นายกรัฐมนตรีไปปัตตานี เปิดตลาดกลางปศุสัตว์จังหวัดชายแดนใต้ อ.หนองจิก ก่อนติดตามงานด้านความมั่นคง และการพัฒนาชายแดน พบผู้นำท้องถิ่น ก่อนบินกลับมาสงขลา เพื่อประชุม ครม.สัญจรพรุ่งนี้
วันนี้ (27 พ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่ จ.ปัตตานี ก่อนการประชุม ครม.นอกสถานที่อย่างเป็นทางการ ครั้งที่ 3/2560 ในวันที่ 28 พ.ย.ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย อำเภอเมืองฯ จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลชุดนี้จัด ครม.สัญจรขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ ท่ามกลางสภาพอากาศฝนตกเป็นช่วงๆ
โดยนายกฯ จะเดินทางไปเพื่อติดตามความก้าวหน้าของโครงการ “สามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ประเด็นปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และพบปะรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชน กลุ่มผู้นำท้องถิ่น ภาคเอกชนในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ และจังหวัดชายแดนใต้ เพื่อรับทราบปัญหา ความเดือดร้อน และข้อเสนอแนะ รวมถึงการสร้างการรับรู้ของประชาชนกลุ่มต่างๆ ต่อนโยบายและการดำเนินแผนงาน โครงการของรัฐบาล ในรอบ 3 ปี รวมทั้งเพื่อเป็นการสร้างขวัญ และกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนในพื้นที่
จากนั้นนายกฯ จะไปเป็นประธานเปิดตลาดกลางปศุสัตว์จังหวัดชายแดนใต้ ตำบลบางเขา อำเภอหนองจิก เยี่ยมชมตลาดและพบปะประชาชน รวมถึงเยี่ยมชมพื้นที่เกษตรอุตสาหกรรมแปรรูปโรงงานน้ำมันปาล์ม และรับฟังรายงานความก้าวหน้าพื้นที่การลงทุนเกษตรอุตสาหกรรมของภาคเอกชนตามโครงการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน”
ขณะที่ช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการประชุมติดตามงานด้านความมั่นคงและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ ห้องประชุมอาคารสมาคมนายทหารสัญญาบัตร กองพลทหารราบที่ 15 ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีจะพบผู้นำท้องถิ่นของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ ห้องจัดเลี้ยงอาคารสมาคมนายทหารสัญญาบัตร หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีจะเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ไปยังสนามบินสงขลา ฐานทัพเรือสงขลา กองทัพเรือภาคที่ 2 เพื่อร่วมประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมจังหวัดชายแดนภาคใต้ (Working Dinner)ที่ ห้องประชุมสมิหลา โรงแรมบีพี สมิหลา บีช จังหวัดสงขลา
ทั้งนี้รายงานว่า เดิมนายกฯและคณะ มีกำหนดการลงเครื่องที่สนามบินบ่อทอง (กองกำลังทางอากาศเฉพาะกิจที่ 9) จ.ปัตตานี แต่เนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย และบริเวณลานบินสนามบินบ่อทองเกิดน้ำท่วม จึงทำให้ต้องเปลี่ยนแผน ขณะที่การรักษาความปลอดภัยเป็นไปอย่างเข้มงวด สนธิกำลังทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง มีการตั้งจุดตรวจ มีการตรวจเข้มรถยนต์ทุกคัน และบุคคลต้องสงสัย เพื่อป้องกันผู้ไม่หวังดีฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์ รวมถึงห้ามนำร่มเข้าไปในงาน ขณะที่ตลอดเส้นทางมีตำรวจประจำจุดทุกๆ 10 เมตรและทุก 100 เมตร มีรถฮัมวี่พร้อมเจ้าหน้าที่ยื่นเฝ้าระวัง
