เครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศ ยื่นคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน สอบ ครม. สนช. รมว.พลังงาน ปลัด และ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ หลังพบประกาศของคณะกรรมการปิโตรเลียม ปมสำรวจ หรือผลิตปิโตรเลียมส่อฝ่าฝืนกฎหมาย
วันนี้ (20 ธ.ค.) ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศ นำโดย พท.พญ.กมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี พร้อมคณะ เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน ตรวจสอบคณะรัฐมนตรี (ครม.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ปลัดกระทรวงพลังงาน อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ เนื่องจากร่วมกันเสนอกฎหมาย พ.ร.บ. ปิโตรเลียม พ.ศ. 2560 พ.ร.บ. ภาษีเงินได้ พ.ศ. 2560 และจะดำเนินการให้สัมปทานปิโตรเลียมตามกฎหมายปิโตรเลียมที่มีปัญหาที่มาอันเป็นโมฆะได้ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 วรรคสอง มาตรา 76 77 และ 78 และการประกาศหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขการให้สัมปทานของปลัดกระทรวงพลังงาน และ สนช. ครม. กระทรวงการคลัง ผอ.สำนักนโยบายรัฐวิสาหกิจ ในการเสนอและพิจารณาร่าง พ.ร.บ. การพัฒนาการกำกับดูแล และบริหารรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.... มีการกระทำและที่มาของกฎหมาย ประกาศ ส่อขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่
โดย นางกมลพรรณ กล่าวว่า ตนยื่นเรื่องเกี่ยวกับ พ.ร.บ. ปิโตรเลียมต่อสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินหลายครั้งแล้ว แต่ผู้ตรวจการแผ่นดินมีคำวินิจฉัยว่ารัฐธรรมนูญ ปี 2550 ยกเลิกการใช้ไปแล้ว และจากรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2557 มาตรา 4 ภายใต้การบังคับบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ มีบทบัญญัติเกี่ยวกับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิเสรีภาพ และความเสมอภาคที่ประชาชนได้รับการคุ้มครองตามการปกครองของประเทศไทยในระบบประชาธิปไตย และตามพันธกรณีระหว่างประเทศไทยมีอยู่แล้วย่อมได้รับการคุ้มครอง
นางกมลพรรณ กล่าวอีกว่า การประกาศของคณะกรรมการปิโตรเลียมเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการกำหนดพื้นที่ ที่จะดำเนินการสำรวจ หรือผลิตปิโตรเลียมในรูปแบบสัมปทานสัญญา แบ่งปันผลผลิต หรือสัญญาจ้าง บริการ ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ที่ผ่านมา พบว่า หลักเกณฑ์และวิธีการตามประกาศมีข้อบกพร่อง ที่อาจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 วรรคสอง ทำให้การบริหารงานของรัฐมนตรีไม่เป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศและประชาชน จึงอยากให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบและส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย