xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯวอนอย่าประท้วง มีแต่ รบ.นี้แก้ปัญหาเป็นรูปธรรม ซัดนักการเมืองฉวยโอกาสใส่ร้าย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นายกฯแจงยิบทุกปัญหาที่เกิดจากการเยือนใต้ ยันโรงไฟฟ้าถ่านหินดำเนินการตามขั้นตอน ทำไม่ได้ก็สั่งให้ทบทวน วอนอย่าประท้วง เพราะมีแต่รัฐบาลนี้ที่แก้ปัญหาเป็นรูปธรรม ซัดนักการเมืองฉวยโอกาสใส่ร้าย ไล่ไปเตรียมตัวสู้คดีที่มีติดตัวอยู่ดีกว่า ลั่นตนทำไม่ดีก็ขอโทษทุกครั้ง ขออย่านำไปขยายความให้บานปลายอีก

วันนี้ (1 ธ.ค.) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ตอนหนึ่งว่า การลงพื้นที่ภาคใต้เพื่อประชุมคณะรัฐมนตรีในครั้งที่ผ่านมานี้ ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วน ที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดียิ่ง ในส่วนของที่ยังมีปัญหาอยู่ รัฐบาลก็รับจะไปดูแล ไม่ว่าจะเรื่องของประมง ยาง หรือผลิตผลการเกษตรอื่น รัฐบาลก็พยายามจะทำอย่างเต็มที่ บางอย่างต้องใช้เวลาบ้าง บางอย่างก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย พันธสัญญาต่าง ๆ อีกมากมาย ทุกคนต้องช่วยกัน อาจจะต้องมีการเสียสละกันบ้างในบางส่วน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ภาคใต้ ว่า วันนี้เป็นประเด็นสำคัญ ตนได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ไปดำเนินการให้ได้ข้อยุติปราศจากความขัดแย้ง ขณะนี้ก็ยังมีปัญหาอยู่ ในช่วงที่ผ่านมา ท่านรัฐมนตรีเดิมก็ไม่ได้ไปกำหนดว่าต้องสร้าง หรือไม่ต้องสร้าง อะไรทำนองนี้ เพราะอยู่ในขั้นตอนอยู่ทั้งหมด คราวนี้บางทีสื่อก็ไม่ทราบ ประชาชนก็ไม่รู้อีก หรือบางทีก็ไม่สนใจ ไปสนใจแต่เพียงว่าสร้าง หรือไม่สร้าง จริงๆ มีขั้นตอนทั้งหมด ที่ผ่านมา ขั้นตอนต่างๆ ก็ผ่านมาแล้ว แต่เมื่อทำไม่ได้ รัฐบาลก็ได้สั่งการให้มีการทบทวน ว่า ถ้าทำได้ก็จะดีกว่าทำไม่ได้ แล้วถ้าทำได้ จะมีการขัดยังกันหรือไม่ เพราะฉะนั้นประชาชนก็ต้องฟังบ้าง ไม่ใช่จะดึงดันกันไปทั้ง 2 ฝ่าย รัฐบาลไม่อยากจะดึงดันอะไรกับใครทั้งสิ้น เพราะต้องคำนึงถึงต้นทุนในการก่อสร้าง พื้นที่ในการก่อสร้าง แล้วก็ความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้า

นายกฯ กล่าวต่ออีกว่า ขอร้องกันเถิดนะ การที่จะเคลื่อนไหวต่างๆ แล้วกดดัน แล้วบอกว่าเป็นเรื่องสิทธิมนุษยชน คนละเรื่องกันหมด เพราะฉะนั้นสื่อก็กรุณาอย่าสร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ขยายความขัดแย้งต่อไปเลย เพราะฉะนั้นต้องไปทบทวนดูว่ากฎหมายอยู่ตรงไหน ทำได้อย่างไร นายกฯ รับฟังหรือไม่ ในช่วงที่ผ่านมา แล้วมีแผนดำเนินการอย่างไร ฝากในพื้นที่ไปหาข้อมูลมาด้วย เพราะทุกคนก็คือคนไทยทั้งสิ้น ตนมองอย่างนี้ตลอด อย่าไปบิดเบือน กลายเป็นว่าตนผลักคนเหล่านี้ไปอยู่ทางโน้น

ตนต้องทำให้คนทั้ง 70 ล้าน แต่คน 70 ล้าน นั้น ก็ต้องเคารพกฎหมาย เคารพกฎระเบียบบ้าง ไม่อย่างนั้นเดือดร้อน แล้วก็ร้องกันไปทุกที่ ก็มีคนมาใช้ประโยชน์อีก เอาไปบิดเบือน เอาไปเป็นปัญหาการเมือง จนกระทั่ง สิ่งดี ๆ ไม่ได้รับความสนใจ ที่ผ่านมาเป็นอย่างนี้ตลอด อะไรที่ดีๆ ไม่ค่อยออกเป็นข่าว ส่วนใหญ่จะเป็นข่าวเรื่องความขัดแย้ง เรื่องปัญหาการเมือง เรื่องประชาธิปไตย เรื่องอะไรเหล่านี้จำเป็น ถูกต้อง แต่วันนี้ขอก่อนได้หรือไม่ว่าจะแก้ปัญหาได้อย่างไร จะไม่ทำผิดกฎหมายกันได้อย่างไร

“กรณีโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ถ้าไม่มีการประท้วง แล้วมีการรับฟัง ผมก็บอกว่าไปรับได้ตลอดทาง แต่ไม่ยอม จะมาให้ได้ แล้วต่างกันตรงไหน ในเมื่อส่งทางโน้นกับมาตรงนี้ ผมกำลังทำงานตรงนี้อยู่ แล้วผมก็เอาปัญหาของท่านมาพูด ขอความกรุณาพิจารณาให้เหมาะสม ผมไม่ต่อว่าอะไรใคร ทุกเรื่อง จะเป็นยาง ปาล์ม อะไรต่างๆ ผมขอนะ เพราะมีรัฐบาลนี้เท่านั้นที่จะแก้ให้ท่านเป็นรูปธรรม แต่ถ้าทำไม่ได้ก็อยู่ที่พวกเรากันเองต้องช่วยกัน” นายกฯ ระบุ

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวด้วยว่า กรณีที่มีนักการเมืองออกมาเคลื่อนไหว มีการพูดจาให้ร้าย สร้างวาทกรรม ตนถือว่าฉวยโอกาส เพราะจะนำไปสู่ความขัดแย้งในสังคม ขยายความขัดแย้งโดยไม่จำเป็น บางเรื่องก็ไม่ใช่ สร้างความชิงชังให้กับรัฐบาล และ คสช.

“ในขณะที่หลายคนยังมีคดีติดตัวอยู่ ตัวเองก็ไปเตรียมการสู้คดี แต่อย่าออกมาพยายามพูดให้สังคมเชื่อในสิ่งที่ตนเองพูด ประชาชนต้องเรียนรู้ว่าจะฟังเขาหรือไม่ คนเหล่านี้ บางคนก็ไม่น่าจะฟัง เพราะฉะนั้นผมไม่อยากไปต่อล้อต่อเถียงด้วย หลายคนก็ออกมาพูดเหมือนกับจะทิ้งอุดมการณ์ของตัวเอง จะทำอะไรก็ได้เพื่อจะได้กลับมาสู่อำนาจอีกครั้ง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกฯ กล่าวต่ออีกว่า บางคนออกมาจะป้องกันผม ป้องกัน คสช. ในการจะอยู่ต่อ รักษาอำนาจ ยังไม่ถึงเวลานั้นเลย ท่านมาพูดอะไรตอนนี้ แล้วอุดมการณ์ท่านอยู่ตรงไหน อย่ามาแก้ตัว จะรวมกัน หรือจะแยกกันก็แล้วแต่ จะตีใครก็ตี ตนไม่ไปร่วมกับท่านอยู่แล้วตอนนี้

สังคมต้องรู้เท่าทัน ทุกรัฐบาลที่ผ่านมาก็เป็นตัวอย่างอยู่แล้ว ตนไม่ได้ไปให้ร้าย อะไรที่ดีก็ทำต่อให้ อะไรที่ไม่ดีก็ปรับแก้ให้ แต่ท่านกลับมารุม ระดม มาเล่นงานรัฐบาลที่กำลังแก้ไขอยู่ แล้วประชาชนก็สับสน อลม่านไปหมด ฉะนั้น ก็ขอให้ลงราย ละเอียดกันบ้างว่ารัฐบาลทำโน่น ทำนี่ไม่ดี แล้วท่านจะให้ทำอย่างไรถ้าไม่พูดเลย จะเก็บไว้หาเสียงหรืออย่างไร ยังไม่ใช่เวลาตอนนั้น แล้วหาเสียงแบบเดิมๆ ตนว่าก็ไม่ได้แล้ว พูดอะไรที่ไม่ใช้ข้อเท็จจริงไม่ได้แล้วก็ทำไม่ได้ แล้วก็มีปัญหาอีก

“วันนี้ผมพูดหลายเรื่อง ไม่ได้มาแก้ตัวอะไร เพียงแต่มาทำความเข้าใจกับท่าน อะไรที่ผิด-ถูก อะไรที่ผมทำดี ไม่ดี ผมต้องขอโทษทุกครั้ง และอย่านำไปขยายความ จะทำให้บานปลายไปอีก ผมจบแล้วคือจบ ก็ดูแลเท่าที่สามารถดูแลได้” นายกฯกล่าวทิ้งท้าย
คำต่อคำ : ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน 1 ธันวาคม 2560

สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี จะเป็นวันสำคัญของชาติ คือ 1. เป็นวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร 2. วันชาติ และ 3. วันพ่อแห่งชาติ ซึ่งเป็นวันที่คนไทยได้ร่วมกันรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวง รัชกาลที่ ๙ ที่พระราชทานต่อปวงชนชาวไทย และประเทศชาติ ผมขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนคนไทย ได้ร่วมจิตน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และรวมใจไทยทั้งชาติให้เป็นหนึ่งเดียว เพื่อจะสืบสานพระราชปณิธาน โดยช่วยกันนำพาประเทศชาติของเราไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนสืบไป

นอกจากนั้น วันที่ 5 ธันวาคม ก็นับว่ามีความสำคัญต่อปวงมุนษยชาติ โดยองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) กำหนดให้เป็นวันดินโลก ตามวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาของในหลวง รัชกาลที่ 9 เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติแด่พระองค์ โดยทรงเป็นผู้นำในการดูแลดิน และทรัพยากรธรรมชาติ โดยสหภาพวิทยาศาสตร์ทางดินนานาชาติได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาททูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรางวัลนักวิทยาศาสตร์ดินเพื่อมนุษยธรรม แสดงให้เห็นถึงบทบาทและความสำคัญของทรัพยากรดินที่มีต่อความมั่นคงทางอาหารของโลกเป็นอย่างมากทั้งในปัจจุบันและอนาคต เนื่องในโอกาสสำคัญดังกล่าวนี้ ผมขออัญเชิญพระราชดำรัสอันทรงคุณค่าเป็นศาสตร์พระราชาที่พระราชทานไว้ ให้เป็นมรดกทางปัญญาแก่ปวงชนชาวไทย ได้น้อมนำไปคิดและปฏิบัติ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ และเป็นสิริมงคลแก่ตนดังนี้

บ้านเมืองของเรากำลังต้องการการปรับปรุง และการพัฒนาที่มีประสิทธิภาพ ทางที่เราจะช่วยกันได้ก็คือ การที่ทำความคิดให้ถูกและแน่วแน่ ในอันที่จะยึดถือประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นที่หมาย ต้องเพลาการคิดถึงประโยชน์เฉพาะตัว และความขัดแย้งกันในสิ่งที่มิใช่สาระลง เป็นพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ พระราชทานแก่ปวงชนชาวไทยในโอกาสขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2543

ทั้งนี้ 7 ทศวรรษแห่งการพัฒนาประเทศของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ทรงให้ความสำคัญกับคนในฐานะที่เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการพัฒนา ทรงเน้นการบำบัดทุกข์บำรุงสุข และเน้นการปฏิบัติคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเริ่มต้นจากพื้นฐานเดิมที่มีอยู่ก่อนแล้ว และค่อยๆ สร้างเสริมให้ก้าวหน้ามั่นคงขึ้นเป็นลำดับ สำหรับเป็นรากฐานที่จะรองรับความเจริญก้าวหน้า และความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม อันเป็นผลจากการพัฒนา เพื่อที่ประชาชนจะสามารถยืนหยัดอยู่ได้ด้วยตนเอง อันเป็นพื้นฐานของการพัฒนาอย่างยั่งยืน สิ่งสำคัญที่รัฐบาลนี้ได้มองเห็นในเรื่องของการพัฒนาการเรียนรู้ ทุกคนต้องเข้าใจถึงหลักการและเหตุผล และรับฟังข้อมูลอันเป็นประโยชน์

ส่วนการที่จะเข้าใจ หรือไม่เข้าใจก็ตามคงต้องหารือกันต่อไป หาข้อมูลเพิ่มเติม ไม่อย่างนั้นขัดแย้งกันไปทุกเรื่อง ไม่อย่างนั้นขัดแย้งกันไปทุกสิ่ง มันก็เดินหน้าไปไม่ได้เหมือนเดิม

พี่น้องประชาชนที่รักครับ ในการลงพื้นที่ภาคใต้ เพื่อประชุมคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมา ผมขอขอบคุณทุกภาคส่วนทั้งข้าราชการ ภาคเอกชน หอการค้า อุตสาหกรรม ผู้นำท้องถิ่น อปท. พี่น้องประชาชน และเกษตรกร ที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดียิ่งในส่วนของที่ยังมีปัญหาอยู่ รัฐบาลรับจะไปดูแลแก้ปัญหาให้ ไม่ว่าจะประมง ไม่ว่าในเรื่องของยาง หรือผลิตผลการเกษตรอื่น รัฐบาลพยายามทำอย่างเต็มที่ บางอย่างต้องใช้เวลาบ้าง บางอย่างก็ปฏิบัติตามกฎหมายพันธสัญญาต่างๆ อีกมากมาย ทุกคนต้องช่วยกัน อาจจะต้องมีการเสียสละกันบ้างในบางส่วน

สำหรับภาคใต้ของเรานั้น ทุกคนทราบดีเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพ ทั้งเกษตร ปศุสัตว์ ประมง บริการ การท่องเที่ยวทั้งทางบกทางทะเลชายฝั่ง ชายแดน รวมวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์มาอย่างยาวนาน และยังมีพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ ทั้งยาง ปาล์มน้ำมัน ผลไม้ ไม้ยืนต้น ที่ทำรายได้ให้กับประเทศมาอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม พี่น้องประชาชนในภาคใต้ยังคงต้องเผชิญกับปัญหาความเหลื่อมล้ำของการกระจายรายได้ มีความช่องว่างอยู่มาก การเข้าถึงบริการภาครัฐยึดถือเป็นข้อจำกัดที่สำคัญ ในการพัฒนาพื้นที่ให้สามารถใช้ศักยภาพของตนเองได้ดีอย่างเต็มที่ รัฐบาลต้องเร่งพัฒนาภาคใต้ให้มีความเจริญที่เท่าเทียมกับภาคอื่นๆ ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการเข้าถึงการประกอบอาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการเข้าถึงโอกาส รัฐบาลจำเป็นต้องพัฒนาในเรื่องของดิจิทัล เพื่อจะให้ทุกคนได้เข้าถึงข้อมูล เพิ่มการเรียนรู้ในเรื่องที่เป็นสาระ และในเรื่องที่จะทำให้ทุกคนมีช่องทางในการพัฒนาตน รวมความไปถึงการค้าขายอะไรทั้งหมด ไม่อย่างนั้นมันจะเชื่อมต่อกันไม่ได้

เพราะฉะนั้นดิจิทัลจะมาช่วยได้มากขึ้น ขอให้เตรียมการของตนเองไว้ด้วยให้พร้อม ใครที่รู้มากกว่าคนอื่นก็สอนแนะนำคนอื่นด้วย ไม่อย่างนั้นก็ไปไม่ทั่ว รัฐบาลบางครั้งทำได้ลำบาก เพราะฉะนั้นอยากให้ทุกคนช่วยกัน พี่จูงน้อง เพื่อนจูงเพื่อน คนแข็งแรงกว่าต้องช่วยผู้อ่อนแอกว่า ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีการหารือกันกับภาครัฐและเอกชน รวมความไปถึงในส่วนของท้องถิ่นด้วย เพื่อจะเร่งดำเนินการมาตรการสนับสนุนกันต่างๆ ให้ได้ตรงกับความต้องการของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งผมถือว่าเป็นหลักการในการที่จะทำให้เกิดการเชื่อมโยงเพิ่มมูลค่าต่างๆ ทั้งกายภาพ และมิติอื่นด้วย เพราะว่าในอนาคตข้างหน้านั้น เราคำนึงถึงความเชื่อมโยงของภาคอื่นๆ และทางทะเลระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน เพราะฉะนั้นมันมีหลายวิธีการต้องดำเนินไปเป็นระยะๆ

ทั้งนี้ เพื่อจะสนับสนุนการค้า การลงทุน การขนส่ง และการท่องเที่ยว รวมไปถึงการพัฒนาโครงข่ายทั้งระบบการขนส่งของภาคใต้ให้สมบูรณ์ เพื่อให้สามารถเดินหน้าพัฒนาต่างๆ ได้เต็มศักยภาพเพิ่มรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำ โดยจะมีการพิจารณาลำดับความสำคัญ และความจำเป็นเร่งด่วนในการดำเนินงานโครงการหลักๆ ไม่ใช่บอกว่าจะลงทุน 5 แสนล้าน เราไม่มีเงินขนาดนั้นต้องวางแผนงานให้ทุกกระทรวง ทบวง กรม อะไรทำก่อน อะไรทำหลัง ใช้งบประมาณอย่างไร อันนั้นคือหลักการ รัฐบาลเห็นชอบในหลักการว่าจะทำอะไรบ้าง ที่เขาต้องการมาแต่ต้องทยอยไป หลายอย่างอยู่ในกระบวนการอยู่แล้ว ในการดำเนินงานโครงการหลักๆ อันได้แก่ 1. การพัฒนาเส้นทางรถไฟเชื่อมโยงโครงข่ายระบบราง เช่น รถไฟทางคู่เส้นสุราษฎร์ธานี - หาดใหญ่ ช่วงหาดใหญ่ปาดังเบซาร์ การก่อสร้างรถไฟสายใหม่ เชื่อมรถไฟสายใต้เส้นทางสุราษฎร์ธานี - พังงา และสุราษฎร์ธานีตอนกลับ ก็จะเร่งดำเนินการให้ได้โดยเร็ว

เรื่องที่ 2. การพัฒนาท่าเรือเชื่อมโยงโครงข่ายทางทะเล เช่น การพัฒนาท่าเรือครุยส์ สำหรับการท่องเที่ยวขนาดใหญ่ เรือขนาดใหญ่ การสร้างท่าเรือน้ำลึกในการขนส่งสินค้า ซึ่งจะต้องมีการขุดขยายร่องน้ำให้เป็นท่าเรือน้ำลึกเพิ่มเติมขึ้น ขอความร่วมมือด้วย ไม่อย่างนั้นขัดแย้งทั้งหมดทำไม่ได้สักอย่าง

เรื่องที่ 3. คือ การพัฒนาและปรับปรุงสนามบิน เพื่อให้เชื่อมโยงโครงข่ายทางบกและทางราง เพื่อให้สะดวกสามารถรองรับนักท่องเที่ยว และผู้เดินทางที่มีปริมาณมากขึ้นทุกวันนี้ รวมถึงการพิจารณาสร้างสนามบินแห่งใหม่ตามความจำเป็น เพราะฉะนั้นทุกคนถ้าเราไม่เพิ่มอะไรเลยมันก็เท่าเดิม มูลค่าต่างๆ มันก็ไม่เกิดขึ้น ถ้าเราจะสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ มันต้องทำเรื่องพวกนี้

เรื่องที่ 4. การพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายทางถนน มีหลายถนน หลายเส้นทางที่ภาคใต้มีความต้องการ บางอย่างอยู่ในแผนแล้ว บางอย่างต้องเร่งศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม EIA เพื่อให้โครงการเดินต่อให้ได้โดยเร็ว ทุกโครงการมันติด EIA เพราะฉะนั้นต้องไปหาทางออกทำให้ได้ มันมีทั้งคนเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย

ในกรณีปัญหายางพารา ก่อนอื่นอยากให้ทุกคนได้เข้าใจทั้งระบบ ผมพูดมาหลายครั้งแล้วก็คือ การผลิตหรือการปลูก การแปรรูป และการใช้ประโยชน์ เพื่อจะสามารถใช้แก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน ดีกว่าจะไปแก้ปลายทางมันทุกครั้ง คราวนี้รัฐบาลได้มอบหมายให้ กยท. ร่วมกับทุกหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นเกษตรฯ มหาดไทย พาณิชย์ และหลายหน่วยงานของทุกกระทรวง หรือหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้นำมาใช้ประโยชน์ในประเทศให้ได้โดยเร็ว เราได้วางแผนมานานแล้ว ติดปัญหาในเรื่องของมาตรฐาน ในเรื่องปัญหาเรื่องของกฎหมาย หรือกฎของหน่วยงาน กรมบัญชีกลางเหล่านี้ เราต้องแก้ตรงนั้นขึ้นมาก่อน มันเลยช้า วันนี้แก้ไปได้เกือบ 100% แล้ว มันจะได้เร่งดำเนินการได้สักที จะได้ครบวงจร เรามีแผนจะนำมาใช้ประโยชน์ในโครงการของรัฐให้ได้ 2 แสนตัน จะทำให้เร็วที่สุดตรงนี้ เพราะว่ามันต้องมีคนผลิต มันต้องมีวิธีการเอายางเข้ามาสู่กระบวนการผลิต ซึ่งกระบวนการผลิตทั้งหมดนั้น รัฐบาลไม่ได้เป็นเจ้าของสถานประกอบการ

เพราะฉะนั้นต้องขอความร่วมมือจากภาคเอกชน ซึ่งวันนี้เขาทำของเขาอยู่แล้วแหละ และไปซื้อมาจากข้างนอก คราวนี้เราจะบังคับได้หรือไม่ มันคงไม่ได้หรอก การจะบังคับเขาทั้งหมดไม่ได้ เพราะเป็นการค้าเสรี เขาต้องการต้นทุนราคาถูก คราวนี้ต้องไปคุยกันอีกทีหารือช่วยกัน ช่วยพี่น้องชาวเกษตรกรชาวสวนยาง รวมทั้งวันนี้อยากจะเรียนว่า เรามีโครงการลงทุนจากต่างประเทศที่เราได้อนุมัติส่งเสริมจาก BOI ไปแล้วในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา การที่จะก่อสร้างโรงงาน เพื่อจะทำผลิตภัณฑ์จากยางให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น จะมีความต้องการใช้ยางมากกว่า 5 แสนตัน เมื่อโรงงานเสร็จแล้ว เขาต้องสร้าง เขาต้องลงทุน เพราะฉะนั้นเขาต้องมีแผนในการลงทุนของเขา เพราะฉะนั้นเริ่มก่อสร้างเสร็จกว่าจะสำเร็จออกมา สร้างผลิตภัณฑ์ได้ประมาณสัก 3 ปี แสดงว่าข้างหน้ามันมีอนาคตแล้ว อยากจะบอกชาวสวนยาง เราลำบากกันมานานแล้ว อาจจะต้องรอสักระยะหนึ่งให้โรงงานเหล่านี้มันเปิดขึ้น ในพื้นที่ของ กนอ. ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษเหล่านี้

สำหรับในเรื่องการใช้ยางทำถนนในช่วงที่ผ่านมา มีการใช้ทำมาบ้างแล้ว ใช้ยางได้ไม่เกิน 5% ในการทำผิวถนน วันนี้รัฐบาลพยายามที่จะให้มีการวิจัยและค้นคว้า มาจากหลายแห่ง จากมหาวิทยาลัยบ้าง สถาบันการศึกษาบ้าง ผมให้เอามาดู และสามารถรับรองมาตรฐานได้หรือไม่ เพราะว่ามันมีความเสี่ยงอยู่เหมือนกัน แต่วันนี้หลายอย่างมีผลผลิตออกมาแล้ว ที่จะสามารถรับรองได้ คือจะทำให้เราใช้ยางได้เพิ่มขึ้นจากเดิม จาก 5% เป็น 10 - 15% หรือมากกว่านั้น เพราะว่ามันจะเป็นเทคนิคใหม่ แต่แน่นอนในการใช้เทคนิคใหม่เหล่านี้ ใช้ยางมากขึ้นเหล่านี้ มันทำให้ต้นทุนการทำถนนหนทางสูงขึ้น แต่ผมคิดว่าถ้าเรามองประเด็นความคุ้มค่า หรือราคามันแพงเกินไป ตรงนี้ตอบคำถามไม่ได้ เพราะว่าสิ่งเหล่านี้มันจะเกิดผลประโยชน์ทางอ้อมมาด้วย ทางอ้อมก็คือ เส้นทางเหล่านี้ มันสามารถจะเพิ่มเส้นทางสัญจรไปมา เปิดโอกาสในการค้าขายสินค้า หรือการท่องเที่ยวได้ดีมากขึ้น เรามองสร้างถนน และราคาแพงอย่างเดียวก็ไม่ได้ เราต้องไปมองว่า ยางมันทำถนนเกิดประโยชน์กับใครบ้าง ถึงแม้ว่าราคามันจะสูงขึ้น อันนี้ขอให้สังคมได้ช่วยกัน

ในการใช้ยางเป็นส่วนผสมนั้น เราอยากให้ใช้มากยิ่งขึ้น ผมสั่งการไปแล้วว่า ผมขอให้กระทรวงคมนาคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของทหาร ในส่วนของท้องถิ่น สำหรับเส้นทางในท้องถิ่น หรือชนบท ผมจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องทางหลวงชนบทกับท้องถิ่นไปดูแลช่วยกันว่า จะทำยังไงจะเอายางมาใช้ในพื้นที่เหล่านี้ เป็นเส้นทางเล็กๆ สั้นๆ นั่นแหละ ในหมู่บ้าน ในชุมชนเหล่านี้ที่อยู่ในความรับผิดชอบของ อปท. อันนี้ก็ต้องให้ทางหลวงชนบทเข้าไปช่วยด้วย ไม่อย่างนั้นก็ทำอะไรไม่ได้อีกเหมือนเดิม ก็ขอความร่วมมือจากบรรดาพ่อค้าคนกลางด้วย เราต้องพัฒนากันทั้งระบบได้แล้ว ที่ผ่านมาอาจจะยังไม่ครบ ไม่สมบูรณ์ ก็ไม่ยั่งยืน ต้องช่วยกันในเรื่องของธุรกิจ บางครั้งกำไรก็น้อยลงบ้าง ช่วงแรกก็เป็นอย่างนี้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม ถ้าเราปรับ แก้ ปฏิรูป มันต้องมีปัญหา เมื่อมีปัญหาทุกคนยอมรับได้ ก็จะแก้อย่างอื่นได้ทั้งหมด ถ้าท่านให้ปฏิรูปแล้วไม่มีปัญหาอะไรเลย มันทำได้ยากหมด เพราะทุกคนก็คำนึงถึงแต่ในส่วนที่จะเป็นผลกำไรแก่ตัวเอง ไปไม่ได้ทั้งหมด

วันนี้ก็ได้มีการพัฒนาตามระเบียบกรมบัญชีกลาง ตามที่ผมกล่าวไปแล้วว่ามีปัญหาอยู่ว่าทำได้ไม่ได้ อะไรอย่างไร วันนี้ก็ได้ดำเนินการแล้ว ให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ก็ฝากดูด้วย เพราะบางอย่างเวลาทำออกไป มันก็ติดปัญหาในเรื่องของข้อห่วงใย ข้อกังวลของ สตง. เหล่านี้ ก็อยากจะกราบเรียนว่า ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในเรื่องของการตรวจสอบทุจริต ก็ต้องมาดูว่าทำไปแล้วมันคุ้มค่าหรือไม่ การคุ้มค่านั้นคุ้มค่าเฉพาะกิจกรรมโดยตรงหรือไม่ มันต้องมีกิจกรรมโดยอ้อม และบางอย่างก็ต้องแก้ไขในเรื่องของระเบียบวิธีการ อันนี้ขอให้เข้าใจ ไม่ได้ทำเพื่อจะเอื้อประโยชน์กับใครเลย

ในส่วนของการชี้แจงทำความเข้าใจผมก็ได้ดำเนินการไปแล้ว ก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร เพียงแต่ขอให้ดำเนินการไปด้วยความโปร่งใส ในเรื่องของการที่จะต้องราคาสูงขึ้น ก็ขอขอบคุณสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หลายโครงการติดปัญหาตรงนี้ เพราะมีระเบียบเดิมอยู่ การจะต้องทำอะไรใหม่ๆ บางครั้งก็ต้องใช้ระเบียบใหม่เหมือนกัน และต้องมองผลประโยชน์โดยตรง และโดยอ้อม แยกในเรื่องของการทุจริตไปอีกเรื่องหนึ่งที่จะตรวจสอบได้ ตรวจสอบได้ตลอด แต่ถ้าหยุดตั้งแต่แรกกันเลย ก็ทำไม่ได้สักอย่างหนึ่ง และก็เหมือนเดิม ก็ไม่มีประสิทธิภาพ ฉะนั้น เราก็จะปฏิรูปทั้งระบบ รวมความไปถึงเรื่องอื่นๆด้วย ขอบคุณ สตง. หรือหน่วยงานที่ตรวจสอบทุจริต

นอกจากนี้ เราจะต้องดูแลเรื่องการบุกรุกผืนป่าการเกษตร ไปปลูกยางอะไรก็แล้วแต่ ผมได้สั่งการไปแล้วว่าเราจะมีการต้นยางในพื้นที่บุกรุกของนายทุน และในส่วนของพื้นที่ของเกษตรกรที่มีรายได้น้อย เราจะต้องชะลอการกรีดยางให้น้อยลง หรืออะไรสักอย่างที่จะทำให้ปริมาณยางออกมาน้อยลง แต่เราจะต้องดูแลเกษตรกรเหล่านี้อย่างไร จะได้ช่วยลดอุปทาน ในตลาดของยางได้บางส่วน

ในส่วนของเกษตรกรผู้มีรายได้น้อย เราจะต้องหามาตรการดูแลเป็นพิเศษ หลายคนก็ปลูกในพื้นที่บุกรุกเช่นกัน แต่ผมเห็นว่าเป็นผู้มีรายได้น้อย จะต้องหามาตรการพิเศษในการดูแลเขาได้อย่างไร รวมทั้งการสร้างรายได้เสริม โดยการปลูกพืชแซมยาง เช่น กล้วย วันนี้ผมเห็นข่าวบางที่ราคาต่ำลง แสดงว่าเราปลูกกันมากเกินไปหรือเปล่า ก็ต้องไปดูตรงนั้น การจะสนับสนุนอะไรก็ตามต้องต้องดูดีมานด์ด้วย ไม่อย่างนั้นมากเกินไปก็แข่งขันกัน ราคาก็ตก ก็ถูกกด ราคาโดยพ่อค้าคนกลาง พ่อค้าคนกลางก็มีความจำเป็นนะ ไม่อย่างนั้นก็ขนส่งไปไหนไม่ได้ ตลาดก็ไม่มี รัฐบาลต้องไปดูตรงนั้นให้เกิดความเป็นธรรม เราบังคับมากก็เป็นกลไกการค้าเสรีอีก หลายคนคาดหวังให้รัฐบาลไปบังคับ บางทีทำไม่ได้ เราก็ทำได้เท่าที่กฎหมาย หรือกฎระเบียบต่างๆ เอื้ออำนวยให้รัฐบาล หรือหน่วยงานภาครัฐทำได้

อีกประการ คือ การทำรายได้เสริม อันนี้จำเป็น ผมไม่ได้หมายความว่าทุกคนต้องเลิกปลูกยางมาปลูกกล้วย เลิกปลูกยางมาปลูกมะพร้าว ผมไม่เคยพูดแบบนั้น สำหรับที่เป็นผลมาจากการประชุมต่างๆเหล่านั้น ในการประชุมภาคใต้ รัฐบาลนี้ก็จะเร่งดำเนินการให้เป็นรูปธรรมทุกประเด็น ก็อยากให้เห็นถึงความสำคัญของภาคใต้ รัฐบาลนี้เน้น ตรงนี้ทุกคนอาจจะยังไม่ทราบ หรือหลงลืมไปแล้ว ว่าผมแยกภาคใต้ออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน ทั้งหมดมีอยู่ 14 จังหวัด วันนี้เราก็แยก 3 จังหวัด ยะลา นราธิวาส ปัตตานี 3 จังหวัดบวกกับ 4 อำเภอสงขลาออกไปเป็นภาคใต้พิเศษ เพื่อเราจะได้เร่งรัดในเรื่องของการแก้ปัญหาความมั่นคงไปด้วย ที่เหลือก็มีอีก 11 จังหวัดก็เป็นภาคใต้เดิม แต่เชื่อมโยงกันอยู่แล้ว ทำไมผมถึงแยกออกมา ผมจะได้บริหารราชการได้เร็วขึ้น งบประมาณจะได้ลงไป 3 จังหวัด และ 4 อำเภอโดยตรงได้ เพื่อจะแก้ปัญหาเรื่องความมั่นคงไปด้วย ที่เหลือก็เป็นภาคใต้ ทั้งหมดนอกจากมีงบจังหวัด แล้วยังมีงบกลุ่มจังหวัดให้อีก และมีงบภาคให้อีก เป็นความแตกต่างของรัฐบาลนี้ ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะการเมือง

รัฐบาลนี้ให้ความจริงจังในการทำงาน ในการแก้ปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องเกษตรกรภาคใต้ ซึ่งมีอาชีพหลักคือ ยาง ประมง ปาล์ม สวนผลไม้ เหล่านี้รัฐบาลจะได้ปรับการใช้งบประมาณ ให้ได้ ให้ตรงกับความต้องการของพื้นที่ บางอย่างเป็นนโยบาย มันต้องสื่อสารทั้ง 2 ทาง แล้วหาข้อยุติ ทำให้ได้ ให้เสริมกันให้ได้ รัฐบาลนี้ทำแบบนี้ ไม่ใช่คิดอะไรก็สั่งลงไปทำเลย เป็นไปไม่ได้ ไปดูที่ผ่านมาแล้วกันว่าเป็นอย่างไร ขอให้ทุกคนได้ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดความร่วมมือดำเนินการได้จริง ได้มีการทำผ่านประชาพิจารณ์อย่างโปร่งใส ยอมรับได้ ผมเองปัญหาเยอะแยะไปหมด การทำประชาพิจารณ์ ต้องสร้างการรับรู้ก่อน

สำหรับเรื่องโรงไฟฟ้าภาคใต้ วันนี้ก็เป็นประเด็นสำคัญประเด็นร้อน ผมได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ไปดำเนินการให้ได้ข้อยุติ โดยปราศจากความขัดแย้ง ขณะนี้ก็มีปัญหาอยู่ในช่วงที่ผ่านมา รัฐมนตรีเดิมไม่ได้ไปกำหนดว่าจะต้องสร้าง หรือไม่ต้องสร้าง อะไรทำนองนี้ เพราะอยู่ในขั้นตอนทั้งหมด คราวนี้บางทีสื่อก็ไม่ทราบ ประชาชนก็ไม่รู้อีก หรือบางทีก็ไม่สนใจ สนใจแต่เพียงว่าจะสร้าง หรือไม่สร้าง จริงๆมันมีขั้นตอนทั้งหมด ที่ผ่านมาขั้นตอนต่างๆ ก็ผ่านมาแล้ว เมื่อทำไม่ได้ รัฐบาลผมเองก็ได้สั่งการลงไปให้ทบทวน ว่าถ้าทำได้มันก็จะดีกว่าทำไม่ได้มั้ย ทำได้ที่ว่า ก็จะขัดแย้งกันมั้ย ฉะนั้นประชาชนต้องฟังบ้าง ไม่ใช่จะดึงดันแตกเป็นสองฝ่าย รัฐบาลไม่อยากจะดึงดันกับใครทั้งสิ้น เพราะต้องคำนึงถึงต้นทุนในการก่อสร้างพื้นที่ในการก่อสร้าง และความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้า หลายคนบอกว่า ค่าไฟฟ้ามันแพง อยากให้ค่าไฟฟ้าลดลง ลดลงไม่ได้ถ้าการผลิตต่างๆ ไฟฟ้าจากพลังงานหลัก มาจากส่วนกลาง หรือในภาคอื่นๆ แล้วส่งไปในพื้นที่ห่างไกล บวกต้นทุนในการทำสายส่งไปด้วย

ฉะนั้น 1.ต้นทุนจะเกิดจากแหล่งที่ก่อให้เกิดพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นแก๊ส น้ำมัน ถ่านหิน ลิกไนต์ วันนี้มีเทคโนโลยีมากมาย ที่จะแก้ปัญหาเดิมๆได้ 2.เทคนิคในการก่อสร้างโรงงาน เครื่องไม้เครื่องมือก็แพงขึ้น 3.สายส่ง ซึ่งเหล่านี้ทำให้บวกเข้าไปในค่าต้นทุน ถ้าสมมติไปสร้างในพื้นที่ห่างไกลได้ ก็จะลดการลงทุนในส่วนนี้ ไม่ต้องไปลากมาจากไกลๆ ถ้ามีปัญหาอีกก็ทำให้เกิดปัญหาในเรื่องความมั่นคงพลังงาน เกิดไฟฟ้าตก ไฟฟ้าดับ จะทำยังไง

สำหรับอีกเรื่อง ไปซื้อจากบริษัทต่างประเทศ วันนี้ก็ซื้อได้ แต่ถ้าวันหน้าเขาขายน้อยลง หรือเขาตั้งราคาให้สูงขึ้น เราจะทำอย่างไร เราจะมีคำตอบมั้ย ว่าเราจะดูแลประชาชนเราได้อย่างไร ก็อยากให้เข้าถึงทุกมิติ เหล่านี้คือต้นทุนการไฟฟ้าทั้งสิ้น ค่าไฟฟ้าทั้งหมดนี้ ทั้งต้นทุนการผลิต ราคา การดำเนินงาน การบริหารจัดการทั้งหมด รวมอยู่ในค่าไฟฟ้าทั้งหมด ฉะนั้นถ้ารวมกันแล้ว ถ้าสิ่งเหล่านี้สูงเกินไป มากเกินไป อะไรที่ควรวประหยัดไม่ได้ประหยัด เทคโนโลยีใหม่ก็มี แล้วไม่ใช้ หรือใช้ไม่ได้ เหล่านี้เป็นปัญหาในอนาคต ฝากให้ทุกคนช่วยกันคิดด้วย ผมก็ไม่ได้บอกว่ามันต้องอย่างนี้ เพียงแต่เสนอแนวทาง เสนอหนทางปฏิบัติ กระทรวงพลังงาน เขามีหน้าที่หาไฟฟ้า หาพลังงาน มีกฎหมายของเขาด้วย ทุกคนต้องฟังเหตุฟังผลซึ่งกันและกัน

ในส่วนของที่ผ่านมา มีการบังคับใช้กฎหมาย แยกเป็น 2 ประเด็น อันที่ 1 ไม่อยากให้ลุกลามบานปลาย ทุกคนก็ต้องรักษากฎหมาย เจ้าหน้าที่ก็ต้องรักษากฎหมาย ประชาชนก็ต้องเคารพกฎหมาย การที่จะส่งข้อมูลอะไรถึงผม บางทีมีตั้งหลายช่องทาง ผมก็พร้อมจะฟังทุกวัน

เรื่องไฟฟ้าถ่านหินเทพา ไม่ว่าจะกระบี่ ข้อมูลอยู่ที่ผมทั้งหมด มีทั้ง 2 ทาง ประชาชนก็มี ภาคราชการก็มี กระทรวงพลังงานก็ส่ง ผมก็ส่งถามไปตลอด ไม่ใช่ผมไม่สนใจนะ ขอร้องกันเถอะ การที่จะเคลื่อนไหวต่างๆ กดดัน แล้วบอกว่าเป็นเรื่องสิทธิมนุษยชน มันคนละเรื่องกันหมด สื่อกรุณาอย่าสร้างความเข้าใจที่มันคลาดเคลื่อน ขยายความขัดแย้งต่อไปเลย ต้องไปทบทวนว่ากฎหมายอยู่ตรงไหน ทำได้อย่างไร อยู่คนละฝั่งหรือเปล่า ในช่วงที่ผ่านมา เขามีแผนดำเนินการอย่างไร ฝากในพื้นที่หาข้อมูลด้วย เพราะทุกคนคือคนไทยทั้งสิ้น จะพุทธ มุสลิม ผมมองอย่างนี้ตลอด อย่าไปบิดเบือน

ที่ผ่านมาผมก็บอกมาตลอด ผมต้องทำให้คน 70 ล้าน และคน 70 ล้านต้องเคารพกฎหมาย เคารพกฎระเบียบบ้าง ไม่งั้นเดือดร้อน ร้องไปทุกที่ ก็มีคนมาใช้ประโยชน์อีก เอาไปบิดเบือน เอาไปเป็นปัญหาการเมือง จนสิ่งดีๆไม่ได้รับความสนใจ ที่ผ่านมาเป็นแบบนี้ตลอด อะไรที่ดีๆไม่ค่อยออกเป็นข่าว ส่วนใหญ่จะเป็นข่าวเรื่องความขัดแย้ง เรื่องปัญหาการเมือง ประชาธิปไตย มันจำเป็น ถูกต้อง แต่วันนี้ขอก่อนได้ไหม ว่าจะแก้ปัญหาได้อย่างไร จะไม่ทำผิดกฎหมายกันได้อย่างไร ฉะนั้นรัฐบาลพร้อมตอบคำถามทุกคำถาม และฟังทุกคน เพียงแต่ว่าหลักการประชาธิปไตยว่าอย่างไร นักการเมืองก็กรุณาไปดูด้วย ว่าประชาธิปไตยเป็นอย่างไร ทุกคนต้องช่วยกัน ขอให้ทุกคนมั่นใจ ผมยืนยันว่าผมจะเร่งดำเนินการให้ได้ โดยคำนึงถึงกฎหมายกฎระเบียบ อันไหนที่ไม่เป็นสากล ไม่ทันสมัย ก็ต้องแก้ไข ต้องช่วยผม ทุกคนต้องการเหมือนเดิมทั้งหมด ไม่ได้

เรื่องประมงก็เช่นเดียวกัน ต้องให้เวลาสัตว์น้ำบ้าง ให้ทะเลพักผ่อนบ้าง จับกันมากๆ สัตว์น้ำก็หมดจากทะเลของเราจะทำอย่างไร หรือการจับในประเทศเพื่อนบ้าน บางทีถูกกฎหมายหรือผิดกฎหมายก็ถูกเขาจับอีก รัฐบาลก็ถูกตำหนิอีก ก็ต้องไปช่วยเขากลับมา เราช่วยกลับมาเยอะแยะมากในรัฐบาลนี้ โดยเฉพาะลูกเรือประมงต่างๆ ถูกจับขังคุกอยู่ในนั้นทั้งหมด บรรดาเจ้าของเรืออะไรต่างๆ ก็ทำไม่ได้

ผมไม่อยากให้เอาความเดือดร้อนต่างๆ เหล่านี้ เดิมๆมาเป็นข้ออ้างในการทำผิดกฎหมายอีกต่อไป ถ้าเราปล่อยให้เกิดขึ้น ก็จะเกิดขึ้นไปอีก และบานปลายสู่ปัญหาการเมือง วันนี้ทุกคนก็ทราบดี ทุกคนไปสนใจการเมืองมากกว่าเรื่องที่เป็นสาระสำคัญ อยากให้สนใจทั้ง 2 อย่าง ไม่อยากให้มีการละเมิดกฎหมาย ไม่อยากให้ทำร้ายเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ผมก็คิดวว่าเขาก็ไม่อยากทำร้ายประชาชนหรอก เขาจำเป็นต้องทำตามกฎหมาย เวลาดูด้วย ว่าข้อเท็จจริงคืออะไร ผมไม่ต้องการจะแก้ตัวกับใคร ในโซเชียลมีเดียก็มี รูปภาพก็มี หลายคนก็เอามาบิดเบือน เราต้องแก้ไขตรงนี้ให้ได้

เรื่องโรงไฟฟ้าก็มีหลายประเด็นที่สงสัยกันอยู่ อันนี้ผมไม่ได้พูดว่าจะสร้างหรือไม่สร้างได้ตอนนี้ แต่ปัญหาที่สงสัยอยู่ ก็มี 1.การย้ายวัดย้ายโรงเรียน โดยเฉพาะโรงเรียนมูลนิธิอิตีซอมวิทยา ก็มีการหารือในพื้นที่ไปแล้ว ว่าจะมีการย้ายไปพื้นที่แห่งใหม่ จะห่างจากพื้นที่ดั้งเดิมไม่เกิน 5 กิโลเมตร

อันที่ 2 คือเรื่องการโยกย้ายประชาชน วันนี้ก็ยังไม่ได้เกิดอะไรขึ้นสักอย่างเลย เพราะเขายังไม่ได้ทำ ยังไม่ได้เริ่ม ถ้าหากมันผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม และเข้า ครม.แล้ว มันถึงจะเริ่มต้น ถึงจะไปดูเรื่องการเยียวยา การดูแลที่อยู่อาศัย หรือค่าเยียวยาอะไรต่างๆ ให้เหมาะสม วันนี้ยังอยู่ในขั้นการศึกษา EIA - EHIA อยู่เลย ยังไม่ผ่านคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เพราะฉะนั้นก็ต้องไปหามติให้ได้เสียก่อน แต่สิ่งสำคัญก็คือเวลามันไม่คอยท่า เพราะฉะนั้นต้องเอาให้แน่ว่าจะสร้างหรือไม่สร้าง ไม่สร้างแล้วจะเอาที่ไหน ไฟฟ้าจะมายังไง ต้นทุนค่าไฟฟ้าจะสูงขึ้นทั้งประเทศหรือเปล่า ช่วยกันดูด้วยนะครับ

เรื่องที่ 3 ที่เขาสงสัยเรื่องสิ่งปลูกสร้างทางทะเล จะไปกีดขวางการไหลของน้ำ ทำให้เกิดการกัดเซาะชายฝั่งหรือไม่ วันนี้ก็ได้มีการพูดคุยล่วงหน้าไปแล้วในพื้นที่ ส่วนที่เขาฟังเขาก็เข้าใจ ส่วนที่ไม่ฟังอะไรเลย ก็ไม่เข้าใจ ก็กลายเป็นว่ารัฐบาลไม่ได้ทำอะไร ไปทุบเขา อะไรทำนองนี้ ไม่ฟังความคิดเห็น เขาก็ฟัง คนส่วนใหญ่ก็ฟัง คนส่วนน้อยถ้าไม่ฟังก็คือไม่ได้ฟัง เพราะฉะนั้น ได้มีการกำหนดมาตรการไว้ชัดเจน ได้มีการทำเขื่อนป้องกัน จึงไม่มีผลกระทบกับการสัญจรทางเรือ อาชีพประมง และการกัดเซาะชายฝั่ง การก่อสร้างก็มีผลกระทบอยู่บ้างในช่วงแรก พอสร้างเสร็จแล้ว ปลา สัตว์น้ำ ก็กลับเข้ามาอยู่ใหม่เหมือนเดิม อันนี้ไปดูด้วยนะครับ มันไม่ใช่ขายไปหมด มันเป็นไปได้นะ ข้อเท็จจริง

เรื่องที่ 4 เรื่องการใช้ถ่านหินคุณภาพดี ที่เราเรียกว่าประเภทบิทูมินัส และซับ-บิทูมินัส เราจะต้องนำเข้าจากต่างประเทศด้วยเรือบรรทุกแบบปิด ที่เรียกว่าระบบปิด คลุมทุกอย่าง แล้วก็จะไม่มีการใช้ถ่านหินจากแหล่งภายในประเทศที่มีการกล่าวอ้างกัน บอกว่ามีถ่านหินลิกไนต์อยู่ในประเทศ รัฐบาลต้องการลงทุนตรงนี้เพื่อที่จะไปขุดถ่านหินลิกไนต์เอามาใช้เอื้อประโยชน์กับนายทุนอีก มันคนละเรื่องกันหมด แบบนี้ข้อมูลไม่ตรงกันเลย เราก็ได้ใช้เทคโนโลยีใหม่ทั้งหมด เท่าที่ผมศึกษาดู ของโรงงาน เทคโนโลยีใหม่ทั้งหมดซึ่งแก้ปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อม ยกตัวอย่างง่ายๆ ในเรื่องของการใช้ถ่านหินลิกไนต์ เราต้องใช้ถ่านหินลิกไนต์ที่มีคุณภาพสูง สร้างมลภาวะน้อย แล้วก็มีเครื่องมือขจัดมลพิษต่างๆ

ก็ลองดูสมัยก่อนนี้ที่มีปัญหาอยู่ที่แม่เมาะ วันนี้เขาก็เปลี่ยนเครื่องจักร เครื่องไม้เครื่องมือ ผมก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร คนก็อยู่ได้ ปลา สัตว์ต่างๆ ผล ต้นไม้อะไร ก็อยู่ได้เป็นปกติ เพราะฉะนั้นก็ต้องดูตรงนี้ด้วย เทคโนโลยีต่างๆ มันก้าวไกลไปแล้ว ก็ฝากกราบเรียนพี่น้องต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากกฎหมายมา ให้เข้าใจตรงนี้ด้วยนะครับ ไปดูอีกทีนะ ฝากด้วยเถอะ ถ้ายังไงจะไปดูเพิ่มที่แม่เมาะก็ได้ แล้วข้อสำคัญก็คือ การใช้น้ำในทะเลเป็นน้ำหล่อเย็น ก็จะมีระบบการกำจัดการสะสมของโลหะหนักที่ทุกคนเป็นห่วง มีการควบคุมการปรับคุณภาพน้ำก่อนที่จะระบายลงสู่ทะเลธรรมชาติให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ประเภทที่ 1 ก็คือ ไม่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเล โดยเราก็ใช้สัตว์น้ำ อาทิ หอยแครง หอยแมลงภู่ ซึ่งก็เป็นตัวชี้วัดทางชีวภาพ ณ จุดปล่อยน้ำ อันนี้ท่านก็ไปช่วยดูแล้วกัน มีตาย มีอะไรหรือเปล่า อันนี้เป็นหลักการทางเทคนิคนะครับ ขอให้เชื่อมั่นว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่ต้องการควบคุมด้วยเทคโนโลยีที่ศึกษามา

ผมก็ขออนุญาตนำเฉพาะประเด็นที่สงสัยมานำเสนอ ให้ทุกคนได้พิจารณาร่วมกัน ส่วนรายละเอียดอื่นๆ นั้น หน่วยงานที่รับผิดชอบ กระทรวงพลังงาน และผู้ว่าราชการจังหวัด ก็ต้องมีข้อมูลที่พร้อมตอบ สร้างความเข้าใจ ฝากพี่น้องประชาชนที่เห็นด้วย และช่วยกรุณาทำความเข้าใจกับผู้ที่ไม่เห็นด้วย อย่าให้รัฐบาลต้องไปตัดสินเลย มันก็จะเป็นปัญหากระทบกระทั่งกันกับเจ้าหน้าที่ กับประชาชนอีก แล้วเราก็จะถูกจับตามองอย่างที่ท่านกล่าวอ้าง มีใครอยากจะทำ รัฐบาลนี้ไม่อยากทำ แต่ถ้าไม่ทำ แล้วมันเกิดขึ้นต่อไป ขยายต่อไปหลายกลุ่มหลายฝ่าย แล้วจะอยู่กันได้ไหม มันก็อยู่ไม่ได้อีก ฉะนั้นต้องแก้ด้วยเรากันเอง ก็คือ ข้าราชการ ประชาชน ภาคเอกชน ก็ต้องร่วมมือ พูดคุยหารือกัน เพราะเราต้องพัฒนาไปสู่การมีแหล่งพลังงานที่เหมาะสม เพียงพอ เพื่ออนาคต เพราะเราจะลงทุนต่างๆ มากมาย ถ้าไฟฟ้ามันไม่พอเสียอย่าง ไม่มั่นคงเสียอย่าง ติดๆ ดับๆ หรือไฟฟ้าตก นั่นล่ะอันตรายต่อไป หรือไม่มีการส่งพลังงานท่อแก๊สมาจากต่างประเทศ ประเทศเพื่อนบ้านไม่มีการขายไฟฟ้าต่อไป เพราะเขาก็เอาไปใช้ในประเทศของเขา เราจะทำอย่างไร คิดอนาคตไว้ด้วย

เรื่องของประมง ผมขอย้อนกลับมาอีกที ก็ต้องดูนะครับ รัฐบาลก็มองทุกมิติ ทุกระดับ ทั้งผู้ประกอบการประมง เจ้าของเรือประมงรายใหญ่ ตลาดขายสัตว์น้ำ ประมงพื้นบ้าน เราต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในเรื่องของรายได้ในการประกอบการ เห็นใจผู้มีรายได้น้อยด้วย เพราะเขาไปลึกๆ ไม่ได้ เขาก็ต้องหวังให้มีทรัพยากรประมงเข้ามาชายฝั่ง ที่ผ่านมามันละเมิดกันไป-มา ส่วนใหญ่ก็เป็นข้างนอกเข้ามาละเมิดข้างใน นี่คือสิ่งที่จะต้องทำให้มันชัดเจนขึ้น เพราะฉะนั้นการไปทำประมงนอกน่านน้ำ หรือในประเทศต่างๆ ร่วมทุนอะไรก็แล้วแต่ มันต้องซื่อสัตย์ต่อกัน ก็จะเห็นได้ว่าเราก็มีเรือถูกจับไปเป็นจำนวนเยอะมาก วันนี้ก็เอามาขึ้นบัญชีใหม่ บางบริษัท หรือบางเจ้าก็ถูกลดจำนวนลง เพราะมันไม่ถูกต้องไง การวัดขนาดเรือก็มีปัญหา ไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริง นี่มันเกิดขึ้นมาทั้งหมดแล้ว แล้วจะให้รัฐบาลไม่ทำอะไรเลยหรือ แล้วท่านบอกว่าจะให้รัฐบาลแก้กลับไปเหมือนเดิม มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ มันก็แก้ไม่ได้เหมือนเดิม แล้ววันหน้ามันยิ่งยุ่งเหยิงกันไปใหญ่ ขอความร่วมมือตอนนี้เถอะครับ รัฐบาลนี้ล่ะ จะทำให้ได้ ทุกคนก็อาจจะเสียประโยชน์กันไปบ้าง แต่ต้องคำนึงถึงคนอื่นเขาด้วย ตลอดห่วงโซ่

สิ่งที่หลายคนกล่าวอ้างว่าเราทำเองไม่ได้หรือ ทำไมต้องไปฟัง IUU แต่ก่อนก็ทำมาตั้งนาน ไม่เห็นมีปัญหาอะไร ทุกคนก็มีรายได้ดี ไม่มีความเสียหายทางธุรกิจ ท่านต้องไปดูว่ามันถูกต้องหรือเปล่าที่ทำมาทั้งหมดน่ะ ถ้าถูกต้องก็ไม่มีใครทำอะไรท่านได้ ถ้าท่านถูกต้องนะ และผมคิดว่ามันอาจจะจับปลาได้มากขึ้น เพราะเรือลดลง ลดลงตามข้อกำหนดนะ ไม่ใช่มากจนเกินเหตุ ที่ผ่านมาก็มีเรือชื่อเดียวหลายลำก็มีนะ ถูกเขาจับได้เยอะแยะไปหมด ท่านต้องยอมรับตรงนี้นะครับ เดี๋ยวผมจะตรวจสอบให้ก็แล้วกัน ใครที่บอกว่ามีปัญหาการประกอบการธุรกิจ ก็ต้องมาดูว่ามีสักกี่ลำ ถูกกฎหมายทั้งหมดหรือไม่ อันนี้ก็คงต้องตรวจสอบนะ นี่คือวิธีการตรวจสอบของผม ไม่ได้ไปข่มขู่อะไรท่านหรอก ถ้าทุกคนทำให้ถูก มันก็เป็นธรรมไง และทุกคนก็เข้าถึงโอกาสด้วยความเท่าเทียมในการลงทุนของท่าน ท้ายที่สุดประโยชน์ก็เกิดกับประเทศชาติ ธุรกิจส่วนใหญ่ต้องคำนึงทั้งระบบ รัฐบาลต้องมองธุรกิจการประมงทั้งระบบ สินค้าสัตว์น้ำทั้งระบบ การค้าขายกับกลุ่มประเทศต่างๆ เราต้องคำนึงตรงนั้นให้ได้ ไม่อย่างนั้นถึงเวลาเขาไม่ให้ขาย จะทำยังไง มันไม่ได้เดือดร้อนเฉพาะใครที่เรียกร้องผมหรอก มันจะเดือดร้อนไปทั้งหมดนั่นล่ะ คนที่ทำถูกก็เดือดร้อนไปด้วย ก็ขอความกรุณานะครับ ลดแรงกดดันให้กันบ้าง ผมก็ไม่อยากให้ทุกคนเดือดร้อนไปด้วยอยู่แล้ว คำนึงไปถึงเรื่องการรักษาพันธุ์ สงวนพันธุ์สัตว์น้ำ และในช่วงขยายพันธุ์ พักฟื้น ฟื้นฟูแหล่งประมงของเรา หากว่าทุกคนกดดันรัฐบาลและ คสช. ให้ทำตามที่ตนต้องการแล้ว อีกฝ่ายเขาก็เดือดร้อนอีก ผมก็โดนทั้งสองทาง อยากให้สื่อช่วยกันแก้ปัญหาตรงนี้ด้วย ไม่งั้นก็แก้ไม่ได้สักเรื่อง

พี่น้องประชาชนที่รักครับ ในเรื่องของการประท้วงเรียกร้อง ผมเข้าใจ เห็นใจ หลายๆ กิจกรรมเราควรจะหาทางออกกกันให้ได้ ปรึกษาหารือกัน ในเวลา-สถานที่เหมาะสม บางครั้งผมคิดว่าไม่จำเป็นต้องไปถึงมือผมหรอก มันถึงอยู่แล้ว ยังไงก็ถึง ท่านบอกว่าบางทีส่งมาแล้ว แล้วไม่เห็นทำอะไร ก็มันยังทำไม่ได้ไง มันก็อยู่ในขั้นตอนการทำงานอยู่ บางอย่างมันติดกฎหมาย บางอย่างมันติดต่างประเทศ บางอย่างมันติดพวกเรากันเอง ท่านก็ต้องหาเหตุหาผลมาคุยกันให้รู้เรื่องนะ ข้อมูลบางทีพอเชิญมาทั้งสองฝ่ายไม่รู้กันทั้งคู่ แล้วก็ขัดแย้งกันเอง นี่เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้การทำงานของรัฐบาลล่าช้า มีปัญหามาโดยตลอด ผมไม่ได้โทษประชาชนนะ ข้าราชการก็ต้องเคลียร์ ต้องทำความเข้าใจ นำข้อมูลอย่างเปิดเผย มาพูดกับเขา ชี้แจงเขา ตามข้อสงสัย

การจะทำโครงการอะไรก็ตามมันต้องวาดภาพอนาคตให้ประชาชนเห็นก่อน ไม่ใช่พอถึงเวลาก็เอาโครงการลงไป มันก็คือปัญหานั่นล่ะ ต้องอธิบายให้เขาแบบที่ผมอธิบายนี่ ผมจะได้พูดลดลง บางทีบางคนก็ไม่อยากให้ผมอารมณ์เสียนะ ผมก็ไม่ได้อยากอารมณ์เสียหรอก ใครจะอยากอารมณ์เสียทั้งวัน ขอโทษแล้วกันถ้าบางทีก็อาจจะไม่เหมาะสม ต้องเห็นใจผมบ้างนะ เห็นใจผมบ้าง เพราะผมแบกทุกอย่างไว้อยู่ แต่ผมทำให้คนไทย ไม่ต้องการทวงบุญคุณกับใครทั้งสิ้น เพราะผมไม่ต้องการคะแนนเสียงไง เพราะฉะนั้นฝ่ายรัฐจะเป็นผู้กำหนดนโยบาย หน่วยปฏิบัติจะต้องชัดเจน ตอบข้อซักถาม อธิบาย สร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ถ้าทุกอย่างทำกันให้ได้ก่อนจะเข้าคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม มันก็จะเกิดปัญหาน้อยลง ลดปัญหาข้อขัดแย้งต่างๆ ได้มาก และมันจะเร็วขึ้น

อย่างกรณีโรงไฟฟ้าเทพามันไม่ควรจะเกิดขึ้นเลย ถ้ามันไม่เกิดขึ้น ไม่มีการประท้วง แล้วก็รับฟัง เพราะผมก็บอกว่ารับไปตลอดทางนะ รับตั้งแต่ต้นทางมา ก็ไม่ยอม ก็จะมาให้ได้ แล้วมันต่างกันตรงไหน ส่งตรงโน้น กับมาตรงนี้ ผมก็ยังทำงานตรงนี้อยู่ แล้วผมเอาปัญหาของท่านมาพูดตรงนี้ด้วย เนี่ยเวลาต่างๆ กรุณาพิจารณาให้เหมาะสมนะครับ ผมไม่ได้ต่อว่าอะไรใครหรอกนะ มันจะได้ไม่เกิดขึ้นอีกไง ทุกเรื่องนะ จะยาง จะปาล์ม อะไรต่างๆ ผมขอเถอะ เพราะมีรัฐบาลนี้เท่านั้นล่ะที่จะแก้ให้ท่านเป็นรูปธรรม ผมบอกไว้เลย แต่ถ้ามันทำไม่ได้ ก็ต้องอยู่ที่พวกเรากันเองจะต้องช่วยกัน

ในเรื่องของสิ่งที่จำเป็น ประชาชนต้องทราบ ก็คือ จะทำอะไรก็แล้วแต่ในพื้นที่ของเขา มันจะต้องมี

1) วัตถุประสงค์ เป้าหมาย หลักการและเหตุผล ชัดเจน ให้เขารู้ว่าทำไม ทำไมต้องสร้างตรงนี้ ทำไมต้องสร้างตรงนั้น สร้างตรงนี้ไม่ได้หรือ หรือไม่ต้องสร้างตรงนี้ ไปเอาตรงอื่นมา มันต้องชัดเจนตรงนี้อย่างที่ผมพูดเมื่อสักครู่นี้

2) เมื่อมีวัตถุประสงค์ที่จะต้องทำแล้ว มันก็ต้องมีวิธีปฏิบัติให้เขาเห็น ว่าจะแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมได้อย่างไร ที่เขาต้องการ บางคนก็ไปกังวลด้วยความไม่รู้ด้วย มันก็ต้องบอกว่าเครื่องมือ เครื่องจักรต่างๆ เทคโนโลยีที่นำมาใช้มันเป็นอย่างไร มันดี มันไม่ดี อย่างไร จะแก้ไขปัญหาเดิมๆ ได้อย่างไร หลายคนก็เอาปัญหาเดิมๆ มาขัดขวาง มาไม่เห็นชอบ เพราะเข้าใจว่ามันจะเป็นปัญหาแบบเดิมๆ เหมือนที่ผ่านมา วันนั้นเทคโนโลยีก็ยังไม่เท่าวันนี้ และกฎอะไรต่างๆ ก็ไม่ชัดเจน บางครั้งมันอาจจะด้วยอะไรก็แล้วแต่ ผมก็ไม่อยากจะกล่าวถึง เพราะฉะนั้นวันนี้มันต้องชัดเจนตรงนี้ให้ได้

3) ถ้าได้ข้อสรุปในข้อที่ 1) ข้อที่ 2) แล้วประชาชนเห็นชอบ มันก็จะได้ดำเนินการต่อ จะได้เข้าสู่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อม แล้วก็ไปทำประชาพิจารณ์ อะไรต่างๆ เหล่านี้มันมีขั้นตอนหมดล่ะ บางทีมันหยุดตั้งแต่กำลังทำ 3 ทำ 4 ย้อนกลับไปตรง 1 อีกแล้ว บางทีทำ 1 แล้ว ยังไม่ไป 4 เลย ก็ไปค้านเหมือนตอนจะไปค้าน 4 ขั้นตอนอย่างนี้มันไม่ถูกต้องทั้งหมด ข้าราชการรัฐต้องทำความเข้าใจ ผู้ว่าราชการจังหวัด ต้องรู้ทุกเรื่อง ในทุกวงการ ไม่งั้นก็เกิดปัญหา นายอำเภอ กับท้องถิ่น ต้องเรียนรู้ในเรื่องเหล่านี้ ว่าจะทำยังไงให้มันเกิดขึ้นมาได้ ผมกำลังให้กระทรวงมหาดไทยไปเปิดหลักสูตรอบรมท้องถิ่น อปท.ทั้งหมด ทั้งประเทศ ว่าจะบริหารราชการกันอย่างไร ใช้งบประมาณอย่างไร กฎหมาย ระเบียบ กติกา อย่างไร การพัฒนาผู้บริหารจะทำได้อย่างไร มันต้องทำหน้าที่เหมือนข้าราชการนั่นล่ะ ไม่ใช่ว่าเป็นท้องถิ่นแล้วก็ทำอะไรก็ได้ ทำตามประชาชนเรียกร้อง มันต้องคำนึงถึงข้อกฎหมาย ระเบียบด้วย ไม่งั้นขัดแย้งกันหมด รัฐบาลกำหนดนโยบายไปก็ทำไม่ได้หมด ท่านก็ต้องช่วยผมในการทำความเข้าใจกับประชาชน สร้างการเรียนรู้ทั้งสองด้าน ตัวท่านเองด้วย ประชาชนด้วย

วันนี้อย่าเพิ่งไปสนใจ จะยุบ ไม่ยุบ อะไรต่างๆ ก็เห็นสื่อเขียนแต่เรื่องพวกนี้ ไม่เขียนเรื่องดีๆ หรอก ข้อเท็จจริงเยอะแยะไป และผมกำลังทำทุกอัน ปรับทั้งระบบราชการ ระเบียบราชการ บริหารราชการ ทั้งโครงสร้าง ทั้งข้อกฎหมาย การทำงาน การประเมินผล ซึ่งเหล่านี้ก็ต้องนำไปใช้กับ อปท. ท้องถิ่นด้วย มาตรฐานถ้ายังไม่ได้ ท่านก็ต้องปรับปรุงตัว ไม่งั้นถึงเวลามันก็เป็นปัญหาอีก เลือกมาจากประชาชน ก็ต้องทำงานให้ประชาชนที่เขาเลือกท่านมาให้ได้

เพราะฉะนั้นการทำงานส่วนใหญ่จะต้องเป็นการทำงานตามหน้าที่ ตามความรับผิดชอบ ตามกฎหมาย ไม่งั้นประชาชน ฟังข้างเดียวไม่ได้หรอก ฟังผม เชื่อผมคนเดียว ก็ไม่ได้อีก ฟังแกนนำอย่างเดียว หรือผู้นำการประท้วง มันก็ไม่ได้อีก ต้องฟังสองอย่างแล้วมาพินิจพิเคราะห์กันให้ดี ประชาชนในพื้นที่ก็ต้องหาเหตุหาผลมาชี้แจงกัน ช่วยรัฐบาลด้วยนะครับ เห็นด้วยก็ช่วยรัฐบาล ไม่เห็นด้วยก็ฟังทั้งรัฐบาลและฟังคนที่เขาเห็นด้วย

ทุกคนต้องยอมรับในเหตุผลซึ่งกันและกัน นั่นคือหลักการประชาธิปไตย อย่าให้ใครเขาทำพาไปสู่ความขัดแย้ง ประท้วง เดินขบวน แล้วก็มีการไปใช้กฎหมาย ทุกคนก็เดือดร้อนไปหมด เจ้าหน้าที่ ประชาชน สังคม ท้ายที่สุดกลับมาที่รัฐบาล ภาครัฐเป็นจำเลยทุกครั้งแหล่ะครับ เพราะฉะนั้นย้อนกลับไปดูสาเหตุซิ แต่ไม่ใช่ว่าไม่ต้องการให้ประชาชนคิดอะไรเลย ผมพูดมาตลอดล่ะ ท่านไม่เคยให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้ สาระเหล่านี้ไม่มีเลย ผมขอร้องสื่อโซเชียลที่ไม่เข้าใจนะ ที่เข้าใจก็มี แต่บางครั้งก็ต้องมีเหตุมีผล ทำไมถึงไม่เขียน ผมให้ข้อมูลไปหลายอย่าง แต่ก็ไม่ได้แพร่ออกมา แต่เวลามีข้อบกพร่องอะไรเล็กน้อย ท่านก็ตีทุกวัน แล้วมันจะได้อะไร ผมอยากจะถาม ประเทศก็ไม่ได้ ประชาชนก็ไม่ได้ ได้ขายสื่อโซเชียลเท่านั้นเอง มีแค่นั้นล่ะ แล้วมันจะไปได้ยังไงล่ะ ขอให้มีข้อมูลที่แท้จริง พอเพียง อย่าใช้ความรู้สึกตัดสินอย่างเดียวจากสิ่งที่เห็น สิ่งที่ได้ยิน มันจะทำให้ปัญหาขยายตัว ยุ่งเหยิงไปหมด ต้องช่วยกันสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน

โครงการใดก็ตามที่มีปัญหามายาวนาน หลายโครงการที่เสนอมาแล้วมันทำไม่ได้ ย้อนกลับไปดูนะครับอย่างที่ผมว่าเมื่อกี้ ไปดูสาเหตุก่อน ตั้งแต่ต้น ทำไมถึงทำไม่ได้ มันใหญ่เกินไปมั้ย มันซอยย่อยเล็กลงมาได้มั้ย ลงทำในพื้นที่ที่ประชาชนได้รับประโยชน์ระยะแรกได้มั้ย แล้วที่เหลือเขาอาจจะเห็นว่าทำแล้วมันดีนะ เขาก็ยอมให้ทำต่อ เพราะบางทีทำโครงการขนาดใหญ่มาทีเดียว อันนี้ก็มีข้อยกเว้นนะครับ บางโครงการที่เกี่ยวกับเรื่องทางน้ำ การระบายน้ำ อะไรเหล่านี้มันก็จำเป็นต้องทำให้ครบระบบ ทำเป็นตอนๆ บางทีมันก็ไม่สมบูรณ์ แต่ก็ไปทำตรงไหนที่มันทำได้ก่อนแล้วกัน ตรงไหนทำไม่ได้ก็อาจจะต้องเดือดร้อนไปก่อน อันนี้เป็นเรื่องของประชามติของพื้นที่เอง ไม่ใช่เป็นของรัฐบาล รัฐบาลก็ทำให้ทุกที่ล่ะ แต่มันทำไม่ได้ ขั้นตอนมันมีอยู่ ประชาชนต้องเข้าใจและยินยอม เราจะต้องไม่ปล่อยปละละเลย ไม่ทำความเข้าใจล่วงหน้า ข้อมูลไม่เพียงพอ ไม่ทันสมัย ทุกแง่มุม ด้านเทคนิค เทคโนโลยี ข้อเปรียบเทียบ วันนี้มันทำที่ไหนได้บ้าง วันนี้ก็อยากจะกราบเรียนว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินห่างเราไม่ถึง 10 กิโลเมตรหรอก อยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้านเรา เขาสร้างโรงไฟฟ้าลิกไนต์อยู่ ขนาดใหญ่ด้วย แล้วทำไมเขาเดือดร้อนไม่เหมือนเราหรือ เทคโนโลยีมันใช้ไม่ได้หรือไง ลองตามไปดูนะครับ

ก็ขอให้ชัดเจนนะครับในเรื่องการลงนาม การทำสัญญา ทีโออาร์ต่างๆ มันจะต้องคำนึงถึงความรับผิดชอบ ให้ดูแลประชาชนในพื้นที่ ทั้งรอบพื้นที่ของโรงงาน โรงไฟฟ้าอะไรก็แล้วแต่ แล้วก็ผู้เดือดร้อนต่างๆ ในการที่ต้องขยายพื้นที่ หรือแม้กระทั่งการใช้พื้นที่ในการทำ ถ้ามันมีอะไรที่ไม่จำเป็นต้องย้าย ก็ให้อยู่ต่อไปได้ได้มั้ย บางทีก็เคลียร์ทั้งหมด บางทีมันก็เกิดปัญหานะ สถานที่ราชการบ้าง โรงเรียนบ้าง อะไรบ้าง ก็ทำยังไงจะอยู่ด้วยกันได้ ที่มันไม่เกิดผลกระทบ ให้มีการขยับขยายน้อยที่สุด

เพราะฉะนั้นเราอย่าไปให้ความสำคัญกับการทำ EIA อย่างเดียว ในขั้นตอนในพื้นที่ ตรงอื่นถ้าไม่สร้างความเข้าใจเลย ประชาชนก็ไม่ทราบที่มาที่ไป ความคืบหน้า มีการพัฒนาการมาอย่างไร อยู่ขั้นตอนไหน ไม่รู้เลย ก็ประท้วงกันร่ำไป รัฐบาลก็ต้องถูกมองว่าไม่ไว้วางใจอยู่เสมอ ผมไม่ทราบว่าจะทำไปทำไมนะสื่อต่างๆ เหล่านี้ เอาสาระไปเสนอด้วย วันนั้นผมส่งเอกสารไปเรื่องเทคโนโลยี เรื่องที่เขาสงสัยอะไรต่างๆ ผมไม่เห็นออกให้ผมสักสื่อเลย ผมส่งเป็นเอกสารไปเลยนะ หลังๆ ผมจะส่งไป ผมจะบันทึกด้วยว่าส่งให้ใคร ไปที่ไหน เมื่อไร อย่างไร ถ้ามีปัญหาทีหลังท่านต้องคุยกับผมแล้วคราวนี้ ผมให้ไปแล้ว แล้วท่านยังไปเขียนอย่างเดิม มันใช้ไม่ได้นะ ใครทำก็แล้วแต่เถอะ ผมไม่ได้โทษใคร เพราะฉะนั้นเราต้องทำให้มันเกิดความเป็นธรรมให้ได้ ประชาชนมีความพึงพอใจ นั่นคือหลักการ รัฐบาลนี้ทำอะไรก็ตาม ประชาชนพึงพอใจ แล้วก็ทำให้ประเทศชาติมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน

สุดท้ายนี้ ถ้าเราไม่ร่วมกันแก้ไขปัญหา ไม่ร่วมกันปฏิรูปในวันนี้ จะไปรอปฏิรูปวันหน้า รับรองว่าไม่มีเกิดหรอกครับ เพราะฉะนั้นวันนี้เราต้องเร่งหันหน้าเข้าหากัน พูดคุยกัน เสนอปัญหาต่างๆ ใช้ช่องทาง วิธีการที่ถูกต้อง ให้เป็นไปตามกฎหมาย ต้องคำนึงถึงทั้งหมด อย่าไปกดดันเจ้าหน้าที่ เขาก็มีหน้าที่ของเขา เจ้าหน้าที่ก็ต้องระมัดระวังในการบังคับใช้กฎหมาย เจ้าหน้าที่จะต้องไม่ไปเริ่มดำเนินการความรุนแรงก่อน ให้เป็นไปตามขั้นตอน เพราะว่าหลายอย่างมันเป็นหลักการของประชาธิปไตย หลักการของสิทธิมนุษยชน แต่ประเทศเรานั้นมันจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงบ้างหรือเปล่า เพราะฉะนั้นก็ต้องมาช่วยกันคิดตรงนี้ เอาคนละเรื่องละราวมาปะทะกันทั้งหมด มันไปไม่ได้

ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในเรื่องเหล่านี้มีมานานแล้ว หลายสิบปี ผมรับรู้ข้อมูลมากมายมหาศาล ผมก็อยากจะขับเคลื่อนให้ได้ แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน เพราะฉะนั้นอย่ามาเชื่อมโยงกันทุกปัญหา ก็กลับไปที่เดิมทั้งหมด ก็กลับมาที่รัฐบาลนี้ไม่ทำอะไร มีคนเดือดร้อน มีคนต้องการ มีคนไม่ต้องการ ประชาธิปไตยอยู่ตรงไหน เสียงส่วนใหญ่ เสียงส่วนน้อยจะทำกันอย่างไร ไม่อยากให้มองว่ากฎหมายไม่เป็นธรรม มีผู้ไม่ประสงค์ดีอยู่ด้วยตอนนี้ บ้านเมืองสงบสุขไม่ได้ เราจะปล่อยปละละเลยให้มีการละเมิดกฎหมายอีกต่อไปไม่ได้แล้ว วันหน้าก็จะเกิดขึ้นอีก เป็นตัวอย่างมาแล้ว อะไรที่แก้ได้ในพื้นที่ก็แก้ไป ถ้าแก้ไม่ได้เกินความสามารถก็ส่งมาถึงรัฐบาล ถึงกระทรวง ถึงผม ต้องเป็นอย่างนั้นทุกเรื่อง ยาง ข้าว พืชเกษตร พลังงาน ไม่เคยละเลย ผมไม่เคยทิ้งใครไว้ข้างหลัง หรือหมักหมมปัญหาไว้ ผมก็เอาที่หมักหมมไว้ขึ้นมาแก้ทุกอัน ก็ยากบ้าง ง่ายบ้าง ฉะนั้นขอร้องอย่าประท้วงกันอีกเลย

ต่อไปก็เป็นเรื่องสำคัญ เรื่องการสร้างช่องทางการสื่อสารระหว่างรัฐกับประชาชน ต้องทำให้ถูกต้อง ผมก็หวังในสื่อในโซเชียลต่าง ๆ ผมก็เปิดกว้างทุกอย่าง ผมพูดก็พูด ส่วนสำคัญก็มี หน่วยงานก็มี เอามาแล้วบางทีก็กรุณาแจ้งประชาชนด้วยว่ารับเรื่องมาแล้วทำอะไรต่อ เช่น ศูนย์ติดตามเรื่องการทุจริต หลายร้อยคดีก็นำสู่ขบวนการ ยุติธรรมไปแล้ว เพียงแต่ว่าบางอย่าง ประกาศออกไปไม่ได้ ก็มีทั้งมีการทุจริตเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้าง ใหญ่บ้าง กลางบ้าง ก็นำเข้าขบวนการตรวจสอบทั้งหมด ไม่ใช่ว่าเงียบไป ก็ยังทำอยู่ทั้งหมด ศูนย์ดำรงธรรม ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน ศูนย์ปราบปรามยาเสพติด เรื่องของการปราบปรามผู้มีอิทธิพล ก็ทำทั้งหมด เพียงแต่ว่าขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการรายงาน หรือมีการชี้แจงสังคมให้ประชาชนทราบ ว่าผลงานทำอะไรไปแล้วบ้าง ตำรวจทำอะไร คสช.ทำอะไร รัฐบาลทำอะไร

ผมเองก็พูดมากแล้ว กระทรวง หน่วยงานที่ลงรายละเอียดก็ต้องออกมาพูดบ้าง ที่ผมพูดมาทั้งหมดนี้ผมต้องการสื่อสารทั้งประชาชนและข้าราชการด้วย ต้องปรับปรุงทั้งหมดในเรื่องของการสร้างความเข้าใจ จะได้ไม่เกิดความขัดแย้ง ความรุนแรงเกิดขึ้น ลดความน่าเชื่อถือ ทำลายภาพลักษณ์ทั้งหมด อะไรที่ผมต้องแก้ไข ผมแก้ของผม ถ้ามากดดันผมมาก ๆ ก็ต้องช่วยกันแก้ ต้องสนใจในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงไปสู่ประชาธิปไตยในอนาคต ก็ขอให้ทุกคนได้ใช้เวลาที่มีอยู่ได้เตรียมการที่จะไปสู่ขบวนการประชาธิปไตยให้สมบูรณ์ เตรียมปฏิรูปขั้นต้นให้ได้ สร้างมาตรการในการแก้ปัญหาให้แก่เกษตรกร ผู้มีรายได้น้อยให้ได้ ปฏิรูปยุทธศาสตร์ชาติ หลายอย่างทำมาแล้ว 2-3 อย่างนี่ทำมาหมดแล้ว ทำเล็ก ทำน้อย ทำกลาง ทำใหญ่ ที่ใหญ่ ๆ ก็ต้องใช้เวลาในการทำต่อไป ถึงต้องมีระยะเวลาในการทำตั้งหลายปี ทำต่อเนื่อง ไม่ใช่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เปลี่ยนแปลงได้ทั้งหมด เพียงแต่เราต้องปรับวิธีการบริหารจัดการ ขจัดกฎหมายที่เป็นอุปสรรค สร้างความเข้มแข็งในทุกมิติ ช่วงนี้ผมขอร้องว่าขอให้ทุกคนช่วยกันรักษาความมีเสถียรภาพทางการเมือง ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจต่าง ๆ ดีขึ้นตามลำดับ ความมั่นคง ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และลดความขัดแย้งต่าง ๆ ที่อาจจะเต็มไปด้วยเจตนาบริสุทธิ์ และอาจจะไม่บริสุทธิ์ สร้างภาพออกไปก็สร้างผลกระทบกับประเทศถ้าไม่บริสุทธิ์ โดยที่ไม่คำนึงถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้วทุกอย่างไปไม่ได้หมดเลย ฉะนั้นการบังคับใช้กฎหมายก็ต้องระวัง อย่าปล่อยปละละเลย อย่าทำอะไรที่เกินกว่าเหตุ ก็ขอให้ทุกคน ช่วยกันระมัดระวังในเรื่องของกฎหมายด้วย ที่ผ่านมาไม่ค่อยสนใจ ไม่ค่อยเรียนรู้กฎหมาย ไม่ชอบ แต่ไม่ได้อยู่แบบไม่มีกฎหมายไม่ได้ กรณีที่มีนักการเมืองออกมาเคลื่อนไหว มีการพูดจาให้ร้าย สร้างวาทกรรม

ผมถือว่าบางอย่าง ฉวยโอกาส เพราะจะนำไปสู่ความขัดแย้งในสังคม ขยายความขัดแย้งโดยไม่จำเป็น บางเรื่องก็ไม่ใช่ สร้างความชิงชังให้กับรัฐบาลและ คสช. ในขณะที่หลายคนยังมีคดีติดตัวอยู่ ตัวเองก็ไปเตรียมการสู้คดี แต่อย่าออกมาพยายามพูดให้สังคมเชื่อในสิ่งที่ตนเองพูด ประชาชนต้องเรียนรู้ว่าจะฟังเขาหรือไม่ คนเหล่านี้ บางคนก็ไม่น่าจะฟัง เพราะฉะนั้นผมไม่อยากไปต่อล้อต่อเถียงด้วย หลายคนก็ออกมาพูดเหมือนกับจะทิ้งอุดมการณ์ของตัวเอง จะทำอะไรก็ได้เพื่อจะได้กลับมาสู่อำนาจอีกครั้ง อะไรทำนองนี้ หรือมาป้องกันผม ป้องกัน คสช. ในการจะอยู่ต่อ รักษาอำนาจ ยังไม่ถึงเวลานั้นเลย ท่านมาพูดอะไรตอนนี้ แล้วอุดมการณ์ท่านอยู่ตรงไหน ท่านอย่ามาแก้ตัว จะรวมกัน หรือจะแยกกันก็แล้วแต่ จะตีใครก็ตี ผมไม่ไปร่วมกับท่านอยู่แล้วตอนนี้ สังคมต้องรู้เท่าทัน ทุกรัฐบาลที่ผ่านมาก็เป็นตัวอย่างอยู่แล้ว ผมไม่ได้ไปให้ร้าย อะไรที่ดีผมก็ทำต่อให้ อะไรที่ไม่ดีผมก็ปรับแก้ให้ แต่ท่านกลับมารุม ระดม มาเล่นงานรัฐบาลที่กำลังแก้ไขอยู่ แล้วประชาชนก็สับสน อลม่านไปหมด ฉะนั้นก็ขอให้ลงราย ละเอียดกันบ้างว่ารัฐบาลทำโน่น ทำนี่ไม่ดี แล้วท่านจะให้ทำอย่างไรถ้าไม่พูดเลย จะเก็บไว้หาเสียงหรืออย่างไร ยังไม่ใช่เวลาตอนนั้น แล้วหาเสียงแบบเดิมๆ ผมว่าก็ไม่ได้แล้ว พูดอะไรที่ไม่ใช้ข้อเท็จจริงไม่ได้แล้วก็ทำไม่ได้ แล้วก็มีปัญหาอีก ผมไม่ปล่อยให้เป็นอย่างนั้นอีกต่อไป ในเรื่องการหาเสียงก็เป็นเรื่องของ สนช. เป็นเรื่องของฝ่ายกฎหมายที่ต้องแก้ปัญหาตรงนี้ให้ผม เพราะสิ่งหนึ่งที่มีปัญหาคือการสร้างค่านิยม การสร้างความเข้าใจที่ผิด ๆ ประชาชนที่มีรายได้น้อยก็เลือกอยู่แล้ว บอกว่าจะทำให้ราคาเท่านี้เท่านั้นก็เป็นไปไม่ได้ ต้องดูว่าท่านจะทำด้วยวิธีการไหน นั่นคือสิ่งที่จะต้องเตรียม เอาเวลาช่วงนี้ไปเตรียมสิ่งเหล่านี้มากกว่าที่จะมาทำลายผม ก็ฝากคนที่ดูแลด้วยแล้วกัน ดูแลรัฐบาล คสช.บ้าง อย่าคล้อยตามสิ่งที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง ทุกอย่างจะได้กลับไปเหมือนเดิม

ขอบคุณครับ วันนี้ผมพูดหลายเรื่อง ผมไม่ได้มาแก้ตัวอะไรกับท่าน ผมเพียงแต่มาทำความเข้าใจกับท่าน อะไรที่ผิด-ถูก อะไรที่ผมทำดี ไม่ดี ผมต้องขอโทษทุกครั้ง และอย่านำไปขยายความ จะทำให้บานปลายไปอีก ผมจบแล้วคือจบ ผมก็ดูแลเท่าที่สามารถดูแลได้ ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น