แหล่งข่าวทำเนียบฯ เผยรองนายกฯ เห็นชอบตาม กมธ.ขับเคลื่อนปฏิรูปป้องกันทุจริต เสนอปลด ผอ.ทอท. ส่ง ป.ป.ท.สอบที่มาสัญญาร้านดิวตี้ฟรี คิงเพาเวอร์ ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ส่อยกเลิก บูรณาการและเชื่อมโยงข้อมูล พิจารณา กม.และอำนาจหน้าที่ ให้เกิดความโปร่งใส
วันนี้ (10 พ.ค.) แหล่งข่าวทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เห็นชอบตามที่ นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานกรรมาธิการวิสามัญขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูป (สปท.) เสนอ ดังนี้ 1. เสนอให้ปลดนายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. และคณะกรรมการ ทอท. เพื่อให้ผู้บริหารชุดใหม่ที่ได้รับการแต่งตั้งเข้าบริหารงาน 2. เสนอให้ยกเลิกสัญญากับกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ฯ เพราะไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 และ 3. ควรบูรณาการและเชื่อมโยงข้อมูลทั้ง ทอท. กรมศุลกากร และกรมสรรพากร เพื่อให้ ทอท.ได้รับส่วนแบ่งอย่างครบถ้วน
4. ควรพิจารณาศึกษากฎหมายที่เกี่ยวกับรัฐวิสาหกิจทั้งหมด เช่น พ.ร.บ.การให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535, พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 103/7 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ป้องกันการทุจริตและเอื้อให้เกิดความเป็นธรรมแก่เอกชน รวมทั้งการปฏิบัติให้เกิดประโยชน์แก่ราชการและรายได้ของรัฐ และ 5. กำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการจัดเก็บรายได้ให้เกิดความชัดเจน โปร่งใส เปิดเผย เป็นธรรม ไม่ให้ขัดต่อกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง และดำเนินการเปิดเผยข้อมูลให้สาธารณชนรับทราบ
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ได้มีการประชุมเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามที่ได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หารือเพื่อแก้ไขปัญหา เช่น คณะกรรมาธิการวิสามัญขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.), สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.), สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), กระทรวงการคลัง, กระทรวง, กรมศุลกากร, กรมสรรพากร และคณะผู้บริหารของ ทอท. เพื่อพิจารณาข้อเสนอของ สปท.ที่ทำถึงนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ นายปานเทพกล่าวว่า ได้ทำหนังสือด่วนที่สุดถึงกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.ขอให้มาชี้แจงต่อคณะอนุกรรมาธิการฯ สปท. กรณีผู้ตรวจการแผ่นดินมีคำวินิจฉัยให้ ทอท.เปิดจุดส่งมอบสินค้าสาธารณะภายใน 60 วัน รวมทั้งขอให้ ทอท.จัดส่งเอกสารประกอบการพิจารณาจำนวน 15 ชุดมาให้คณะกรรมาธิการฯ สปท.ตามที่ สปท.เคยขอไปก่อนหน้านี้
แหล่งข่าวคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ สปท.เปิดเผยว่า ข้อเสนอดังกล่าวที่ส่งถึงนายกรัฐมนตรี นายวิษณุได้มอบหมายให้เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) รับผิดชอบการสอบสวนหาผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ตั้งแต่การได้มาของสัญญาอนุญาตประกอบกิจการร้านค้าปลอดอากร และสัญญาบริหารจัดการพื้นที่เชิงพาณิชย์ รวมทั้งการบริหารสัญญาที่มิชอบด้วยกฎหมาย และให้ ป.ป.ท. นำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีพิจารณาดำเนินการต่อไป
สำหรับรายละเอียด ข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ 5 ข้อ ดังนี้ 1. ควรปลดผู้อำนวยการ ทอท. คนปัจจุบัน ซึ่งไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายและก่อให้เกิดความเสียหาย รวมทั้งควรปรับเปลี่ยนคณะกรรมการ ทอท. เพื่อให้ผู้บริหารชุดใหม่ที่ได้รับการแต่งตั้งเข้าบริหารงาน เพื่อรักษาผลประโยชน์ของรัฐ ขณะเดียวกัน เพื่อการเปิดเผยข้อมูลต่างๆ ที่ถูกปกปิดมาโดยตลอดเวลา
2. ควรทำการยกเลิกสัญญากับกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ฯ เพราะไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานฯ 3. ควรบูรณาการและเชื่อมโยงข้อมูลทั้งของ ทอท. กรมศุลกากร และกรมสรรพากร เพื่อ ทอท.จะได้รับส่วนแบ่งอย่างครบถ้วน รัฐโดยกรมสรรพากรจะได้มีข้อมูลที่จะเรียกเก็บภาษีอากรอย่างถูกต้องและเป็นธรรม ขณะเดียวกัน กรมศุลกากรจะได้ใช้ข้อมูลเพื่อควบคุมป้องกันการลักลอบจำหน่ายสินค้าหนีภาษี
และ 4. ควรพิจารณาศึกษากฎหมายที่เกี่ยวกับรัฐวิสาหกิจทั้งหมด เช่น พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงาน หรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535, พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 103/7 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ป้องกันการทุจริตและเอื้อให้เกิดความเป็นธรรมแก่เอกชน และการปฏิบัติให้เกิดประโยชน์แก่ราชการและรายได้ของรัฐ และ 5. ควรกำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการจัดเก็บรายได้ให้เกิดความชัดเจน โปร่งใส เปิดเผย เป็นธรรม ไม่ให้ขัดต่อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และดำเนินการเปิดเผยให้สาธารณชนรับทราบ