xs
xsm
sm
md
lg

มท.เล็งแก้ กม. “เบี้ยคนพิการ-คนชรา” รองรับอี-เพย์เมนต์ เผยปี 61 ใช้เกณฑ์เดิม คนพิการ 800/เดือน คนชราสูงสุด 90 ปี รับ 1 พัน/เดือน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


มท.เล็งแก้กฎหมาย “เบี้ยคนพิการ-คนชรา” รองรับระบบอี-เพย์เมนต์ โอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคาร ไม่ต้องส่งเงินสดผ่าน อปท. ป้องกันข้อครหา คาดโอนเข้าบัญชีเงินฝากทันทีในไตรมาสสุดท้ายปี 60 เผยหนังสือแจ้ง อบต.-เทศบาลซักซ้อมจัดงบเบี้ยคนพิการ-คนชราปี 2561 ยังใช้เกณฑ์เดิมคนพิการ 800 บาท/เดือน คนชราตามขั้นบันไดสูงสุด ครบ 90 ปี รับเบี้ย 1,000 บาท ส่วนข้อเสนอเพิ่มเบี้ยคนชรา 1,200-1,500 เพิ่งถึงมือ “รองฯ สมคิด”

วันนี้ (22 มิ.ย.) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นายจรินทร์ จักกะพาก อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมกับ น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง ประชุมหารือแนวทางการจ่ายเงินในส่วนของเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายสนับสนุนการสร้างหลักประกันด้านรายได้แก่ผู้สูงอายุ และรายการเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายสนับสนุนสวัสดิการสังคมให้แก่ผู้พิการและทุพพลภาพ ตามโครงการบูรณาการสวัสดิการสังคมภายใต้แผนยุทธศาสตร์การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ หรืออี-เพย์เมนต์ เพื่อป้องกันการทุจริตที่เคยเกิดขึ้น

โดยผลการหารือ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นจะเสนอให้มีการปรับปรุงแก้ไขระเบียบต่างๆ ของกระทรวงมหาดไทย เช่น ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพของ อปท. พ.ศ. 2548 ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุของ อปท. พ.ศ. 2552 และจัดทำระบบเพื่อรองรับการจ่ายเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารให้แก่ผู้มีสิทธิรับเงินทั้ง 2 ส่วนได้โดยตรงทั้งหมด แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) คาดว่าจะดำเนินการได้ทันภายในไตรมาสสุดท้ายของปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 ขณะที่กรมบัญชีกลางขอให้กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นประสานงานเพื่อติดตั้งเครื่องชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือเครื่องอีดีซี ให้เสร็จก่อนสิ้นปีงบประมาณ 2560 เพราะงบประมาณ 2561 จะเริ่มรับ-จ่ายเงินผ่านเครื่องอีดีซีตามแผนอี-เพย์เมนต์ภาครัฐ

มีรายงานว่า ล่าสุดกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นได้แจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อแจ้งซักซ้อมให้ อปท.(เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล) ทั่วประเทศถึงแนวทางการตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 ในส่วนของเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายสนับสนุนการสร้างหลักประกันด้านรายได้แก่ผู้สูงอายุ และรายการเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายสนับสนุนสวัสดิการสังคมให้แก่ผู้พิการและทุพพลภาพ โดยขอให้ เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล จัดทำแผนพัฒนาสี่ปี และตั้งงบประมาณ ในข้อบัญญัติ/เทศบัญญัติ รายรับในหมวดเงินอุดหนุนทั่วไป รวมถึงรายจ่ายในหมวดงบกลางประเภทเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเงินเบี้ยความพิการ

สำหรับเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายสนับสนุนสวัสดิการสังคมให้แก่ผู้พิการและทุพพลภาพ (เบี้ยเงินความพิการ) ยังกำหนดให้คนพิการได้รับสิทธิรับเบี้ยความพิการคนละ 800 บาท/เดือน (ตามมติ ครม.25 พ.ย. 57) ยกเว้นแต่ในส่วนของเงินเพิ่มเติมที่ อปท. ดำเนินการตาม ข้อ 18 (2) แห่งระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพของ อปท. พ.ศ. 2548 ที่ได้ดำเนินการให้กับรายเดิมก่อน โดยให้ใช้ฐานข้อมูลจำนวนคนพิการตามบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินเบี้ยคนพิการประจำปีงบประมาณ 2561 โดยคำนวณจากอัตราเฉลี่ยการเพิ่มขึ้น 3 ปีย้อนหลัง และข้อมูลจำนวนคนพิการที่ได้บันทึกในระบบสารสนเทศการจัดการฐานข้อมูลเบี้ยยังชีพของ อปท.จากประกาศบัญชีรายชื่อ

ส่วนเงินสนับสนุนการสร้างหลักประกันด้านรายได้แก่ผู้สูงอายุ (เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ) เพื่อรองรับผู้สูงอายที่มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุของ อปท. พ.ศ. 2552 และได้ขึ้นทะเบียนขอรับเงินเบี้ยยังชีพไว้กับ อปท.ไว้แล้ว โดยจ่ายอัตราเบี้ยยังชีกรายเดือนแบบขั้นบันได สำหรับผู้สูงอายุ 60-69 ปี จะได้รับ 600 บาท อายุ 70-79 ปี จะได้รับ 700 บาท อายุ 80-89 ปี จะได้รับ 800 บาท และอายุ 90 ปีขึ้นไป จะได้รับ 1,000 บาท เว้นแต่ในส่วนของเงินเพิ่มเติมที่ อปท. ดำเนินการข้อ 18 (2) แห่งระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพของ อปท. พ.ศ. 2548 ที่ได้ดำเนินการให้กับรายเดิมก่อน โดยให้ใช้ฐานข้อมูลจำนวนผู้สูงอายุตามบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินเบี้ยผู้สูงอายุประจำปีงบประมาณ 2561 โดยคำนวณจากอัตราเฉลี่ยการเพิ่มขึ้น 3 ปีย้อนหลัง และข้อมูลจำนวนผู้สูงอายุที่ได้บันทึกในระบบสารสนเทศการจัดการฐานข้อมูลเบี้ยยังชีพของ อปท.จากประกาศบัญชีรายชื่อ

มีรายงานว่า สำหรับแนวคิดการเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเป็นรายละ 1,200-1,500 บาทนั้น ขณะนี้กระทรวงการคลังได้เสนอแนวทางการเพิ่มเบี้ยคนชราให้ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยให้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีพิจารณาแล้ว เมื่อเดือน พ.ค. 2560 ที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีการนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่อย่างใด
กำลังโหลดความคิดเห็น