xs
xsm
sm
md
lg

“ชาญชัย” เล็งฟ้องคดีที่ 2 การท่าฯ-คิงเพาเวอร์ อ้างพยาน “บิ๊กตู่-อุดม” เพื่อประโยชน์คดี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ (แฟ้มภาพ)
อดีต ส.ส.นครนายก เผยจะยื่นฟ้องการท่าฯ-คิงเพาเวอร์ คดีที่ 2 ข้อหาทุจริตฯ ปมลดรายได้ ต่อสัญญาเอื้อเอกชน ทำรัฐเสียหายกว่าหมื่นล้าน ยันไม่ซ้ำซ้อนคดีเดิม เหตุ คกก.คนละชุด สัญญาคนละฉบับ แจงจำเป็นอ้างนายกฯ-ผู้พิพากษาผู้ใหญ่ เป็นพยานปากเอกเพื่อประโยชน์คดี

วันนี้ (14 ก.ค.) นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมาธิการด้านกลไกในการปราบปรามการทุจริต สปท. แถลงว่า ตนจะทำการยื่นฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐ คือ บริษัท ท่าอากาศไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) และบริษัทเอกชนที่เป็นคู่สัญญากับรัฐ คือ บริษัท คิงเพาเวอร์ สุวรรณภูมิ เป็นคดีที่ 2 เรื่องร้านค้าปลอดอากร เหตุเพราะคณะกรรมการบริหารการท่าฯ ในขณะนั้นได้อนุมัติลดรายได้ตนเองจากสัญญาที่ต้องเรียกเก็บแบ่งผลประโยชน์ตั้งแต่ปีแรกถึง 5 ปี ปีละ 15 เปอร์เซ็นต์ ปีที่ 6 ถึงปีที่ 10 เพิ่มปีละ 1 เปอร์เซ็นต์ แต่คณะกรรมการฯ ได้อนุมัติการเยียวยาชดเชย และลดรายได้ เลื่อนการส่งรายได้ และต่อสัญญาให้กับผู้ประกอบการ โดยการอ้างเหตุกลุ่มพันธมิตรฯ ปิดสนามบิน 10 วัน และเหตุเศรษฐกิจโลกตกต่ำ ซึ่งการลดรายได้และต่อสัญญาโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบความเสียหาย และเหตุผลไม่ถูกต้องและสมควรแก่เหตุซึ่งต้องคำนวณได้ ห้ามมิให้นำเอาเหตุการณ์ความเสียหายที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นในอนาคตมาคำนวณเพื่อการชดเชย แต่ ทอท.ได้ลดรายได้ปีที่ 6 ลง 1 เปอร์เซ็นต์ บางปีลด 3 เปอร์เซ็นต์ ไปตลอดอายุสัญญา และต่ออายุสัญญาให้แก่บริษัท คิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี โดยอ้างว่า ทอท.มีอำนาจทำได้เพราะอ้างคำพิพากษาศาลแพ่งว่าได้จ้างเอกชนมาคำนวณว่า โครงการดังกล่าวไม่ต้องเข้า พ.ร.บ.ร่วมทุน เพราะจ้างเอกชน คือ บริษัท ฟินันซ่า จำกัด มาคำนวณและนำเอกสารไปอ้างต่อศาลแพ่ง และนำความดังกล่าวมาอ้างต่อสัญญามาตลอดว่า โครงการดังกล่าวไม่เกิน 1,000 ล้าน

“เราได้หลักฐานยืนยันว่า ทอท.และบริษัทกลุ่มคิงเพาเวอร์เป็นเอกสารไม่ชอบไปแสดงต่อศาล จึงก่อให้เกิดผลเสียหายนับหมื่นล้านบาท เป็นการจงใจเจตนาเอื้อประโยชน์ให้เอกชนได้รับผลประโยชน์ตามความต้องการ และไม่ได้รักษาผลประโยชน์ของรัฐ และผู้ถือหุ้นรายย่อย ซึ่งได้เคยทำหนังสือเตือน ทอท.ไปแล้วเมื่อปี 2559 ให้แก้ไข แต่ ทอท.ตอบว่าทำไปตามมติ ครม. ผมได้ตรวจสอบแล้วไม่เป็นความจริง ครม.ไม่มีมติแต่คณะกรรมการท่า ฯ กับมีมติไป ดำเนินการเอง และผลเสียหาย ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาให้กลุ่มที่ปิดสนามชดใช้ค่าเสียหาย 555 ล้านบาท จึงเป็นเหตุให้เปรียบเทียบกับ ทอท.ที่อนุมัติไป เสียหายไม่น้อยกว่าหมื่นล้านบาท จึงขอให้ศาลพิจารณารับฟ้องคดีที่ 2 เพื่อริบทรัพย์เข้าแผ่นดิน และลงโทษผู้กระทำความผิดตามกฎหมายต่อไป”

นายชาญชัยยืนยันว่า การฟ้องครั้งนี้จะไม่ซ้ำซ้อนกับคดีที่ 1 เพราะเป็นต่างสัญญากับคดีที่ 1 ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 และคณะกรรมการคนละชุดกัน เป็นต่างสัญญา ต่างกรรม ต่างวาระ โดยการฟ้องครั้งนี้ตนฟ้องในนามผู้ถือหุ้นรายย่อย ได้รับผลกระทบต่อการทุจริตและเสียหายต่อสาธารณะเป็นอย่างมากเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม และให้การบังคับใช้กฎหมายได้สมดัง ส่วนที่นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทยจำกัด (มหาชน) (ทอท.)อ้างว่าสัญญาเขียนไว้ 15 เปอร์เซ็นต์ แล้วมีการลดรายได้ โดยเก็บรายได้จากการส่งมอบสินค้าผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ สัญญานี้เขียนไว้ทุกรายการ เมื่อนำยอดการขายที่สำเร็จแล้วที่สนามบินกลับมีการอนุมัติให้เก็บเงินเข้ารัฐแค่ 3 เปอร์เซ็นต์ โดยนายนิตินัยระบุว่าผู้ที่อนุมัติตรงนี้ คือ คณะกรรมการรายได้ของการท่าฯ เป็นผู้อนุมัติ ซึ่งในคำฟ้องเดิมไม่มีการฟ้องถึงกรรมการชุดนี้ แต่เมื่อนายนิตินัยระบุเช่นนี้โดยโยนความผิดให้ลูกน้องว่าเป็นผู้อนุมัติ ฝ่ายกฎหมายจึงมีมติว่าจำเป็นต้องฟ้องคณะกรรมการรายได้ชุดนี้เพิ่มเติมด้วยเพราะนายนิตินัยชี้ช่องอ้างถึงโดยเลี่ยงตัวเองว่าเป็นกรรมการใหญ่ไม่เกี่ยวข้อง และไม่มีอำนาจแต่เป็นอำนาจของคณะกรรมการ เดิมทีตนคิดว่าจะกันกรรมการชุดนี้ไว้เป็นพยานในคดี แต่เมื่อนายนิตินัยอ้างเช่นนี้ แม้จะเป็นเจ้าหน้าที่ระดับล่างคือรองผู้อำนวยการ เราก็จะฟ้องเพื่อให้ครบถ้วนสมบูรณ์

นายชาญชัยยังชี้แจงถึงเหตุที่ต้องอ้าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช.ในบัญชีพยานว่าเพราะมีความจำเป็นและมีส่วนเกี่ยวข้องโตยตรง ถือเป็นพยานปากสำคัญและเป็นสิทธิของผู้ฟ้องที่จะอ้าง เพราะนายกฯ ต้องการอยากทราบว่ามีการทำผิดกฎหมายอะไร เรื่องอะไร และมีการฟ้องร้องไปบ้างหรือไม่อย่างไร เราได้รายงานให้นายกฯ รับทราบแล้วเพื่อจะได้ชี้แจงให้ศาลรับฟังเมื่อมีหมายเรียกตามบัญชีพยาน ส่วนที่อ้างชื่อนายอุดม เฟื่องฟุ้ง อดีตผู้พิพากษาผู้ใหญ่ เป็นพยานด้วย เพราะเป็นผู้ยกร่างกฎหมายในการจัดตั้งศาลทุจริตประพฤติมิชอบในสมัยที่เป็น สนช. จะสามารถชี้แจงอธิบายข้อกฎหมายและเจตนารมณ์ และขอบเขตอำนาจของศาลในการพิจารณาคดีเพื่อแก้ไขปัญหาการทุจริตไทยได้
กำลังโหลดความคิดเห็น