โฆษกรัฐบาลยันแก้ พ.ร.บ.ประกันสุขภาพฯ 14 ประเด็น ไม่กระทบสิทธิหรือสวัสดิการดูแล ปชช. ยอมรับจับประเด็นผิดไปบอกว่า รมว.สธ.ซื้อยาลดราคาแล้วจะนำเงินหนุน NGO พร้อมขออภัย รอ สธ.หาทางแก้ปมเวทีประชาพิจารณ์ป่วน วอนเปิดใจรับฟังความเห็นเป็นรากฐาน ปชต. ย้ำยึด กม. ยังไม่กล้าบอกฝีมือใครป่วน
วันนี้้ (22 มิ.ย.) เวลา 12.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการคัดค้านการแก้ไข พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (30 บาทรักษาทุกโรค) ว่า รมว.สาธารณสุข ยืนยันว่าการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายมีประเด็นที่แตกต่างจากฉบับเติมอยู่ 14 ประเด็น โดยไม่มีประเด็นใดส่งผลกระทบต่อสิทธิหรือสวัสดิการการดูแลประชาชนให้ลดน้อยถอยลง ประชาชนทุกคนยังจะได้รับการบริการจากรัฐเหมือนเดิมตามกฎกติกาของบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรค โดยใน 14 ประเด็นนี้มุ่งไปที่การแก้ไขการบริหารจัดการขององค์กร ทั้งกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)
“อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผมได้ชี้แจงว่า เมื่อแก้ไขกฎหมายแล้วการซื้อยาของ สปสช.ในจำนวนมากจะได้ราคาที่ลดลง ราคาที่ลดลงนี้จะสนับสนุนบทบาทภารกิจของ NGO ที่ร้องขอมา ส่งผลให้เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. รมว.สาธารณสุขได้โทร.มาคุยกับผม พร้อมเรียนเรื่องนี้กับนายกรัฐมนตรี โดย รมว.สาธารณสุขยืนยันว่าไม่ได้พูดว่าเมื่อซื้อยาที่ได้ลดราคาแล้วจะนำเงินไปสนับสนุนงานของ NGO ผมได้ฟังเรื่องนี้จากหลายคนเพราะเป็นเรื่องที่หลายฝ่ายให้ความสนใจ จึงเป็นการจับประเด็นที่ผิดพลาดของผมเอง จนทำให้คำนี้เหมือนจะออกมาจากปากของ รมว.สาธารณสุข และคงท่านก็ได้รับผลกระทบถูกกดดันพอสมควร จึงขออภัยที่ทำให้ได้รับผลกระทบด้วย” พล.ท.สรรเสริญกล่าว
เมื่อถามว่า เวทีประชาพิจารณ์ที่มีปัญหานั้นกระทรวงสาธารณสุขจะเดินหน้าอย่างไร พล.ท.สรรเสริญกล่าวว่า รมว.สาธารณสุขยังไม่ได้ระบุถึงแนวทางต่อไป ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการทำประชาพิจารณ์ และรัฐบาลเองก็ไม่ควรออกความคิดเห็นอะไรมากเพราะจะกลายเป็นการตั้งธงไว้ตั้งแต่ต้น จึงต้องรอให้ทางกระทรวงสาธารณสุขได้คิดแก้ไขปัญหา ด้วยวิธีการของตัวเอง พร้อมทำความเข้าใจต่อประชาชน ซึ่งสุดท้ายรัฐบาลจะต้องฟังผลการทำประชาพิจารณ์ว่าความเห็นของประชาชนทั่วประเทศนั้นมีความเห็นใดบ้างที่จะต้องนำมาปรับแก้ให้ตรงกับความต้องการของประชาชน สามารถแก้ไขปัญหาได้จริง
พล.ท.สรรเสริญกล่าวว่า ส่วนการล้มเวทีประชาพิจารณ์ในหลายภาค ขอเรียนว่าเวลานี้เรากำลังเดินหน้าสู่การเลือกตั้งตามโรดแม็พ การเปิดใจยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นถือเป็นเรื่องสำคัญเป็นรากฐานของระบอบประชาธิปไตย แม้ว่ารัฐบาลนี้จะไม่ใช่รัฐบาลประชาธิปไตย แต่เราพร้อมจะรับฟังความเห็น จึงขอวิงวอนไปยังทุกภาคส่วนว่าเมื่อเปิดเวทีประชาพิจารณ์หรือให้ข้อมูลอะไรก็แล้วแต่ ทุกคนมีสิทธิเห็นต่าง สามารถนำเสนอได้ในมุมของตัวเอง แต่ไม่ควรจำกัดสิทธิของผู้อื่นและคิดว่าการล้มเวทีประชาพิจารณ์ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ส่วนจะดำเนินการอย่างไรจะต้องยึดบรรทัดฐานของกฎหมายเป็นหลัก
เมื่อถามว่า รัฐบาลคิดว่าที่พยายามล้มเวทีประชาพิจารณ์เป็นคนกลุ่มใด ใช่กลุ่ม NGO ที่เสียประโยชน์หรือไม่ พล.ท.สรรเสริญกล่าวว่า ไม่กล้าบอกว่าเป็นใคร แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งอยู่ในพื้นที่ได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดไว้แล้ว จึงขอฝากผู้ที่กระทำการว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินเนินการไปตามกระบวนการกฎหมาย