แกนนำนิติราษฎร์ขึ้นศาลทหาร คดีไม่มารายงานตัว คสช.ปี 57 ย้ำมีข้อเท็จจริง-ข้อ กม.พร้อมสู้คดี เผยไม่คิดขัดคำสั่ง คสช.ที่ให้มารายงานตัว แต่ติดภารกิจอยู่ต่างประเทศ แถมระบุคำสั่ง คสช.ที่ 5/2557 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
วันนี้ (19 มี.ค.) ที่ศาลทหารกรุงเทพ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลทหารกรุงเทพได้นัดสืบพยานฝ่ายโจทก์ในคดีที่นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสมาชิกกลุ่มนิติราษฎร์ ไม่มารายงานตัวตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 5/2557 ลงวันที่ 24 พ.ค. 57 และคำสั่งคสช.ที่ 57/2557 ลงวันที่ 9 มิ.ย. 57
ทั้งนี้ นายวรเจตน์กล่าวว่า ขณะนี้คดีดังกล่าวอยู่ในชั้นการสืบพยานฝ่ายโจทก์ คือพนักงานสอบสวนที่มีจำนวน 2 ปาก คาดว่าจะเป็นการสืบพยานฝ่ายโจทก์ครั้งสุดท้าย จากนั้นทางศาลทหารฯ ก็จะมีการดำเนินการสืบพยานฝ่ายจำเลยต่อซึ่งก็คือตน สำหรับแนวทางการต่อสู้คดีนั้นตนจะให้ปากคำต่อศาลทหารฯ โดยมีทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่ประกอบกันอยู่ในคดี คดีนี้มีการดำเนินการฟ้องตนเนื่องจากไม่มารายงานตัวตามคำสั่ง คสช. ที่มีโทษสูงคือจำคุก 4 ปี และปรับ 80,000 บาท ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ทำสำนวนฟ้องตนในข้อหาไม่มารายงานตัวตามคำสั่งที่ คสช.ที่ 57/2557 ลงวันที่ 9 มิ.ย. 57 เพียงฉบับเดียว ทำให้เป็นประเด็นที่ต้องต่อสู้กันอยู่ ทั้งนี้ก็ยังมีประเด็นเรื่องรัฐธรรมนูญ เพราะตอนนี้รัฐธรรมนูญที่บังคับใช้คือรัฐธรรมนูญปี 60 ก็อาจจะต้องมีการยื่นเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญตีความข้อกฎหมายด้วย อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าสาเหตุที่ไม่ได้เดินทางมารายงานตัวเนื่องจากขณะนั้นเดินทางอยู่ต่างประเทศ และได้แจ้งเหตุขัดข้องต่อเจ้าหน้าที่ คสช.แล้ว เมื่อกลับจากต่างประเทศตนก็เดินทางไปรายงานตัวต่อเจ้าหน้าหน้าที่ คสช.ช่วงหลังจากที่มีการออกคำสั่ง คสช.ที่ 57/2557 ลงวันที่ 9 มิ.ย. 57 แล้วหลังจากนั้น 2 วัน
ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น. นายวรเจตน์ยังกล่าวถึงกรณีอัยการศาลทหารฟ้องขัดคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ที่ 5/2557 และ 57/2557 ไม่มารายงานตัวตามคำสั่ง คสช. ว่าคดีตอนนี้อยู่ในชั้นสืบพยานโจทก์ ซึ่งแนวทางในการต่อสู้ต้องดูรายละเอียดในศาล เพราะมี 2 คำสั่ง คสช.ที่ไม่ยอมมารายงานตัวถึง 2 ครั้ง ถือว่ามีโทษหนักจำคุก 4 ปี หรือปรับ 80,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยตนเองต้องการให้ศาลชี้ขาดในเบื้องต้นก่อน เพราะเมื่อมีคำสั่ง คสช.ที่ 57/2557 แล้ว คำสั่งที่ 5/2557 ไม่ชอบด้วยกฎหมายก็ต้องถือเป็นอันยกเลิกไป แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล และจะต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม พร้อมทั้งยืนยันว่าเหตุผลที่ตนเองไม่ได้เข้ามารายตัวตามคำสั่ง คสช.เนื่องจากเดินทางไปต่างประเทศ และได้แจ้งไปยัง คสช.ถึงเหตุขัดข้องที่ไม่สามารถมารายงานตัวได้