กทม.ไฟเขียวจ้างเอกชน 220 ล้าน แทน “กรมคุก” ขุดลอกสิ่งปฏิกูลท่อระบายน้ำ ความยาว 2 ล้านเมตรกว่า 2 พันซอย พร้อมลอกคูคลอง 83 แห่ง เหตุติดปัญหากฎหมาย-ระเบียบจัดซื้อจัดจ้างฉบับใหม่ ห้ามว่าจ้างวิธีเฉพาะเจาะจง ด้าน “บิ๊กวิน” สั่งตั้งคณะทำงาน 6 โซน เร่งแก้ปัญหาระบายน้ำไม่ทัน รับฤดูฝนปีหน้า
วันนี้ (1 ธ.ค.) มีรายงานจากศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ว่า ในเร็วๆ นี้ กทม.เตรียมว่าจ้างเอกชนเข้ามาดำเนินการทำความสะอาดท่อระบายน้ำ ขุดลอกคูคลองในช่วงเดือนธันวาคม 2560 โดยได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อแบ่งหน้าที่รับผิดชอบจำนวน 6 กลุ่มเขต ประกอบด้วย กลุ่มกรุงเทพกลาง กลุ่มกรุงเทพใต้ กลุ่มกรุงเทพเหนือ กลุ่มกรุงเทพตะวันออก กลุ่มกรุงธนเหนือ และกลุ่มกรุงธนใต้
“จะใช้งบประมาณ กทม.ประจำปี 2561 จำนวน 220 ล้านบาท ทั้งในส่วนของสำนักระบายน้ำ 82 ถนน/ซอย ความยาว 307,230 เมตร และของสำนักงานเขต 2,138 ถนน/ซอย ความยาว 1,606,330.88 เมตร รวม 2,170 ซอย/ถนน ความยาว 2,013,560 เมตร และในส่วนของการขุดลอก คู คลอง ของสำนักระบายน้ำ 10 คลอง ความยาว 27,700 เมตร ของสำนักงานเขต 73 คลอง ความยาว 84,649 เมตร รวมทั้งสิ้น 83 คลอง ความยาว 112,349 เมตร”
ติดปัญหากฎหมายจัดซื้อจัดจ้างฉบับใหม่ ห้ามว่าจ้างวิธีเฉพาะเจาะจง
อย่างไรก็ตาม พบว่าในปีงบประมาณที่ผ่านมา กทม.ได้ว่าจ้างกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม เข้ามาดำเนินการทำความสะอาดท่อระบายน้ำในส่วนของ กทม. แต่จากการประสานกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ทราบว่า ตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และระเบียบกระทรวงการคัลว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ระบุว่า กทม.จะจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจงไม่ได้ เนื่องจากงานทำความสะอาดท่อระบายน้ำเป็นงานบริการ ไม่ใช่งานก่อสร้าง ฉะนั้นจึงไม่เข้าข่ายข้อยกเว้นตามกฎกระทรวง กรมบัญชีกลาง ได้เสนอให้กรมราชทัณฑ์ เสนอของานมายัง กทม.เพื่อเป็นการยกเว้นกฎกระทรวงเพื่อให้เข้ามาทำความสะอาดท่อระลายน้ำของ กทม.ได้
แหล่งข่าวจากศาลาว่า กทม.ระบุว่า ผู้บริหาร กทม.เตรียมลงนามให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจ้างภาคเอกชนเข้ามาทำงานตามแผนที่กำหนดไว้ โดยไม่ต้องรอกรมราชทัณฑ์เข้ามาดำเนินการ โดยให้ดำเนินการก่อหนี้อย่างช้าในเดือนมกราคม 2561 ขณะเดียวกัน ผู้บริหาร กทม.ได้กำหนดแนวทางการเตรียมความพร้อมเสริมประสิทธิภาพการระบายน้ำ ซึ่งแผนประจำปีที่ กทม.ต้องดำเนินการ คือ การขุกลองสิ่งปฏิกูลในคูคลองท่อระบายน้ำ เพื่อเปิดทางน้ำไหลในปี 2561
“ล่าสุด กทม.ได้ทำการสำรวจคูคลองท่อระบายน้ำที่มีสภาพอุดตัน ที่ต้องเร่งดำเนินการขุดลอกในกรุงเทพฯ มีจำนวน รวม 1,682 คลอง โดยจะหมุนเวียนตามสภาพคลอง ที่แต่ละคลองจะดำเนินการขุดลอกทุก 2-3 ปีต่อครั้ง ซึ่งในปีงบประมาณ 2561 มีการสำรวจคลองที่ต้องขุดลอกรวม 83 คลอง ซึ่งต้องใช้งบรวม 123 ล้านบาท”
กทม.ไม่รอว่าจ้าง “กรมราชทัณฑ์” เดินหน้าจ้างเอกชนขุดลอกท่อ
แหล่งว่าคนเดิมกล่าวด้วยว่า สำหรับการขุดลอกท่อระบายน้ำ ซึ่งในปี 2561จะเป็นท่อระบายน้ำในถนนและซอยต่างๆ รวม 180 ถนน 3,105 ซอย ซึ่งต้องใช้งบประมาณ รวม 97ล้านบาท ตามแผนของคณะทำงานต้องเร่งดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อนเข้าสู่ฤดูฝน คือประมาณปลายเดือน พ.ค. 2561
“ปีที่ผ่านมา กทม.ได้ทำข้อตกลงว่างจ้างกรมราชทัณฑ์ ให้เป็นผู้ดำเนินการลอกท่อระบายน้ำ แต่ด้วยขณะนี้ มีกฎหมายฉบับใหม่ คือ พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ซึ่งตามกฎหมายนั้นจะไม่สามารถจ้างกรมราชทัณฑ์เพื่อดำเนินการได้ โดยกทม.ต้องเปิดกว้างหา ผู้รับจ้างตามระบบ e-bidding (วิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์) เข้ามาเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งกรณีดังกล่าวนั้นหากกรมราชทัณฑ์ต้องการเป็นผู้ดำเนินการขุดลอกท่อเช่นที่ผ่านมาก็จะต้องส่งเรื่องไปยังกรมบัญชีกลาง เพื่อหารือแนวทางเป็นกรณีพิเศษต่อไป แต่ด้วยการขุดลอกท่อนั้น กทม.มีแผนงานที่ชัดเจนโดยในปี 2561 นี้จึงต้องเร่งการทำงานไม่สามารถรอแนวทางของกรมราชทัณฑ์ได้” แหล่งข่าวระบุ
ย้อนดู กทม.ทำเอ็มโอยู จ้างราชทัณฑ์ขุดท่อมาตลอดถึงปี 55 รัฐจัดให้ 271 ล้าน
มีรายงานว่า ที่ผ่านมา กทม.จะทำสัญญาเอ็มโอยูระหว่าง กทม.กับกรมราชทัณฑ์ โดยจะมีนักโทษชั้นดีมาขุดลอกท่อ แต่เฉพาะปี 2555 รัฐบาลได้สนับสนุนกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม เข้ามาดำเนินงานให้โดยจัดงบประมาณว่าจ้างด้วยวิธีพิเศษ ภายใต้งบกลาง 271 ล้านบาท ทั้งหมด 50 เขต มีการส่งนักโทษชั้นดี 800 คน ดำเนินการขุดลอกท่อเป็นระยะทาง 3,500 กิโลเมตร ภายใน 120 วัน ระหว่างเดือนมีนาคมถึงมิถุนายน 2555 โดยในครั้งนั้น กทม.ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ และไม่สามารถลดราคาว่าจ้างได้ ซึ่งแตกต่างจากการว่าจ้างบริษัทเอกชน ทั้งนี้ในอดีต กทม.ยังได้ดำเนินการร่วมกระทรวงกลาโหม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงวิทยาศาสตร์ รวมการขุดลอกคู คลอง ด้วย
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาทุกปีกรมราชทัณฑ์จะคัดเลือกนักโทษชั้นดีจากเรือนจำทั่วประเทศ จำนวน 1,000 คน ที่ยังเหลือโทษไม่เกิน 2 ปี และต้องไม่เป็นนักโทษคดียาเสพติดและคดีความมั่นคง ออกปฏิบัติงานขุดลอกคูคลองให้เส้นทางระบายน้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ ไหลได้สะดวก
สำหรับนักโทษที่ได้รับการคัดเลือกให้ออกมาทำงาน จะได้เงินรางวัลวันละ 200 บาท และจะได้วันลดโทษ ในสัดส่วนการออกมาทำงานสาธารณประโยชน์ 1 วันได้ลดโทษ 1 วัน โดยจะนำนักโทษชั้นดีที่ผ่านการคัดเลือกมาจากทั่วประเทศมาคุมขังเพื่อการทำงานที่เรือนจำกลางคลองเปรม เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และเรือนจำพิเศษธนบุรี