ข่าวปนคน คนปนข่าว
** "ศรีวราห์" ดิ้นไม่ออก หลักฐานชัด ดีเอ็นเอ เสือดำ มัด"เปรมชัย" ถึง"บิ๊กตู-บิ๊กป้อม" จะออกมาปกป้อง ก็ทานความจริง และกระแสโซเชียลไม่ไหว เริ่มไหลไปตามรูปคดี
ไม่เปลี่ยนไม่ว่า .. กระแส # เราไม่เอาศรีวราห์ ดูเหมือนผู้มีอำนาจจะไม่นำพาเท่าไร ทั้ง “นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ว่ายังไม่เห็น“บิ๊กปู”พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ทำอะไรเสียหาย .. หรือคิวของ“บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ที่การันตีว่า“น้องปู”งานดี .. ไม่รู้เกี่ยวกับกระแสสังคมรึเปล่า ดูการให้สัมภาษณ์ล่าสุด “บิ๊กปู”เริ่มพูดจาเข้ารูปเข้ารอย อย่างกรณี“งาช้าง”ที่เคยออกมากางปีกป้อง ว่าเอาผิด“เจ้าสัวล่าเสือ”เปรมชัย กรรณสูต ไม่ได้ .. ก่อนเปลี่ยนท่าทีใหม่ว่า อาจเอาผิดในข้อหาร่วมกันครอบครองซากสัตว์ป่า หากพบว่ามีการนำงาช้างมาตั้งโชว์ในบ้าน .. รวมทั้งการโอนอ่อนผ่อนตาม“ผลนิติวิทยาศาสตร์”ที่ระบุว่า “ดีเอ็นเอ”จาก“ของกลาง”ที่พบในที่เกิดเหตุ ที่มีดีเอ็นเอ ของ“เสือดำ”ซึ่งเป็น “สัตว์ป่าคุ้มครอง”ปะปนอยู่ .. ท่อนนี้“บิ๊กปู" ถึงขั้นโวลั่นว่า พยานหลักฐานทั้งหมด แน่นหนาพอที่จะดำเนินคดีกับ“เปรมชัยและพวก” ..แม้ท่าทีที่เปลี่ยนไปอาจจะด้วย“จำนนต่อหลักฐาน”ด้วยซากเนื้อ-กระดูกเสือดำในหม้อซุป เนื้อหมูป่า หรือเนื้อไก่ฟ้าหลังขาว ในที่บริเวณแคมป์ แต่ได้ยิน “บิ๊กปู”พูดจาอะไรที่ตรงกับประจักษ์พยาน ก็อุ่นใจไปเปลาะนึง .. แล้วก็หวังว่า สำนวนคดีที่คืบหน้าไปกว่า 95% จะไม่ตกหล่น“ข้อหาร่วมกันล่าสัตว์ป่า-ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า” ที่มีโทษจำคุกสูงสุดในบรรดา 9 ข้อหาที่ “ทีมพรานเจ้าสัว”ถูกแจ้งดำเนินคดีไว้ ..
เพราะหากหลุดคดีนี้ อย่างที่ มูลนิธิสืบ นาคะเสถียร ตั้งข้อสังเกตไว้ ก็เท่ากับ“มวยล้มต้มคนดู”ที่สังคมจับตามองเช่นกัน .. สอดรับกับคิวที่กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เดินทางไปสอบปากคำ วิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก .. ในคดีที่กล่าวหาว่า“เจ้าสัวเปรมชัย”พยายามให้สินบนเจ้าพนักงาน ที่ก่อนหน้านี้มี ดราม่า คลิปเสียงหาย อีกทั้งยังมีการยืนยันเสียงในคลิป ไม่ใช่ตัว“เสี่ยเปรมชัย”..ทว่าในการสอบปากคำครั้งนี้ มีการยืนยันว่า“เจ้าสัวอิตาเลียนไทย”พูดกับ “หัวหน้าวิเชียร”ชัดเจนว่า“ถ้าปล่อยผม อยากได้อะไรจะหามาให้” ..คำพูดประโยคนี้ เข้าข่ายความผิดเสนอให้สินบนเจ้าหน้าที่รัฐ ที่เป็นความผิดอาญา โทษจำคุดสูงสุด 5 ปี .. ก็ไม่รู้อะไรไปดลใจ ดูท่า “เจ้าหน้าที่รัฐ”เริ่มชกสมศักดิ์ศรีขึ้นเยอะ ทรงนี้“เจ้าสัวล่าเสือ”น่าจะอ่วม.
**ตบหลัง แล้วลูบหัว !!“น้องแบม”ชิ่งรับโล่ ม.มหาสารคาม รอผลสอบ“อาจารย์คู่กรณี”สรุปก่อน แฉพฤติกรรม “ครูบาอาจารย์”แต่ละคนสุดเอือม “หัวหน้าภาค”อ้างทุบหลัง เพราะหมั่นเขี้ยว “ผู้ช่วยอธิการฯ”โพสต์ข้อความดิสเครดิตศิษย์ ส่วน“บิ๊กบริหาร”หลังไมค์ ล็อบบี้กรรมการ หวังผลเอียง เอาทางฝั่งอาจารย์
ความรู้สึกช้าไปหน่อย .. จนหน้าแหก หมอไม่รับเย็บ คณะมนุษยศาสตร์ และสังคมศาสตร์ ม.มหาสารคาม ที่กำหนดจัดงานเชิดชูเกียรติพร้อมมอบทุนการศึกษาให้“น้องแบม”ปณิดา ยศปัญญา นิสิตของคณะฯ ที่เป็น “ไอดอลทำความดี”เปิดโปงทุจริตเงินคนยากไร้จนโด่งดัง .. แต่ประสานกันท่าไหนไม่รู้ ปรากฏว่า “แบมและเพื่อน”ไม่ปรากฏตัวมาร่วมพิธีซะงั้น โดยอาจารย์อ้างแก้เขินว่า คงเป็นช่วงสอบ ทำให้นิสิตไม่สะดวกมาร่วมงาน .. ความเป็นจริง การที่ “น้องแบม”ปฏิเสธรับรางวัลของสถาบันตัวเอง ก็คงเพราะพฤติกรรมของ“ครูอาจารย์”ที่ดู “ไม่น่าคบหา”โดยรอวัดใจทาง ม.มหาสารคาม ที่ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง “อาจารย์คู่กรณี”ว่าผลจะออกมาอย่างไรก่อน .. โดยเฉพาะตัว“หัวหน้าภาค”ที่ทุบหลัง-สั่งให้ไปกราบเท้าขอโทษ“คนโกง”หรือการสั่งให้เปลี่ยนหัวข้อการทำวิจัย จนต้องทำใหม่ .. ตบหลังจนหน้าทิ่ม แล้วมาลูบหัวแบบนี้ เป็นใครก็ไม่หลงกลมาเป็น “หุ่นเชิด”ให้สถาบันสร้างภาพหรอก .. แล้วยังแว่วว่า แทนที่จะสำนึกผิด “หัวหน้าภาคมือทุบ”ยังอ้างด้วยว่า“น้องแบม”ปิดบังข้อมูลบางอย่าง เลยรู้สึก“หมั่นเขี้ยว”ก็เลยทุบหลังไปแบบ“เอ็นดู”..ส่วนเรื่องให้ไปกราบเจ้าหน้าที่ ก็ในฐานะเด็กกับผู้ใหญ่ ไม่ใช่ให้ไปกราบคนโกง ... แล้วเห็นว่า “อยู่ไม่สุข”จนต้องไปแจ้งความหมิ่นประมาท “สังคมโซเชี่ยล” ไปหลายเพจแล้วด้วย..
ไม่ใช่แค่“อาจารย์มือทุบ”ยังมีรายของ“ผู้ช่วยอธิการบดี”ที่มีตำแหน่งทาวิชาการสูงส่งถึง“รองศาสตราจารย์ ดร.”โพสต์ข้อความเหน็บแนม “ทีมน้องแบม”ด้วยภาษาที่ไม่ค่อยจะเป็นผู้ใหญ่นัก .. แถมอ้างมั่วว่า “น้องแบม”ออกมาให้ข้อมูลไม่ตรงกับที่เคยให้ไว้กับ“ท่านผู้ช่วยอธิการฯ” ทั้งที่ตัว “น้องแบม”ปฏิเสธนิ่มๆ ว่า ไม่เคยพบเคยเจอ .. กลายเป็นว่าในหมู่ครูอาจารย์ ม.มหาสารคาม กำลังก่อหวอดกันเป็น“ขบวนการดิสเครดิต”ลูกศิษย์ตัวเอง ไปซะนี่ .. แล้วก็ยังมี“บิ๊ก ม.มหาสารคาม”ที่ออกสื่อ ดูจะถือหาง“น้องแบมและเพื่อน”แต่หลังฉากกลับมีความพยายามล็อบบี้ “สภาคณาจารย์ ม.มหาสารคาม”ที่เป็นผู้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง“อาจารย์คู่กรณี” เพื่อให้ผลสอบสวนเอียงมาฝั่งอาจารย์มากกว่าฝั่งนิสิตอีกต่างหาก .. ฟังๆ ดูแล้ว แต่ละคนไม่น่าจะได้ชื่อว่าเป็น“ครูบาอาจารย์”เลยนะ
** ถอนพิษค่าโง่!! ยกเครดิตให้“รัฐบาลคสช.”ตั้งหลักฟื้นคดี“คลองด่าน”จนศาลพิพากษาไม่ต้องจ่าย“ค่าโง่”ต้องขยายผล ไล่เบี้ยหาคนผิดมาลงโทษ-รับผิดชอบ 2 หมื่นล้าน ที่รัฐเสียไป ทำได้จริงจะเป็น“ผลงานชิ้นโบว์แดง”โดยแท้
ทำดี ต้องชม .. ถือเป็นผลงานที่จับต้องได้มากที่สุดก็ว่าได้ ในยุค“รัฐบาลคสช.”กับการขอรื้อฟื้นคดี "ค่าโง่คลองด่าน" .. ที่ล่าสุด “ศาลปกครองกลาง”พิพากษา ยกเลิกคำชี้ขาด“อนุญาโตตุลาการ”ที่ให้ “กรมควบคุมมลพิษ”จ่ายค่าเสียหายแก่เอกชน จากโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ที่เรียกกันว่า“ค่าโง่คลองด่าน”มูลค่า 9 พันกว่าล้านบาท .. นับเป็นข่าวดี สำหรับประชาชนผู้เสียภาษี และการปกป้องผลประโยชน์ของแผ่นดิน ที่อาจจะยังแค่เบื้องต้น ด้วยยังมีคดีความที่ต้องไปสู้อีกใน“ยกสุดท้าย”ชั้นศาลปกครองสูงสุด หากฝ่ายเอกชนยื่นอุทธรณ์ .. เครดิตของการ“ถอนพิษ”ของ“
มรดกบาป”จากยุคนักการเมืองเรืองอำนาจ ต้องยกให้ตั้งแต่“นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รวมทั้ง กระทรวงยุติธรรมในยุคที่ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี กำกับดูแล .. ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง “ป.ป.ท.-ปปง.-สตง.”ที่ร่วมกันตั้งหลักต่อสู้ในการรื้อฟื้น คดีค่าโง่คลองด่าน ..
ขาดไม่ได้คือ “ฝ่ายข้อมูล”อย่างกระทรวงการคลัง ในฐานะ“ผู้ชำระเงิน”ที่ร่วมยื่นคำร้องต่อศาล มีคีย์แมนสำคัญอย่าง ประภาส คงเอียด อดีตรองปลัดฯคลัง ปัจจุบันเป็น ผอ.สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ .. ที่ได้รับ“ภารกิจพิเศษ”ในการลำดับเหตุการณ์ ประกอบแง่มุมทางกฎหมาย อันเป็นผลทำให้ “ศาลปกครองกลาง”มีคำพิพากษาล่าสุดออกมา .. ความดีความชอบมีอยู่ แต่หากต้องการให้ขึ้นหึ้ง “ผลงานชิ้นโบว์แดง”แล้วละก็ แค่นี้ยังไม่พอ ยังต้องติดตามคดีอื่น ที่ยังค้างคาหลายคดี และหลายศาล เพื่อเอาตัว“คนผิด”มาลงทัณฑ์ .. แล้วก็ต้องไม่ลืมไล่เบี้ยความเสียหายที่สูญไปแล้วกว่า 2 หมื่นล้านบาท กลับคืนมาให้ได้ ไม่ว่าจะจาก“บิ๊กข้าราชการขี้ฉ้อ”หรือบรรดาตัวการอย่าง“นักการเมืองขาใหญ่”..อย่าเพียงแต่เอาเรื่องผลประโยชน์ของชาติมาเป็น“เครื่องมือทางการเมือง”อย่างที่ผ่านๆ มา .. แล้วก็หวังว่าจะเป็น“กรณีศึกษา”เพื่อที่ในอนาคต ไอ้คำว่า “ค่าโง่”จะสูญพันธุ์ไปจากแผ่นดินไทยซะที.
** ตอกฝาโลง!! “ศาลปกครอง”เตือน“ผู้ว่าฯกทม.”พร้อมปรับ “ผอ.ประเวศ”5พัน ฐานปล่อยปละตลาดรอบป้าทุบรถ ดักคอ“บิ๊กกทม.”ถ้ายังเฉย อาจโดนหนักกว่านี้
ขวานป้าออกฤทธิ์ต่อเนื่อง .. เมื่อศาลปกครองกลาง แผนกคดีสิ่งแวดล้อม มีคำสั่งเตือนให้“ผู้ว่าฯกทม. - ผอ.เขตประเวศ”ปฏิบัติตามคำสั่งตั้งแต่เมื่อปี 2555 .. ในการดูแลความเรียบร้อยรอบบ้าน“แสงหยกตระการ”จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาเป็นที่สุด .. แต่ที่ผ่านมา “ผู้ว่าฯกทม. - ผอ.เขตประเวศ”รุ่นแล้วรุ่นเล่า กลับปล่อยให้ตลาดในหมู่บ้านเสรีวิลล่า สวนหลวง ร.9 ก่อเหตุความเดือดร้อนรำคาญรอบบ้านป้ามานานหลายปี .. งานนี้“ผู้ว่าฯกทม.”โดนแค่เตือน ส่วน“ผอ.ประเวศ”โดนปรับด้วย เป็นเงิน 5,000 บาท .. ไม่เท่านั้น ยังมีคำสั่งดักไว้ล่วงหน้าด้วยว่าหาก “ผู้ว่าฯกทม. - ผอ.เขตประเวศ”ไม่ทำให้ถูกต้องครบถ้วน หรือล่าช้า ศาลอาจมีคำสั่งไต่สวน เพื่อพิจารณา และมีคำสั่งบังคับคดีต่อไป ..คำสั่งศาลรอบนี้เท่ากับเป็นการ“ตอกฝาโลง”ตลาดรอบบ้านป้า ไปจนกว่าจะมีคำพิพากษาเป็นที่สุด.
ช.ชฎา