นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ เปิดเผยว่า คณะกรรมการปฏิรูปตำรวจมีการประชุมในวันนี้ (14 ก.ค.) โดยเป็นการหารือใน 2 วาระ คือ ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อธิบายโครงสร้างของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และขั้นตอนการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ เนื่องจากคณะกรรมการทั้ง 36 คน ไม่ได้เป็นตำรวจทั้งหมด จึงไม่เข้าใจเรื่องโครงสร้างและขั้นตอนการแต่งตั้ง และจะมีการหารือเพื่อวางกรอบการทำงานให้กับคณะอนุกรรมการทั้ง 5 ด้าน โดยยึดตามรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดให้การแต่งตั้งโยกย้ายต้องยึดหลักอาวุโส รวมถึงข้อเสนอของนายกรัฐมนตรี ที่เขียนด้วยลายมือตัวเองจำนวน 13 หน้า ก่อนจะมอบการแนวทางการดำเนินงานดังกล่าวให้คณะอนุกรรมการไปเริ่มปฏิบัติงาน ทั้งนี้ เพื่อให้มีความสอดคล้อง พร้อมยืนยันจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
โฆษกคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ ยืนยันว่า จะเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นผ่านอนุกรรมการรับฟังความเห็นที่จะลงไปทำงานทันที รวมทั้งมีแนวคิดให้เปิดช่องทางรับฟังผ่านโซเชียลมีเดีย ทั้งเฟชบุ๊ก และไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกและเปิดกว้างให้คนได้แสดงความคิดเห็น จากนั้นจะนำผลการศึกษาไปรับฟังความคิดเห็นประชาชนอีกครั้ง เพื่อปรับปรุง
นายสมคิด ยอมรับว่า ความยากของการปฏิรูปตำรวจ คือ ข้อเสนอก่อนหน้านี้ ทั้งของ พล.ต.อ. วสิษฐ เดชกุญชร อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ และนายคณิต ณ นคร ไม่เคยถูกนำมาปฏิบัติจริง ดังนั้น จึงไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่จะไม่มั่นใจในตัวคณะกรรมการชุดนี้ว่าจะทำได้สำเร็จ แต่ยืนยันว่าคณะกรรมการทุกคนมีความตั้งใจ และเชื่อว่าการปฏิรูปตำรวจจะสำเร็จไม่มากก็น้อย อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับผู้ปฏิบัติด้วย ว่าจะนำผลการศึกษาของคณะกรรมการชุดนี้ไปดำเนินการหรือไม่
ส่วนเรื่องโครงสร้างตำรวจที่หลายฝ่ายเห็นว่ามีลักษณะคล้ายกับทหารนั้น นายสมคิด กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าไม่เหมือน และที่ประชุมยังไม่ได้มีการหารือเรื่องนี้ แต่นายกรัฐมนตรีได้ให้แนวทางเกี่ยวกับการกระจายอำนาจว่าอยากให้ตำรวจลองไปทำงานร่วมกับจังหวัดดู ซึ่งคงต้องรอที่ประชุมพิจารณาว่าจะเห็นด้วยหรือไม่
โฆษกคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ ยืนยันว่า จะเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นผ่านอนุกรรมการรับฟังความเห็นที่จะลงไปทำงานทันที รวมทั้งมีแนวคิดให้เปิดช่องทางรับฟังผ่านโซเชียลมีเดีย ทั้งเฟชบุ๊ก และไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกและเปิดกว้างให้คนได้แสดงความคิดเห็น จากนั้นจะนำผลการศึกษาไปรับฟังความคิดเห็นประชาชนอีกครั้ง เพื่อปรับปรุง
นายสมคิด ยอมรับว่า ความยากของการปฏิรูปตำรวจ คือ ข้อเสนอก่อนหน้านี้ ทั้งของ พล.ต.อ. วสิษฐ เดชกุญชร อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ และนายคณิต ณ นคร ไม่เคยถูกนำมาปฏิบัติจริง ดังนั้น จึงไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่จะไม่มั่นใจในตัวคณะกรรมการชุดนี้ว่าจะทำได้สำเร็จ แต่ยืนยันว่าคณะกรรมการทุกคนมีความตั้งใจ และเชื่อว่าการปฏิรูปตำรวจจะสำเร็จไม่มากก็น้อย อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับผู้ปฏิบัติด้วย ว่าจะนำผลการศึกษาของคณะกรรมการชุดนี้ไปดำเนินการหรือไม่
ส่วนเรื่องโครงสร้างตำรวจที่หลายฝ่ายเห็นว่ามีลักษณะคล้ายกับทหารนั้น นายสมคิด กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าไม่เหมือน และที่ประชุมยังไม่ได้มีการหารือเรื่องนี้ แต่นายกรัฐมนตรีได้ให้แนวทางเกี่ยวกับการกระจายอำนาจว่าอยากให้ตำรวจลองไปทำงานร่วมกับจังหวัดดู ซึ่งคงต้องรอที่ประชุมพิจารณาว่าจะเห็นด้วยหรือไม่