“สุริยะใส” เผยไม่แปลกใจ กมธ.สนช.เซตซีโร่ กกต. เหตุโยนหินถามทางมาเป็นระยะ แนะปฏิรูป กกต.3 ระดับ ขยายองค์ประกอบ เพิ่มหน้าที่ และบังคับเขียนคำวิจฉัยส่วนตนคล้ายศาล รธน.
วันนี้ (4 มิ.ย.) นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต และ ผอ.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) เผยว่าไม่แปลกใจที่กรรมาธิการวิสามัญฯ สนช.มีมติเสียงข้างมากให้เซตซีโร่คณะกรรมการเลือกตั้ง หรือ กกต.ทั้งชุด 5 คน เพื่อสรรหากันใหม่ทั้งคณะตามรัฐธรรมนูญใหม่ที่มี กกต.ได้ 7 คน ซึ่งประเด็นเชตซีโร่ กกต.โยนหินถามทางกันมาเป็นระยะก่อนหน้านี้แล้ว แต่ กมธ.วิสามัญฯ ต้องอธิบายประชาชนว่าทำไมต้องเซตซีโร่ และที่สำคัญจะทำให้ประชาชนมั่นใจว่า กกต.ชุดใหม่จะดีกว่า กกต.ชุดปัจจุบันได้อย่างไร ไม่ใช่เปลี่ยนคนทั้งชุดแล้วจะทำให้ กกต.ดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งปัญหา กกต.ที่ผ่านมาปัญหาตัวบุคคลก็ส่วนหนึ่งแต่ปัญหาเชิงระบบหรือองค์กรก็เป็นปัญหาที่ต้องสังคายนากันใหม่
โดยเฉพาะการปฏิรูปจุดอ่อนของ กกต.ทั้ง 3 ระดับ ตั้งแต่ระดับต้นน้ำ ที่ต้องทำให้กระบวนการสรรหาอิสระจากกลุ่มการเมือง ป้องกันการบล็อกโหวต โปร่งใส มีความหลากหลาย และมีประสบการณ์จริง ไม่ใช่มีแค่นักกฎหมาย องค์ประกอบควรกว้างกว่าเดิม ในระดับกลางน้ำต้องถือหลักธรรมาภิบาล ทั้งเรื่องของการสอบสวนข้อร้องเรียนทุจริตเลือกตั้งว่าจะปลอดจากการแทรกแซงของกลุ่มอิทธิพลการเมืองได้อย่างไร กรรมการสอบสวนต้องเที่ยงธรรมไม่ใช่นอมินี กระบวนการทำงานไม่ใช่ทำหน้าที่แค่ตอนเลือกตั้ง โดยเฉพาะการแสวงหาความร่วมมือกับภาคประชาสังคมเพื่อสร้างเครือข่ายต่อต้านทุจริตเลือกตั้ง และการสร้างความเป็นพลเมืองให้ประชาชนมีสำนึกประชาธิปไตย
ส่วนในระดับปลายน้ำ มติหรือคำวินิจฉัยของ กกต.ทั้งการให้ใบเหลือง และใบแดง ต้องตรวจสอบได้และมีความโปร่งใสมากกว่าเดิม เพราะ กกต.ถือทั้งอำนาจสอบสวนและอำนาจตัดสินชี้ขาด จึงต้องทำให้อำนาจการตัดสินชี้ขาดเป็นเหตุเป็นผลที่สุด โดยอาจเอากระบวนการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมาเป็นแบบอย่าง กำหนดให้ กกต.ต้องเขียนคำวินิจฉัยส่วนตนและคำวินิจฉัยกลางแล้วเปิดเผยต่อสาธารณะกรณีตัดสินให้ใบแดงผู้สมัคร อย่าลืมว่าระบบเลือกตั้งแบบใหม่คะแนนผู้สมัครทุกคนทุกคะแนนคือคะแนนของทุกพรรคการเมืองในระบบบัญชีรายชื่อด้วย