xs
xsm
sm
md
lg

“วัชรพล” รับสัมพันธ์ “บิ๊กป้อม” เป็นจุดอ่อนชีวิต ยันชี้ขาดอุทธรณ์คดี พธม.ทัน 30 วัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. (ภาพจากแฟ้ม)
ประธาน ป.ป.ช. เผย กำลังรอคัดลอกคำพิพากษาคดีสลายชุมนุมพันธมิตรฯ 7 ตุลาฯ คาดใช้เวลา 1 - 2 สัปดาห์ มั่นใจพิจารณาอุทธรณ์หรือไม่ ทันกรอบเวลา 30 วัน และต้องตอบสังคมได้ พร้อมเปรยข้อครหาสนิทคนในตระกูลวงษ์สุวรรณ เป็นจุดอ่อนของชีวิต แต่เลือกไม่ได้ แย้มไต๋คดีอาญา ถ้าไม่มีเจตนาพิเศษต้องยกประโยชน์ให้จำเลย

วันนี้ (10 ส.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาอุทธรณ์คำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีสลายการชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ว่า ขณะนี้ ยังไม่ได้รับคำพิพากษาคดีที่ขอคัดลอกจากศาลฎีกาฯ โดยกำลังติดตามอยู่ ซึ่งปกติการคัดลอกคำพิพากษากลางใช้เวลา 1 - 2 สัปดาห์ แต่ก็มั่นใจว่า ป.ป.ช. จะพิจารณาการยื่นอุทธรณ์ได้ทันภายในกรอบเวลา 30 วัน และผลการพิจารณาจะต้องตอบสังคมได้

พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวอีกว่า ถ้าไปถามนักกฎหมายวันนี้ ก็ต้องทำแบบ ป.ป.ช. คือ รอการวิเคราะห์ข้อมูล ข้อเท็จจริงต่างๆ ไม่ใช่บอกว่า จะทำนู่นจะทำนี่ มันไม่ได้ กฎหมายมันต้องชัด แล้วเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเขาก็รู้ว่า เดดไลน์มันเมื่อไร ถ้าปล่อยให้เลยจะไม่มีคำแก้ตัวทันที ตนยืนยันว่า สามารถทำได้ทันตามกรอบ 30 ถ้าเราทำไม่ทัน ก็เหมือนกับแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้ชก

กรณีมีข้อสังเกตว่า ท่าทีของ ป.ป.ช. ไม่อยากดำเนินการอุทธรณ์ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า เป็นเรื่องที่คาดคะเนกันไป แต่เราต้องทำตามหน้าที่ หลักเกณฑ์ที่จะพิจารณาว่า จะยื่นอุทธรณ์หรือไม่นั้นต้องไปดูประเด็นที่ ป.ป.ช. ชุดก่อนมีมติชี้มูลความผิดก่อนส่งฟ้อง และอีกหลายเรื่องในคำพิพากษา ทั้งข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง คำพิพากษากลางและคำพิพากษาของตุลาการแต่ละคน จึงมีความสำคัญ นอกจากนี้ ยังต้องนำหลักฐานที่กลุ่มพันธมิตรฯ ยื่นเข้ามาพิจารณาด้วย

พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวอีกว่า ป.ป.ช. จะนำทั้งข้อเท็จจริง และเรื่องต่างๆ มาพิจารณา แล้วออกเป็นมติของคณะกรรมการ ป.ป.ช. และ ป.ป.ช. ไม่ได้กดดัน เพราะเป็นหน้าที่ ทุกอย่างต้องทำตามข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริง และพยานหลักฐาน ถึงแม้ตนจะไม่ได้อยู่กระบวนการของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชุดที่ชี้มูลความผิด แต่เมื่อเป็นเรื่องของ ป.ป.ช. ทุกอย่างต้องเป็นไปตามระบบ

ส่วนประเด็นที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์ว่า ตัวประธาน ป.ป.ช. ดูเหมือนจะเกรงใจจำเลยบางคนในคดีนี้เป็นพิเศษ เนื่องจาก พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. เป็นน้องชายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า “มันคงปฏิเสธไม่ได้ เป็นธรรมดา มันเป็นส่วนหนึ่งของหน้าที่การงาน มันอาจจะเป็นจุดอ่อนของชีวิต มันเลือกไม่ได้ แต่การกระทำของเราจะเป็นอย่างไรนั้นต่างหาก”

เมื่อถามว่า ประธาน ป.ป.ช. จะเข้าร่วมพิจารณาว่า จะอุทธรณ์หรือไม่ เพราะถูกครหาว่า มีส่วนได้ส่วนเสีย พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า ต้องพิจารณาทั้งหมดว่า จะเป็นประโยชน์หรือไม่เป็นประโยชน์ องค์กรจะเป็นอย่างไร คิดอยู่ทุกวัน ต้องเอาประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง ตัวเองไม่เป็นไรเพราะพร้อม เนื่องจากเป็นภาระหน้าที่และความรับผิดชอบ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจใดๆ

ส่วนกรณีที่คำพิพากษาศาลฎีกาฯ ขัดแย้งกับคำพิพากษาศาลปกครองกลาง พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า มองกันคนละมุม ในเรื่องของอาญามันต้องมีเจตนาพิเศษจริงๆ ที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและร่างกายผู้อื่น ไม่เช่นนั้นจะต้องยกประโยชน์ให้จำเลย หลักกฎหมายอาญาเป็นอย่างนั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น