xs
xsm
sm
md
lg

เบื้องลึกอาณาจักรคิงเพาเวอร์ใหญ่คับฟ้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ตามที่ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้วินิจฉัยว่า บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เลือกปฏิบัติ และเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มบริษัทคิงเพาเวอร์ เพียงรายเดียว หลังจากที่สมาคมการค้าร้านค้าปลอดอากรไทย ภายใต้การนำของ นางรวิฐา พงษ์นุชิต อดีตรองอธิบดีกรมสรรพากรพยายามเรียกร้องให้ ทอท.เปิด จุดส่งมอบสินค้าสาธารณะภายในสนามบินนานาชาติ และในประเทศ แต่ไม่เป็นผล โดยทอท.อ้างว่าติดสัญญาที่ทำไว้กับกลุ่มคิงเพาเวอร์ เป็นเหตุให้ไม่สามารถจัดหาพื้นที่ที่ให้ได้

แหล่งข่าวในกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ปัจจุบัน บริษัทคิงเพาเวอร์ ได้ขยายธุรกิจออกไปอีก เพื่อเตรียมฮุบทอท. เบ็ดเสร็จ อย่างเช่นในปีที่ผ่านมาได้ซื้อแอร์เอเซีย และพยายามที่จะใช้แอร์เอเซีย ขอร่วมลงทุนกับ ทอท. ที่สนามบินดอนเมือง เพื่อที่จะขอเข้ามาเป็นผู้บริหารสนามบิน แทนทอท. แต่แผนแตก โดนต่อต้านจึงล่าถอยออกไป เพราะสนามบินดอนเมืองมีรายได้ปีหนึ่งมากกว่าหมื่นล้านอยู่แล้ว ในการขยายต่อเติมจึงไม่จำเป็นต้องหาผู้อื่นมาร่วมลงทุนด้วย

ข่าวล่าสุด มีความพยายามที่จะขอเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทลูกของ ทอท.ซึ่งคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.ชุดปัจจุบันได้อนุมัติให้เปิดบริษัทลูก เพื่อเข้ามาดำเนินกิจการงานภาคพื้นดินรายที่ 3 พร้อมทั้งจะเข้ามายึดเขตปลอดอากร เพื่อควบคุมเบ็ดเสร็จในการนำเข้าและส่งออก รวมทั้งการให้บริการอื่นๆ ภายในเขตสนามบิน ที่อยู่ในความควบคุมของ ทอท.

แหล่งข่าว กล่าวต่อว่า แม้ว่าคณะกรรมาธิการวิสามัญขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ได้สรุปผลการศึกษาเรื่องความเสียเปรียบ และความเสียหายอันใหญ่หลวงของภาครัฐที่ได้ทำสัญญากับกลุ่มคิงเพาเวอร์ ถึงนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งได้ที่เห็นประเด็นที่ผู้บริหาร ทอท. และบอร์ดบริหารได้ร่วมกันเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มคิงเพาเวอร์อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่ตัวสัญญาใหญ่ ที่ส่อขัดต่อกฎหมายหลายฉบับ ในกรณีที่จะต้องเข้าพ.ร.บ.ร่วมทุนฯ เพราะมีการลงทุนทั้ง 2 ฝ่าย มูลค่าเกินกว่าพันล้านค่อนข้างชัดเจน แต่ผู้บริหาร และบอร์ด ทอท.

กลับเพิกเฉย ไม่บังคับปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย ทั้งๆ ที่ปรากฏหลักฐานจากคำให้การของผู้แทนกลุ่มคิงเพาเวอร์ ว่า บริษัทได้ลงทุนไปมากกว่า 8 พันล้านบาท ในการเริ่มดำเนินกิจการร้านค้าปลอดอากรภายในสนามบินสุวรรณภูมิ

แหล่งข่าว กล่าวด้วยว่า อีกกรณีที่แสดงให้เห็นว่า ผู้บริหารและบอร์ดบริหารชุดนี้เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มคิงเพาเวอร์ คือ การอนุมัติต่อสัญญาให้กลุ่มคิงเพาเวอร์ ออกไปอีกถึง 5 ปี โดยอ้างผลกระทบจากกรณีสนามบินถูกปิดเพียงไม่กี่วัน ในช่วงที่มีการชุมนุมทางการเมือง แถมยังลดค่าตอบแทนลงอีก 1% ทั้งๆ ที่ควรจะเพิ่มขึ้น เพราะปริมาณผู้เดินทาง และนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นตลอดทุกปี นอกจากนี้ในสัญญาใหญ่นั้นยังได้ระบุไว้ว่า ค่าตอบแทน จะต้องเพิ่มในอัตราก้าวหน้าทุกปี ผู้บริหารและบอร์ด ทอท. กลับไม่สนใจควบคุมให้เป็นไปตามสัญญาใหญ่ แถมยังใจดี ลดค่าตอบแทนลงอีกเหลือ 3% ในกรณีที่ไม่ได้ขายสินค้าภายในสนามบินโดยตรง ทั้งๆ ที่แหล่งที่มาของสินค้า มาจากที่เดียวกัน

แหล่งข่าวกล่าวต่อไปอีกว่า กรณีหนึ่งที่เห็นชัดเจนว่าผู้บริหารและบอร์ดชุดนี้เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มคิงเพาเวอร์อย่างมากคือ กรณีร้านค้าปลอดอากรที่ท่าอากาศยานภูเก็ต ณ อาคารเดิมมีพื้นที่ร้านค้าปลอดอากร ประมาณ 800 ตารางเมตร เมื่อมีการสร้าง อาคารผู้โดยสารหลังใหม่แล้วเสร็จ ปรากฏว่ามีพื้นที่ร้านค้าปลอดอากรเพิ่มขึ้นเป็น 2,000 ตารางเมตร

ผู้บริหาร ทอท. และบอร์ดชุดนี้ได้มุบมิบ และยกพื้นที่ทั้งหมดให้กลุ่มคิงเพาเวอร์ เป็นผู้ขายสินค้าปลอดอากรแต่เพียงผู้เดียวในเงื่อนไขเดิมทั้งหมด ทั้งๆ ที่มีบอร์ดบางท่านไม่เห็นด้วย และให้ความเห็นว่าควรจะให้พื้นที่เท่าเดิมที่มีอยู่ไป ส่วนที่เกินให้เปิดประมูลเพื่อที่ ทอท. จะได้มีรายได้เพิ่มขึ้น แต่สุดท้าย บอร์ด ก็สรุปให้กลุ่มคิงเพาเวอร์ ขายของได้แต่ผู้เดียว

แหล่งข่าวบอกด้วยว่า ไม่เป็นที่ประหลาดใจเลยว่าทำไม ทอท. เอื้อประโยชน์แก่ทาง คิงเพาเวอร์มากขนาดนี้ เมื่อเห็นชื่อผู้บริหารของกลุ่มคิงพาวเวอร์ คือ นายทวีศักดิ์ พูนธเนศ เป็นผู้อำนวยการส่วนงานปฏิบัติการร้านค้าท่าอากาศยานภูมิภาค ซึ่งนายทวีศักดิ์ เป็นน้องชายแท้ๆ ของ นายประสงค์ พูนธเนศ ประธาน บอร์ด ทอท. คนปัจจุบัน

"จะเห็นได้ว่า บอร์ดและผู้บริหาร ทอท. จงใจละเว้นในการที่จะบังคับคู่สัญญาคือ บริษัทคิงเพาเวอร์ ให้ปฏิบัติตามสัญญาที่มีอยู่ เป็นเหตุให้ประเทศเสียหายเป็นเงินหลายหมื่นล้านบาท ใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้ ในยามนี้ประเทศกำลังต้องการเงินงบประมาณเพื่อมาพัฒนา รัฐบาลและท่านนายกฯ จะนิ่งเฉยโดย ไม่ทำอะไรเลย หรือจะเป็นเพราะความเกรงใจ แหล่งข่าวแจ้งว่าการแต่งตั้ง นายประสงค์ พูนธเนศ เป็นประธานบอร์ด ทอท. ได้มีการตกลงแต่งตั้งกันที่มูลนิธิฯแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ในกรมทหาร มีคนระดับสูงของรัฐบาล รู้เห็นด้วย"

แหล่งข่าวเปิดเผยด้วยว่า สำหรับมูลนิธิดังกล่าวนั้น มีคนเห็นคนหน้าตา คล้าย นายจุลจิต บุณยเกตุ ซึ่งมีตำแหน่งเป็น รองประธานกรรมการบริหารของบริษัทกลุ่มคิงเพาเวอร์ปัจจุบัน เป็นที่ปรึกษาอยู่ และเดินเข้าออกบ้านประสานงานอยู่ในมูลนิธิที่ว่านี้ตลอดเวลา เช่นเดียวกับการแต่งตั้ง นายนิตินัย ศิริสมรรถการ เป็นผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. ก็ได้มีข่าวว่า ผู้ใหญ่ของ คิงเพาเวอร์ เป็นคนเลือกเอง เพราะนายนิตินัย เป็นเพื่อนสนิทของนายตำรวจติดตามรัฐมนตรีเก่าท่านหนึ่งชื่อเล่นว่า ก. ซึ่งมีความรู้จักมักคุ้นกับผู้บริหาร คิงเพาเวอร์ เป็นอย่างดี ตั้งแต่สมัยติดตามรัฐมนตรีคนนั้น เนื่องจากจะต้องเป็นผู้ประสานงานตลอดเวลา

แหล่งข่าวกล่าวถึง ในกรณี พอยต์ออฟเซลล์ ก็เหมือนกัน ติดตั้งแล้วเสร็จบางส่วนแต่กลับนำเซิร์ฟเวอร์ หัวใจสำคัญของระบบไปติดตั้ง ณ ที่ทำการ ออฟฟิส ของบริษัท คิงเพาเวอร์ โดยให้เหตุผลว่า สะดวกในการทำงาน ทั้งๆ ที่ส่วนงานไอทีของ ทอท. มีพื้นที่กว้างขวางเหลือเฟือ อย่างมากมายที่จะติดตั้งได้แต่กลับไปยินยอมให้ เอาไปติดตั้งนอกที่ทำการของ ทอท. เหมือนรู้เห็นเป็นใจให้เอกชนแก้ไขข้อมูลต่างๆได้ ในทุกกรณีที่ต้องการ

"คงไม่เป็นที่แปลกใจว่า ทำไมอาณาจักรดิวตี้ฟรีของบริษัท คิงเพาเวอร์ ถึงยังผูกขาดได้ ทนต่อแรงกระแทกต่างๆได้หรือเป็นเพราะสังคมของเราเป็นแบบไทยไทย บุญคุณต้องทดแทน เรื่องของพี่น้องไม่ยุ่ง"
กำลังโหลดความคิดเห็น