“สมชัย” รับมติ กมธ.วิฯ กฎหมายลูก กกต.สั่งเซตซีโร่กรรมการการเลือกตั้งยกชุด ยิ่งกว่าเลวร้ายที่สุด แต่ก็ขอบคุณให้ทำงานต่อจนได้ชุดใหม่ ไม่เข้าใจบางคนคุณสมบัติครบแต่ทำไมถึงเอาออก ดักคอไม่มีคนไหนชิงลาออกแน่ แย้มกลับพีเน็ตเมื่อพ้นเก้าอี้ ยังไม่ชัวร์ส่งความเห็นแย้ง สนช.หรือไม่ เชื่อองค์กรอื่นไม่โดนโละ
วันนี้ (2 มิ.ย.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติให้เซตซีโร่ กกต.ทั้ง 5 คนว่า เรื่องนี้เป็นสถานการณ์ที่เรียกว่ายิ่งกว่าสถานการณ์เลวร้ายที่สุดที่ตนเคยประเมินไว้ว่าอาจจะมีกรรมการที่ขัดคุณสมบัติต้องพ้นตำแหน่งแต่กรรมการที่คุณสมบัติครบก็ทำหน้าที่ต่อ แต่การที่ กมธ.มีมติให้เซตซีโร่ทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องที่เกินความคาดคิด แต่ก็ต้องขอขอบคุณ กมธ.ที่ยังให้ กกต.ชุดนี้ทำหน้าที่รักษาการต่อไปจนกว่าจะมี กกต.ชุดใหม่ คาดว่าจะมีเวลาทำงานที่เหลืออีก 4-6 เดือน ซึ่งในเวลานี้เราต้องทำงานให้เต็มที่และเตรียมการที่ดีที่สุด ส่งมอบงานที่สมบูรณ์ที่สุดให้ กกต.ชุดใหม่ ตระเตรียมระบบงานองค์กรให้มีประสิทธิภาพมีความพร้อม อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า กกต.ชุดนี้จะทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งจนถึงการทำงานวันสุดท้าย ไม่มีการอู้งาน
“กกต.มีความเห็นว่าเรื่องนี้เป็นกติกา เมื่อผู้ออกกฎหมายเห็นว่าเป็นแนวทางที่เป็นผลดี เราก็ยอมรับและต้องปฏิบัติตาม แต่ในแง่เหตุและผลผมมองว่าควรจะหาเหตุและผลให้ดีกว่านี้ เพราะการที่ กมธ.ให้เหตุผลว่าอำนาจ กกต.ตามรัฐธรรมนูญใหม่มีอำนาจมากขึ้นก็ต้องให้ กกต.ที่มีคุณสมบัติสูงมาทำหน้าที่ ซึ่ง กกต.ปัจจุบันหลายคนยังมีคุณสมบัติครบตามรัฐธรรมนูญใหม่ แต่ทำไมต้องให้ออกทั้งชุด ซึ่งผมรู้สึกว่าเป็นเหตุผลไม่เพียงพอ และกมธ.ก็จะต้องชี้แจงเรื่องนี้ให้ประชาชนเข้าใจว่าเหตุผลที่แท้จริงคืออะไร อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าวันที่ 9 มิ.ย.นี้ สนช.คงจะมีมติเป็นไปตามที่ กมธ.เสนอ ซึ่ง กกต.ไม่ได้คาดหวังว่า สนช.จะมีความเห็นต่างออกไปจาก กมธ.” นายสมชัยกล่าว
นายสมชัยกล่าวอีกว่า ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้จะเรียกประชุมผู้บริหาร และพนักงาน สำนักงาน กกต. เพื่อหารือว่าอะไรเป็นงานที่สำคัญอันดับต้นๆ และต้องเลือกทำให้สำเร็จ ซึ่งต้องยอมรับว่าระยะเวลาแค่นี้ไม่อาจทำทุกเรื่องได้ ต้องเลือกงานสำคัญที่เป็นกลไกสำคัญที่ทำให้การเลือกตั้งมีประสิทธิภาพ ก่อนส่งมอบงานให้ กกต.ชุดใหม่ ยืนยันว่าไม่มี กกต.คนใดน้อยใจและชิงลาออกในระยะเวลารักษาการแน่นอน เพราะนอกจากจะไม่แก้ปัญหาแล้ว ยังเป็นการเพิ่มปัญหา หากลาออกหลายคนอาจจะทำให้องค์ประชุมไม่ครบ ไม่สามารถประชุมได้ ดังนั้นด้วยความรับผิดชอบ กกต.ก็จะเดินหน้าทำงานต่อไปอย่างเต็มที่
นายสมชัยกล่าวอีกว่า ส่วนตนหลังจากพ้นตำแหน่ง กกต.ก็จะทำหน้าที่ตรวจสอบการเลือกตั้งในฐานะองค์กรเอกชนต่อไป ซึ่งก็จะหวนคืนสู่มูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย (พีเน็ต) และจะทำให้พีเน็ตเข้มแข็ง เพื่อตรวจสอบการเลือกตั้งในอนาคตให้สุจริตและเที่ยงธรรม และจะมีการประสานงานกับ กกต.ชุดใหม่ เพื่อให้การเลือกตั้งในอนาคตเกิดผลดีและมีประสิทธิภาพ
เมื่อถามว่า กกต.จะมีการทำความเห็นแย้งภายหลัง สนช.ผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวหรือไม่ นายสมชัยกล่าวว่า ตามกรอบเวลาหลังจากที่ สนช.มีมติผ่านกฎหมาย ก็จะต้องส่งร่างฯ ศาลรัฐธรรมนูญและ กกต.ภายใน 15 วัน หลังจากนั้นหากเราตรวจสอบแล้วพบว่ามีประเด็นสาระที่ขัดกับรัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงเรื่องของคุณสมบัติ ทาง กกต.ก็สามารถมีมติส่งเรื่องกลับไปยัง สนช.ภายใน 10 วัน โดยตามขั้นตอน สนช.ก็จะพิจารณาเพื่อดูว่าเป็นไปตามข้อเสนอของ กกต.หรือไม่ภายใน 30 วัน ส่วน กกต.จะยื่นความเห็นแย้งหรือไม่คงตอบไม่ได้ ต้องรอดูกฎหมายก่อน ซึ่งเราจะต้องดูรายละเอียดบนพื้นฐานและเหตุผล ไม่ใช่บนพื้นฐานของประโยชน์ส่วนตัว เพื่อให้ประเทศชาติเป็นสังคมนิติรัฐปกครองด้วยกฎหมายอย่างแท้จริง ต้องมองประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก
เมื่อถามต่อว่า มองว่าข้อเสนอเซ็ตซีโร่ครั้งนี้เป็นการตั้งธงไว้ตั้งแต่แรกหรือไม่ นายสมชัยกล่าวว่า ต้องไปถามเขาตนตอบไม่ได้ แต่ประเด็นที่เราเป็นห่วงแต่ก็คิดว่าจะไม่เกิดขึ้นคือ การดำเนินการดังกล่าวจะเป็นมาตรฐานกับองค์กรอิสระอื่นๆ หรือไม่ แต่องค์กรอื่นก็คงสบายใจได้ เพราะตนเชื่อว่ากฎหมายฉบับนี้จะใช้กับ กกต.เพียงองค์กรเดียว โดยอ้างว่า กกต.เป็นองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเลือกตั้งจึงต้องดำเนินการเรื่องนี้ แต่การร่างกฎหมายที่เป็นมาตรฐานจะต้องปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันทุกองค์กร แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีการนำโมเดลนี้มาใช้กับองค์กรอื่น อาจมีเหตุผลอื่นมากล่าวอ้างเพื่อลดมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่กระทบกับการเลือกตั้ง เพราะหาก กกต.ชุดใหม่เข้ามาทำงานประมาณช่วงเดือน ต.ค. จะถือว่า กกต.ชุดใหม่มีเวลาทำงาน 1 ปี ในการเตรียมการจัดเลือกตั้ง
ด้านนายภูมิพิทักษ์ กองแก้ว รองเลขาธิการ กกต.กล่าวว่า เรื่องการเซ็ตซีโร่เป็นปัญหาหนักใจของสำนักงาน กกต.เนื่องจากทำงานกับกกต.ชุดนี้งานกำลังเดินไปด้วยดี แต่ถ้ามีชุดใหม่มาก็เชื่อว่าจะทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น ทั้งนี้ สำนักงาน กกต.จะเตรียมความพร้อมเรื่องการส่งมอบงาน ที่ผ่านมามีการปรับโครงสร้างเตรียมการเลือกตั้ง จัดอบรมด้านสืบสวนสอบสวน จะทำให้การเลือกตั้งสุจริต และเป็นองค์กรที่มีคุณธรรมด้วย