ปธ.กก.ปฏิรูป ตร.ลั่นโยกย้ายต้องเสร็จ ธ.ค. ที่ประชุมยังไม่ยุติปมโครงสร้าง แนะแยกบางด้านออก

โฆษกคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ เผยที่ประชุมพบอัตราตำรวจยังว่างนับหมื่นเก้าอี้ ยังไม่ยุติปมโครงสร้าง แนะแยกตำรวจบางด้านออก ระบุ “บุญสร้าง” สั่งเรื่องโยกย้ายต้องเสร็จก่อนสิ้นปี ตั้งอธิการบดีนิด้าเป็นโฆษกเพิ่ม ด้าน ปธ.ให้อนุฯ ทำผังงาน ไม่เร่งรัดปรับปรุงโครงสร้าง

วันนี้ (14 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 12.30 น. นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ โฆษกคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ กล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีการหารือกัน 2 เรื่องใหญ่ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้นำเสนอข้อมูลเรื่องโครงสร้างและการบริหารงานบุคคลของตำรวจ ขณะนี้มีอัตราตำแหน่งประมาณ 3 แสนคน แต่บรรจุจริงได้ 210,000-220,000 ตำแหน่ง ยังขาดตำแหน่งอีกหลายที่ นอกจากนี้ สตช.ยังให้ข้อมูลการแต่งตั้งโยกย้ายปัจจุบันว่าเป็นอย่างไรบ้าง จากนั้นได้มีการสนทนาธรรมเรื่องการจัดโครงสร้างและบริหาร งานบุคคล รวมถึงเรื่องอำนาจหน้าที่ ซึ่งยังไม่มีข้อยุติใดๆ ที่ประชุมได้อภิปรายเรื่องอำนาจหน้าที่ตำรวจว่ามีมากเกินไปหรือไม่ เพราะงบประมาณที่ได้ในปัจจุบันค่อนข้างน้อย ตำรวจชั้นประทวนมีเงินเดือนน้อย สถานีตำรวจจำนวนมากยังมีปัญหา งบประมาณไม่พอ จึงเป็นปัญหาและอยากให้ตำรวจมีหน้าที่เฉพาะด้านของตนเอง มีข้อเสนอว่าเป็นไปได้หรือไม่ให้เอาอำนาจตำรวจบางอย่างออกไป เช่น ตำรวจจราจร ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจรถไฟ เป็นต้น

นายสมคิดกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีเรื่องการตั้งคณะอนุกรรมการ โดยกรรมการแต่ละคนจะลงไปอยู่ในชุดใดบ้างและมีงานใดบ้าง เช่น อนุกรรมการด้านวิชาการได้ขอให้ไปศึกษาเรื่องการปรับโครงสร้าง อำนาจหน้าที่ การโยกย้าย ในอดีตจนถึงปัจจุบันมีข้อเสนอแนะและการศึกษาจากชุดใดบ้าง ให้นำมาดูทั้งหมด และศึกษาเปรียบเทียบกับต่างประเทศ เช่น อังกฤษ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส ประเทศเหล่านี้มีการเมืองการปกครองอย่างไร และระบบตำรวจเป็นอย่างไร ขณะเดียวกัน พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ ระบุว่าการแต่งตั้งโยกย้ายต้องเสร็จภายในเดือน ธ.ค.สำหรับการประชุมครั้งหน้าในวันที่ 19 ก.ค.เวลา 14.00 น.ที่ สตช. สำหรับการรับฟังความเห็นประชาชนมีอนุกรรมการอยู่ เราจะไปรับฟังทุกที่ มีหลายที่เชิญมา ขณะเดียวกัน ที่ประชุมยังแต่งตั้งนายประดิษฐ์ วรรณรัตน์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เป็นโฆษกอีก 1 คน

ขณะที่ พล.อ.บุญสร้าง ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า ตนได้กำชับคณะอนุกรรมการทั้ง 5 คณะไปจัดทำผังงานที่สามารถดูได้อย่างละเอียดในเรื่องของการปฏิรูปตำรวจของแต่ละองค์กร แต่ละประเทศ หรือแนวทางของแต่ละคนที่มีการศึกษามาเป็นอย่างไร มาจัดทำข้อมูลเป็นตารางวิชาการ หรือที่เรียกว่า “แมทริกซ์” ที่ประกอบด้วยหัวข้อหลัก เแหล่งที่มาของข้อมูล ส่วนเรื่องของการปรับปรุงโครงสร้าง สตช.และหลักเกณฑ์การแต่งตั้งโยกย้าย ได้ให้การบ้านไปว่า ยังไม่ต้องเร่งรัดด่วนสรุปตกผลึกมา แต่ให้หาข้อมูลมาให้ได้มากที่สุด เพราะถึงอย่างไรทำทันตามเวลาที่กำหนดอยู่แล้ว สำหรับแนวทางการปรับปรุงหลักเกณฑ์การแต่งตั้งโยกย้ายนั้น ได้ให้แนวทางไปว่า อย่างน้อยต้องไม่กระทบต่อการโยกย้ายในปีนี้ และถึงอย่างไรก็ทำไม่ทันการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจในปีนี้อยู่แล้ว เพราะตามกำหนดการวางหลักเกณฑ์การแต่งตั้งโยกย้ายให้แล้วเสร็จในเดือน ธ.ค. 60 เป็นเรื่องที่จะนำไปใช้ในอนาคต ส่วนเรื่องของระยะเวลาของการทำงานของคณะกรรมการฯ ยังคงเดิมตามสูตร 2-3-4 ตามที่นายกรัฐมนตรีให้ไว้