โฆษกกลาโหม เผยข้อมูลความเห็นร่วมของประชาชนจากเวทีปรองดอง สะท้อนถึงโอกาสและความตื่นตัวของประชาชน ต่อประเด็นต่างๆ ทั้งการปรับเปลี่ยนทางการเมือง ระบบโครงสร้างทางสังคมและการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมครั้งใหญ่
วันนี้ (4 มิ.ย.) พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ ประธานอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าของกระบวนการสร้างความสามัคคีปรองดองว่า ข้อมูลจากการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จากกระบวนการสร้างความสามัคคีปรองดอง ได้ถูกรวบรวมและสังเคราะห์ตามหลักวิชาการ ร่วมกับผลการศึกษาด้านการสร้างความสามัคคีปรองดองที่มีมา สู่การจัดทำ “เอกสารความเห็นร่วม” และส่งให้อนุกรรมการจัดทำข้อเสนอกระบวนการ โดยมีผู้บัญชาการทหารบกซึ่งอยู่ระหว่างการจัดทำร่าง “สัญญาประชาคม”
สำหรับข้อมูลจาก “เอกสารความเห็นร่วม” ซึ่งรวบรวมความเห็นความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ทั่วประเทศ จากทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคในภาพรวม สะท้อนถึงความตื่นตัวและความสนใจในประเด็นการเมืองและการปรับเปลี่ยนทางการเมืองมากที่สุด
โดยส่วนกลาง ประชาชนให้ความสนใจด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ด้านความเหลื่อมล้ำในการครอบครองที่ดินและการบริหารจัดการน้ำ ด้านสังคม เศรษฐกิจ การศึกษา สาธารณสุข รวมทั้งด้านสื่อมวลชนและการป้องกันทุจริต ลดหลั่นลงมาตามลำดับ ซึ่งพรรคการเมืองส่วนใหญ่และกลุ่มการเมืองให้ความสำคัญ ประเด็นด้านการเมือง ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ความเท่าเทียมของพรรคการเมืองเป็นหลัก หากจำแนกภาคส่วนต่างๆ มีท่าทีที่แตกต่างกัน โดยภาคเศรษฐกิจต้องการรักษาผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของตนเองเป็นสำคัญ ภาคประชาสังคมให้ความสำคัญกับ ปัญหาความเหลื่อมล้ำในทุกๆด้านรวมทั้งด้านทรัพยากรธรรมชาติ ในขณะที่องค์กรสื่อมวลชนมุ่งเน้นสิทธิเสรีภาพของตนเองและต้องการให้สื่อดูแลกันเองโดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบการทำงาน
ในส่วนภูมิภาค ประชาชนมีความสนใจด้านการเมืองมากที่สุดและให้ความสำคัญด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา สาธารณสุข ด้านความเหลื่อมล้ำในการครอบครองที่ดินและการบริหารจัดการน้ำ รวมทั้งกระบวนการยุติธรรมตามลำดับ โดยพื้นที่ภาคกลางมีความสนใจด้านการเมืองมากกว่าด้านอื่นๆ อย่างชัดเจน ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้ความสนใจด้านการเมือง การบุกรุกพื้นที่ป่าและด้านสังคม ส่วนพื้นที่ภาคเหนือให้ความสนใจด้านการเมืองและต้องการบริหารจัดการน้ำอย่างมีส่วนร่วม สำหรับพื้นที่ภาคใต้มีความสนใจด้านความเหลื่อมล้ำในการครอบครองที่ดินและการบริหารจัดการน้ำ
หากจำแนกลักษณะของผู้ให้ความคิดเห็นตามกลุ่มต่างๆ สามารถระบุท่าทีที่สำคัญ ได้แก่ กลุ่มการเมืองจะมุ่งเน้นการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและเป็นธรรม ขณะที่กลุ่มนักวิชาการ นักศึกษา และสื่อมวลชนจะเน้นถึงกติกาทางการเมือง แนวทางการนำไปสู่การลดความขัดแย้ง ปัญหาคอร์รัปชัน และความจริงใจของภาครัฐในการแก้ปัญหาต่างๆ ทั้งนี้ กลุ่มข้าราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มีความสนใจในการแก้ปัญหาระดับท้องถิ่น เช่น การเอารัดเอาเปรียบของกลุ่มนายทุนต่อราคาพืชผลทางการเกษตร และการเมืองระดับท้องถิ่น ในขณะที่กลุ่มผู้นำชุมชนและชาวบ้านสนใจเพิ่มเติมในเรื่องของการบริหารจัดการน้ำและที่ดินทำกินในท้องถิ่นเป็นสำคัญ
พล.ต.คงชีพกล่าวเพิ่มเติมว่า การสะท้อนความคิดเห็นผ่านผู้แทนองค์กรภาคส่วนต่างๆ จากเวทีการรับฟังความเห็นของประชาชนทั่วประเทศในกระบวนการสร้างความสามัคคีปรองดองที่ผ่านมา ถือเป็นข้อมูลที่บริสุทธิ์ซึ่งผ่านการสังเคราะห์ทางวิชาการครั้งใหญ่ ที่แสดงถึงความตื่นตัวทางการเมืองของประชาชน ปัญหาที่มีในแต่ละพื้นที่และความต้องการของประชาชนทุกภาคส่วน รวมทั้งการมองอนาคตที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสงบ สันติสุข ซึ่งเป็นโอกาสครั้งสำคัญยิ่งของสังคมที่ประชาชนทุกคนจะได้ร่วมเรียนรู้และทำความเข้าใจไปด้วยกัน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนคลี่คลายปัญหาของสังคมครั้งใหญ่สู่เป้าหมายร่วมคือ “การปฏิรูปประเทศ”