“บุญสร้าง” นำประชุมคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ “สมคิด” เผยถกโครงสร้าง สตช. แจงโยกย้าย ระบุมี 2 กรอบใหญ่ พร้อมทำให้เร็วสุด ยัน กก.ตั้งใจ แต่สุดท้ายอยู่ที่ฝ่ายปฏิบัติ บอกทำไม่เหมือนแบบทหาร
วันนี้ (14 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.00 น. พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) เป็นประธานการประชุมฯ โดยนายสมคิด เลิศไพฑูรย์ โฆษกคณะกรรมการฯ กล่าวก่อนการประชุม ว่าที่ประชุมจะหารือถึงโครงสร้างของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ว่าจะปรับเปลี่ยนอย่างไรบ้าง และเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายซึ่งจะต้องทำความเข้าใจให้ตรงกันเนื่องจากกรรมการในชุดดังกล่าวไม่ได้มาจากตำรวจทุกคนจึงไม่รู้รายละเอียดทั้งหมด โดยจะต้องมีการพูดคุยกันในระดับคณะกรรมการฯ ก่อน เพื่อให้อนุกรรมการสามารถทำงานได้ ส่วนเรื่องการทำงานของอนุกรรมการขณะนี้ พล.อ.บุญสร้างขอให้ไปหาคนมาก่อน และคณะกรรมการฯ ใครจะสมัครลงอนุกรรมการฯไหนก็ได้ อย่างไรก็ตาม เรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายจะพยายามดำเนินการตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุว่าถ้าทำได้ในช่วงนี้ก็ให้ทำเลย
เมื่อถามว่า ทั้งเรื่องโครงสร้างและเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายเริ่มมีแนวทางอย่างไรบ้าง นายสมคิดกล่าวว่า ยังต้องคุยกันก่อน แต่มีอยู่ 2 กรอบใหญ่ คือ 1. รัฐธรรมนูญปี 2560 กำหนดเรื่องการปฏิรูปไว้ เช่น เรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายให้ยึดอาวุโส และ 2. ในการหารือกับนายกฯ ได้ให้ข้อมูลไว้ ซึ่งเราในฐานะฝ่ายปฏิบัติต้องไปดูให้สอดคล้องกับทั้ง 2 แนวทาง และจะทำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนจะมีแนวทางให้กับภาคประชาชนที่เคลื่อนไหวเรื่องการปฏิรูปตำรวจเข้ามามีส่วนร่วมหรือไม่นั้น เรายินดีรับฟังไม่มีปัญหาอะไร โดยจะมีอนุฯ ว่าด้วยการมีส่วนร่วมที่จะรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในช่วงหลังด้วย ยืนยันว่าจะไม่ทิ้งความคิดเห็นของประชาชน
เมื่อถามต่อว่า มองว่าการปฏิรูปตำรวจมีความยากตรงไหน นายสมคิด กล่าวว่า มีข้อเสนอมาหลายข้อเสนอ แต่ยังไม่มีการนำไปปฏิบัติที่เป็นจริง เช่น ข้อเสนอของนายคณิต ณ นคร อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย และ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ ซึ่งข้อเสนอเหล่านั้นอาจไม่ตรงใจทุกคน แต่ตนเชื่อว่าหลายข้อเสนอเป็นข้อเสนอที่ดี
“วันนี้คนอาจยังไม่มั่นใจคณะกรรมการชุดนี้ว่าเอาจริงเอาจัง แต่ยืนยันว่าองค์ประกอบของคนที่มาเป็นกรรมการมีความตั้งใจทำงานและอยากให้งานสำเร็จ และสุดท้ายขึ้นอยู่กับฝ่ายปฏิบัติและฝ่ายนโยบายว่าจะเอาแนวคิดในเรื่องตำรวจไปทำอย่างไรบ้าง เชื่อว่าจะประสบความสำเร็จไม่มากก็น้อย ส่วนที่หลายฝ่ายมองว่าโครงสร้างปฏิรูปตำรวจเป็นโครงสร้างของทหารนั้น ผมเห็นว่าไม่เหมือน” นายสมคิดกล่าว