สปท.ถกปม “สังศิต” เจอ ผบ.ตร.ฟ้องหมิ่นประมาทฐานเสวนามีตำรวจไทยมีไว้ทำอะไร “วันชัย” ชี้พูดปฏิรูป ตร.สอดคล้องนายกฯ ไม่เห็นใส่ร้าย จี้ประธานแสดงออกปกป้องสมาชิก เชื่อสู้คดีได้ ด้านประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชัน แนะเปิดใจกว้างรับฟัง ส่วน “เสรี” คาดพูดหวังองค์กรดีขึ้น พร้อมประสานเคลียร์ “จักรทิพย์” ขณะที่เจ้าตัวปัดไม่พอใจส่วนตัว แต่อยากให้ไทยคุมทุจริตได้ บอกจ้อตามหลักการ “ทินพันธุ์” ชงคุยวิป สปท.พฤหัสฯ นี้
วันนี้ (12 มิ.ย.) ที่รัฐสภา การประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ร.อ.ทินพันธุ์ นาคะตะ ประธาน สปท.ทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม ทั้งนี้ ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม นายวันชัย สอนศิริ สมาชิก สปท.ได้ขอหารือกรณีที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) แจ้งความดำเนินคดีต่อนายสังศิต พิริยะรังสรรค์ สมาชิก สปท. ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กรณีพูดในวงเสวนา “ตำรวจไทย มีไว้ทำอะไร” ขององค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เมื่อวันที่ 26 ม.ค.
โดยนายวันชัยกล่าวว่า ที่ผ่านมานายสังศิตเคยอภิปรายเกี่ยวกับการปฏิรูปตำรวจหลายครั้ง และได้รับการแต่งตั้งจากนายกรัฐมนตรีให้ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการต่อต้านคอร์รัปชัน ถือว่าน่าภาคภูมิใจในฐานะที่เป็นสมาชิกด้วยกัน ส่วนการอภิปรายของนายสังศิตในงานเสวนาดังกล่าวเป็นการพูดในลักษณะกระจายอำนาจไปสู่จังหวัด ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าสอดคล้องกับแนวคิดของนายกฯ เรื่องการปฏิรูปตำรวจ และไม่มีส่วนใดหมิ่นประมาทหรือใส่ร้ายแต่ประการใด แต่ปรากฏว่า สตช.ได้ฟ้องร้องดำเนินคดีต่อนายสังศิต ตนเห็นว่าสมาชิกทุกคนคือครอบครัวเดียวกัน เมื่อได้รับผลกระทบจากการทำหน้าที่จึงอยากให้ประธานฯ แสดงออกในลักษณะปกป้องคุ้มครองสมาชิก ตนเชื่อว่าภาวะผู้นำของประธานฯ น่าจะเป็นประโยชน์ และเป็นกำลังใจได้ แม้ว่านายสังศิตจะเดินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ตนเชื่อว่าสามารถสู้คดีได้ แต่เหตุใดเราต้องปล่อยให้นายสังศิตไปฝ่าฟันสู้คดีในเรื่องที่ท่านทำหน้าที่โดยสุจริต
ด้านนายประมนต์ สุธีวงศ์ สมาชิก สปท. และประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชัน กล่าวว่า องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันจัดเสวนาเกี่ยวกับธรรมาภิบาลมาตลอด งานเสวนาหัวข้อ “ตำรวจไทย มีไว้ทำอะไร” มีการเชิญผู้ร่วมอภิปรายจากหลายองค์กร โดยนายสังศิตอยู่ในส่วนนักวิชาการ เท่าที่ฟังเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ที่มีเหตุผล เพราะการที่หน่วยงานราชการที่ให้บริการประชาชนจะถูกวิจารณ์ถือเป็นเรื่องสำคัญเพื่อนำไปสู่การปฏิรูป ควรเปิดใจกว้างที่จะรับฟัง
เช่นเดียวกับนายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิก สปท.ชี้แจงว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการทำหน้าที่ของสมาชิกในการเสนอความเห็น ตนเชื่อว่ามีเจตนาสุจริตที่ต้องการให้องค์กรตำรวจดีขึ้น ไม่ได้ต้องการให้เกิดความเสื่อมเสียแต่อย่างใด แต่เมื่อการทำหน้าที่ของสมาชิกเกิดปัญหา เราคงละเลยไม่ได้ ตนในฐานะที่เป็นสมาชิก และประธาน กมธ.ขับเคลื่อนการปฏิรูปด้านการเมือง สปท.ซึ่งอยู่ใน กมธ.เดียวกันกับนายสังศิตจะรับไปประสานกับ ผบ.ตร.เพื่อทำความเข้าใจและหาข้อยุติไม่ให้เกิดปัญหามากกว่านี้
ด้านนายสังศิตกล่าวว่า ขอบคุณสมาชิกที่หารือเรื่องดังกล่าว โดยตั้งแต่จบการศึกษาระดับปริญญาเอกมานั้นตนไม่เคยหยุดพูดเรื่องการปฏิรูปตำรวจเลย แต่ยืนยันว่าไม่ได้ขัดแย้งหรือไม่พอใจเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นการส่วนตัว ทั้งนี้ ตนได้รับแรงบันดาลใจอยากจะปรับปรุงบ้านเมืองมาจากการอ่านตำราวิชาการเรื่อง “การก่อตัวขึ้นของรัฐเยอรมันสมัยใหม่”
“ผมอยากให้รัฐไทยเป็นรัฐสมัยใหม่ที่ควบคุมการทุจริตได้ ผมไม่เชื่อว่าการทุจริตจะกวาดล้างได้จริง แต่เราต้องควบคุมคอร์รัปชันเอาไว้ ไม่ควรเอาชนะทุจริตแบบเบ็ดเสร็จ ทุกครั้งที่ได้รับเกียรติไปบรรยายเกี่ยวกับปัญหาตำรวจ ตระหนักอยู่เสมอว่าต้องพูดในหลักการ ไม่ดูหมิ่นใคร หรือพูดพาดพิงกระแนะกระแหนใครคนใดคนหนึ่ง ไม่ได้ต้องการอะไรมากจากองค์กรตำรวจ เพียงขอให้องค์กรดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากขึ้นกว่าเดิมเพียงนิดเดียว ผมก็จะเลิกพูดเรื่องนี้ และคงนอนตายตาหลับ” นายสังศิตกล่าว
ขณะที่ ประธาน สปท.กล่าวว่า ขอให้กำลังใจแก่นายสังศิต และจะนำเรื่องดังกล่าวพิจารณาในการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (วิป สปท.) ในวันที่ 15 มิ.ย.นี้