้งหัวหน้า คสช. เป็นทั้งนายกรัฐมนตรี รับเงินเดือนหลายๆ ทางเช่นกัน โดยไม่คำนึงถึงหลักการขัดกันแห่งผลประโยชน์แต่อย่างใด แถมตอนนี้ เป็นนายกฯ อยู่แท้ๆ แต่ก็ใช้งบประมาณแผ่นดินโปรยเงินผ่านนโยบายประชานิยมหาเสียงล่วงหน้า เพราะไม่ปฏิเสธว่าตัวเองก็อยากเป็นนายกฯ คนนอก หนำซ้ำพอมีคนออกมาขับไล่ก็ไม่สะทกสะท้าน แถมยังใช้อำนาจในฐานะหัวหน้า คสช. ส่งทหารไปแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้ที่วิจารณ์รัฐบาลอีกต่างหาก ที่แย่กว่านั้นคือลิ่วล้อของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็เอาอย่างท่านหมด โดยถ่างขานั่งทั้งเก้าอี้รัฐมนตรี และเก้าอี้ผู้บริหารในกระทรวงที่เคยสังกัดอยู่
เรียกว่าเป็นทั้งข้าราชประจำและข้าราชการการเมือง รับเงินเดือนสองทางสามทาง แถมยังเอาเปรียบคนอื่นไม่ให้ได้เติบโตในกระทรวง ทั้งๆ ที่ ตัวเองก็ไม่สามารถมาทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งไม่มีประเทศไหนที่เจริญแล้วเขาทำกัน อยากถามว่าพฤติกรรมแบบนี้ถ้าไม่เรียกว่ามีผลประโยชน์ขัดกันแล้วจะให้เรียกว่าอะไร ทั้งนี้ สาเหตุหลักที่นายสมชัยถูกปลดน่าจะเป็นเพราะกล้าวิจารณ์รัฐบาลแบบตรงไปตรงมา และรัฐบาลสั่งซ้ายหันขวาหันไม่ได้อีกต่อไปมากกว่า เพราะในคำสั่งเดียวกัน แม้แต่กรรมการที่ขาดคุณสมบัติ พล.อ.ประยุทธ์ก็ยังใช้อำนาจต่ออายุให้ทำงานได้เลย สะท้อนให้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้เป็นคนที่มีหลักการอะไรทั้งนั้น ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ควรเที่ยวชี้นิ้วด่ากราดคนอื่น โดยลืมดูตัวเองว่า อีก 4 นิ้วที่เหลือนั้นกำลังชี้เข้าหาตัว พล.อ.ประยุทธ์เอง