ข่าวปนคน คนปนข่าว
**กิริยาส่อสำนวน (อ่อน)!! “ศรีวราห์”นอบน้อมกับ“วีไอพี”จนได้เรื่อง ทีกับ“ลูกน้อง-คนธรรมดา”กลับเกรี้ยวกราด แถมสวมบท“ทนายแก้ต่าง”ซักไซร้เจ้าหน้าที่รัฐเข้าทาง“พรานเปรมชัย”ทั้งสิ้น ตีตกข้อหาฆ่าสัตว์โดยทุกขเวทนา อ้างไร้หลักฐาน“เครื่องมือ”ทารุณ แล้วรูกระสุน 8 รูบนหนังเสือดำ คงเรียกว่า ยิงอย่างมีมนุษยธรรม น่ากลัวว่าไอ้ที่อ่อนกว่ามือ“พี่ศรี”ก็คง “สำนวน”นี่แหละ
ไม่ได้จ้องจับผิด แต่จังหวะมันได้ .. ช้อตที่ “บิ๊กปู”พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ปะหน้า “พรานใหญ่”เปรมชัย กรรณสูต ประธาน บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ผู้ต้องหา 9 คดี ฐานลักลอบล่าสัตว์ป่าในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฯ .. เกิดภาพหลุดที่ “บิ๊กปู”พนมมือไหว้ต่ำระดับเอว ก่อนจะมาแก้ต่างภายหลังว่าแค่“รับไหว้”ด้วย “เจ้าสัวนักล่า”มือไวกว่ายกขึ้นไหว้ก่อน .. พร้อมทั้งเสียงครวญจาก “บิ๊กปู”ว่า “สื่อไร้จรรยาบรรณ”แบบนี้จ้องทำลายกันหนิหว่า .. อันที่จริงภาพ“นอบน้อมเกินเหตุ -ก้มต่ำเกินไป”จะไม่ได้รับความสนใจเลย หากพฤติการณ์“ท่านรองฯศรี”ตั้งแต่เข้ามาจับคดีนี้ มากกว่าที่มันฟ้องว่า เกรงอกเกรงใจ “ผู้ต้องหาวีไอพี”เป็นพิเศษ .. อีกทั้งความ “พินอบพิเทา”ที่ปรากฏ ก็ย้อนแย้งซะเหลือเกิน เมื่อตัดภาพมาที่การประชุมสำนวนคดีกับ“ผู้ใต้บังคับบัญชา”ที่ออกอาการ “เกรี้ยวกราด”พูดจามีอารมณ์แต่ต้นจนจบ .. บางจังหวะไล่ต้อน“ทีมจับกุม”ซะไปไม่เป็น แบบที่ “ทนายเจ้าสัว”ยังอาย ..
แล้วก็ยังโดนขุดหลายเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นที่ฟ้องว่าแท้จริง “รองฯศรี”ก็ไม่ได้มีกิริยานอบน้อมซักเท่าไร โดยเฉพาะกับ “คนธรรมดา”..แล้วก็ยังมีปัญหาในการ “ตีความข้อกฎหมาย”อย่าง“คดีทารุณกรรมสัตว์”ที่ “บิ๊กศรี”ว้ากเสียงดังว่า “สัตว์ป่า”ยังไม่ได้ประกาศ ก็เลย “ผิดหลักกฎหมาย”จำเป็นต้องลงโทษ “ร้อยเวร”ที่รับแจ้งความ ฐานประมาทเลิ่นเล่อ ไม่ศึกษากฎหมาย .. แล้ว “ท่านรองฯ”ก็ยกกฎหมายอาญามาตรา 381 ที่มีบทลงโทษผู้ที่ฆ่าสัตว์โดยได้รับทุกขเวทนา อันไม่จำเป็น แม้จะเป็นเพียง “ลหุโทษ”ก็ตาม แต่ก็พาลนึกไปว่าจะชี้ช่องเล่นงาน“แก๊งพรานใจทมิฬ” เพิ่ม .. ที่ไหน “พี่ศรี”เล่น “ชงเอง ตบเอง”บอกว่า เสือดำถูกฆ่า แต่พิสูจน์ไม่ได้ว่า มีการทารุณเกิดขึ้น ด้วยว่าไม่มีหลักฐาน “เครื่องมือทารุณ” ..ช้อตนี้ก็น่าสนใจ “บิ๊กปู”ที่มีฐานะ“ซีใหญ่กว่า”หันไปเค้นคอ “หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า”ว่ามีหลักฐานไหม ก็ได้คำตอบแบบเสียไม่ได้ว่า “ไม่มีครับท่าน” ..ทั้งที่ในรายงานของ“ชุดจับกุม”ระบุชัดว่า “แก๊งพรานเปรมชัย”มีปืนและเครื่องกระสุนเพียบ อาวุธครบมือ เตรียมการเพื่อล่าสัคตว์โดยเฉพาะ .. แถมสภาพสัตว์ป่าแต่ละตัวก็สยดสยองเกินบรรยาย หรือรูกระสุน 8 นัดที่ปรากฏบน “หนังเสือดำ”ยัง “ทุกขเวทนา”ไม่พอในความรู้สึก “รองฯศรี”
อย่างนั้นหรือ .. แบบนี้สำนวน “สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล”คงไม่ตรงนัก และน่าจะประยุกต์ใหม่เป็น“กิริยาส่อสำนวน (อ่อน) .. หรือ อ่อนกว่ามือพี่ศรี ก็คงเป็นสำนวนนี่แหละ.
**ติ่งลุงตู่มีสะดุ้ง!! “กรุงเทพโพล”สวนกระแส คะแนนรัฐบาลกระเตื้อง แต่เรตติ้ง“ประยุทธ์”ฮวบ จาก“ตัวชูโรง”กลายเป็น “ตัวถ่วง”ไปซะนี่ พรรคการเมืองที่คิดหนุนเป็น “นายกฯคนนอก”ต่อท่ออำนาจ อาจต้องทบทวนนโยบายโดยด่วน
อั้นกันมานาน .. กกต. เปิดจดจองชื่อพรรคการเมืองวันเดียว พวกล่อไปแสดงตัวกัน 42 กลุ่ม นี่แค่ลอตแรก แว่วว่ายังมีอีกเพียบ รวมแล้วมีเป็น 100 กว่ากลุ่ม .. สุดท้ายจะผ่านเกณฑ์ ทำได้ตามข้อกำหนดซักกี่พรรคกันเชียว ที่น่าสังเกตก็ในบรรดา 40 กว่ากลุ่มที่เปิดหน้าแล้ว ส่วนใหญ่เอียงไปทางซีก“ติ่งลุงตู่”เตรียมชูนโยบายสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช.เป็น “นายกฯคนนอก”ภายหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า .. นี่ยังไม่รวม “พรรคประชาชนปฏิรูป”ของ ไพบูลย์ นิติตะวัน อดีต สปช. หรือ “พรรคมวลมหาประชาชน”ของ “เทพเทือก”สุเทพ เทือกสุบรรณ แห่ง กปปส. หรือทางกลุ่ม “บิ๊กเยิ้ม”พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร นายทหารการเมือง เพื่อนร่วมรุ่น ตท.12 ของ “บิ๊กตู่”เขาอีก .. ใครใคร่หนุน “ลุงตู่”สุดตัวแค่ไหน กกต. บอกแล้วทำได้ ไม่ผิดกฎหมาย ..
ทว่าดันมีข่าวไม่ค่อยดี เมื่อ“กรุงเทพโพล”ปล่อยผลสำรวจล่าสุดประเมินผลงาน 3 ปีครึ่งของรัฐบาล คสช. ออกมา .. ผลออกสวนทางกับโพลอื่น เมื่อคะแนนผลงานรัฐบาลหลายด้านกระเตื้องขึ้น ต่างจากโพลอื่นที่หัวตกแบบโงไม่ขึ้น .. ที่เซอร์ไพร์สหนัก ก็ความนิยมส่วนตัวของ “ลุงตู่”ที่ปรากฏว่า ลดลงทุกด้าน พิเคราะห์ผลสำรวจรอบนี้ ก็เท่ากับ “นายกฯลุงตู่”ที่เคย เป็น“ตัวชูโรง”แบกทีม คสช.มาตั้งแต่ต้น .. เวลาผ่าน กลายมาเป็น “ตัวถ่วง - ตัวฉุด”เรตติ้งของรัฐบาลไปซะแล้วซิ .. ผลออกมาหน้านี้ “พรรคติ่งลุงตู่”อาจจะทบทวนนโยบายโดยด่วน หมดสภาพแบบนี้ ขืนกระเตงกันไป มีหวัง เจ๊งกันไม่เป็นท่า
**กรรมเก่าไล่ล่า!! ถึงคิวลากไส้ “ตัวการ”ปล่อย 5 ตลาดล้อม “บ้านป้าทุบรถ”เรื้อรัง เช็กชื่อย้อนหลัง อดีต ผอ.เขต-โยธา-เทศกิจ ตั้งแต่ก่อนปี 2550 ไม่พลาด “คีย์แมนสำคัญ”ทั้ง “ผู้ว่าฯกทม.-ผอ.เขตฯ”ที่ไม่ทำตามคำสั่งศาลปี 2553 “ชายหมู”ส่อติดบ่วงแก้บทบัญญัติ กทม. เอื้ออาคารพาณิชย์เข้าเขต"ที่อยู่อาศัย"
ชัดเจนไม่มีอุทธรณ์ .. เมื่อได้ยิน บุญศรี แสงหยกตระการ เจ้าของบ้านย่านสวนหลวง ร.9 ที่ก่อวีรกรรม “ขวานจามรถสะท้านเมือง”ที่ได้รับคำยืนยันจาก “บิ๊กวิน”พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. ว่า จะไม่ปล่อยมีการเปิดตลาดรอบบ้านป้าอย่างเด็ดขาด จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา .. ถือเป็นคำยืนยันจาก “พ่อเมืองกรุง”ที่นำ “ความสงบสุข”คือสู่หน้าบ้านป้าโดยแท้ .. ปิดข้อกังวลที่“เขตประเวศ”ปิดประกาศให้ตลาดที่มีข้อพิพาทกับ “บ้านป้า”ทั้ง 5 แห่ง ยื่นคำขอรับใบอนุญาตจัดตั้งใหม่ภายใน 7 วันอีกด้วย .. แถมคู่กรณีอย่างเขตประเวศ ยังไปจัด “บิ๊กคลีนนิ่ง”ให้อีกต่างหาก .. คำมั่น สัญญาของ“บิ๊กวิน”สะท้อนว่า ที่ผ่านมา เหล่าตลาดรอบบ้านป้า ไม่ได้มี “คำสั่งคุ้มครอง”ใดๆ มีเพียงการแอบอ้างโดย “สมรู้”กับหน่วยงานภาครัฐมากกว่า .. ด้วยศาลให้อำนาจ “กทม.-เขตประเวศ”ในการดำเนินการให้ถูกกฎหมายมาหลายนับสิบปี ปรากฏว่า ปล่อยไว้ให้ “เรื้อรัง”.. ก็ด้วย “ผลประโยชน์”ในทั้ง 5 ตลาดรวมทั้งบริเวณโดยรอบ ถือเป็น “เส้นเลือดสำคัญ”ของ “ผู้ดูแลพื้นที่”มาตลอด จนเกินอาการผิดหูผิดตาปล่อยให้ “ตลาดเถื่อน”เปิดขึ้นมาเกลื่อน เฉกเช่นเดียวกับพื้นที่อื่นๆใน กทม. .. อนาคตของ 5 ตลาดรอบบ้านป้า ก็อยู่ที่ดุลยพินิจของศาลท่าน .. แต่ยังมีประเด็นที่ต้องติดตามกันต่อ อย่างใกล้ชิด ก็วันนี้ (5 มี.ค.) คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯที่มี นิรันดร์ ประดิษฐกุล รองประธานสภา กทม. เป็นประธาน จะส่งรายงานให้ “บิ๊กวิน”ได้อย่างแน่นอน ไม่มีการประวิงเวลาอีกแล้ว ..
ที่มันน่ารักน่าลุ้นก็ตรงที่ “รองฯนิรันดร์”แจงว่า ที่ต้องขอขยายเวลามารอบนึง ก็ด้วยเอกสารมีค่อนข้างมาก แล้วก็ไม่ได้ดูแค่เรื่องตลาดตั้งผิดถูกอย่างไรเท่านั้น .. ยังมีการย้อนความด้วยว่า “ผู้ใด”มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้บ้าง ไล่กันไปสมัยก่อนปี 2550 ตั้งแต่เป็นตลาดข้างทาง จนก่อสร้างอาคารถาวรเป็นตลาดใหญ่โต .. เหมามาให้หมด ทั้งผู้อำนวยการสำนักการโยธา-ผู้อำนวยการเขตประเวศ-ฝ่ายโยธาเขต-ฝ่ายเทศกิจ-ฝ่ายสิ่งแวดล้อม .. ที่ขาดไม่ได้ “คีย์แมนสำคัญ”ตามคุ้มครองชั่วคราวศาลปกครอง เมื่อปี 2553 ที่สั่งให้ “ผู้ว่าฯกทม.-ผอ.เขตฯ” ใช้อำนาจในการจัดระเบียบให้เรียบร้อยไม่ให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ แต่ทาง“บิ๊ก กทม.”เลือกที่จะยื่นอุทธรณ์ จนคาราคาซังมาป่านนี้ .. แล้วก็ยังมีรายงานว่า ผู้ว่าฯกทม.เมื่อ ปี 2559 แอบแก้ไขบทบัญญัติ กทม. เอื้อประโยชน์ให้สามารถสร้างอาคารพาณิชย์ในบริเวณนั้น ทั้งที่ระบุเป็น “พื้นที่อยู่อาศัย”..พลิกแฟ้มดู ผู้ว่าฯ กทม.ปี 59 ไม่ใช่ที่ไหน “ขวัญใจมหาชนตลอดกาล”ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร นั่นเอง.
** เด็ดขาดกว่านี้ไม่มีแล้ว!! บทสรุป “ตำรวจเข้าคิวรับอั่งเปา”ลงโทษแค่ “ภาคทัณฑ์”เหตุเป็น “ความผิดเล็กน้อย”ทั้งที่เสียภาพ “สีกากี”อย่างแรง แถม“รอง ผบ.ตร.”เคยคำราม ลงโทษเด็ดขาด ตำรวจรับแต๊ะเอีย ปล่อยผีกันแบบนี้ ระวัง “ตำรวจอั่งเปา - ตำรวจไซด์ไลน์”ระบาด
มาตรฐานคนเราไม่เท่ากัน .. กับคิวที่ “บิ๊กหยม”พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้การฯ นครบาล ได้รับรายงานจาก "บิ๊กตุ๋ย" พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา ผบก.น.7 ที่ได้สรุปว่า “ตำรวจในเครื่องแบบ”หลายสิบนาย ที่เข้าคิวต่อแถว-ยกมือไหว้เพื่อรอรับ“อั่งเปา”จาก“ดาบมานัส ลอยฟ้า”ร.ต.ต.มานัส เติมธนะศักดิ์ รองสารวัตรสังกัดสันติบาลนั้นมี “ความผิด”.. โดยลงโทษรวดเดียว 30 นาย ฐานบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ แต่ดันเป็น “ความผิดวินัยเล็กน้อย” จึงแค่สั่ง “ภาคทัณฑ์”ไว้ก่อน ส่วนระดับบังคับบัญชาโดนตัดเตือนไป 23 นาย .. ทั้งที่ภาพที่ออกมาถูกวิจารณ์ว่า“ไร้ศักดิ์ศรี” กระทบเกียรติภูมิของ “องค์กรตำรวจ”แม้เงินในซองจะไม่มากมาย ไม่เกินกฎหมายกำหนดก็เถอะ ..
แต่จะลงโทษลงทัณฑ์อะไรก็น่าจะไว้หน้า พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ที่ก่อนตรุษจีน ว๊ากเสียงดังว่า ห้ามเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง“รับหรือผลประโยชน์ใดๆ" ช่วงเทศกาลปีใหม่จีน หากพบจะลงโทษอย่างเด็ดขาด .. นี่มีคลิปแฉคาตา ใส่เครื่องแบบเรียงหน้าไปรับซอง กลับลงโทษเด็ดขาดโดยการ“ภาคทัณฑ์”แล้วใครที่ไหนมันจะไปกลัว .. ปีหน้าก็คงวนลูป มีให้เห็นอีก เข้าทำนอง “ใครๆก็ทำกัน”.. อดคิดไปถึงกรณี “ตำรวจไซด์ไลน์" ที่ระดับอดีตผู้นำสูงสุดของตำรวจ 2 แสนนาย อย่าง “บิ๊กอ๊อด”พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ยอมรับหน้าชื่นไม่ได้ .. ทั้งการหยิบยืมเงินจาก “เจ้าพ่ออาบอบนวด”ได้ทีเป็นร้อยๆล้าน หรือมุ่งแต่ทำ “ไซด์ไลน์”จนเกษียณออกมามีพอร์ตหุ้นผ่านมือหลายหมื่นล้าน .. สารภาพกลางแจ้งขนาดนี้ จนป่านนี้ยังไม่มีใครคิดจะดำเนินการใดๆ .. ชีวิตดี๊ ดีย์ แบบนี้ ใครๆก็อยากทำตาม.
ช.ชฎา