นายกฯลงตรวจน้ำท่วมสงขลา เผย ร.๑๐ แนะน้อมนำแนวทาง ร.๙ รับสั่งดูแล ปชช.

นายกฯ พร้อมคณะบินสงขลา ตรวจน้ำท่วม ย้ำ ร.๑๐ รับสั่ง รบ. ต้องดูแล ปชช. ให้ดีที่สุด ทรงห่วงใยพระราชทานน้ำพระทัย แนะน้อมนำแนวทาง ร.๙ แก้น้ำท่วม ชี้ก่อนเดินสู่ ปชต. บ้านเมืองต้องสงบก่อน ขออย่าต่อต้านขัดแย้ง ยันไม่ใช่คนดีแต่พูด คิดแล้วทำ แจงยุทธศาสตร์ 20 ปี เพื่อลูกหลานมีงานทำ ชี้ การศึกษาไทยยังอ่อน เร่งปฏิรูปทั้งระบบ คุณยายโผล่มอบ “พระปลอดหน้าคงหลัง” คุ้มครองนายกฯ

วันนี้ (15 ธ.ค.) เมื่อเวลา 7.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะ อาทิ นายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกเดินทางจากฝูงบิน กองการบินศูนย์การเคลื่อนย้ายกองทัพบก ไปยังท่าอากาศยานทหารกองบิน 56 โดยเครื่องบินแอมแบร์ บ.ท.135 กองทัพบก ลงยังท่าอากาศยานทหารกองบิน 56 (หาดใหญ่) อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา โดยเมื่อเดินทางถึง นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ ให้การต้อนรับ

จากนั้น นายกฯพร้อมคณะ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์จากสนามบิน 56 ไปยัง อ.ระโนด เพื่อตรวจเยี่ยมโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาระโนดกระแสสินธุ์ ต.บ้านขาว อ.ระโนด และรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัยจากผู้ว่าฯ จ.สงขลา และพบปะข้าราชการ ครู นักเรียน ประชาชน ที่มาให้การต้อนรับ โดยมีคุณยายอายุ 88 ปี มอบพระเหรียญปลอดหน้าคงหลัง หลวงพ่อปลอด วัดหัวป่า อ.ระโนด ให้กับนายกฯซึ่งเป็นพระดังที่คนสงขลาเชื่อว่า มีพุทธคุณเด่นด้านคงกระพันชาตรี หนังเหนียว ศาสตราอาวุธทั้งหลายไม่สามารถทำอันตรายได้ คุ้มครอง และช่วยให้เราปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ

โดย นายกฯ ได้กล่าวกับประชาชนตอนหนึ่งว่า จริงๆ แล้ว ใจตนอยู่กับประชาชนทุกวัน เพราะรู้ถึงความเดือดร้อนของท่านดี ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ประชาชนได้อดทนต่อสู้กับความลำบากมาตลอด ตนจำได้สมัยตนเป็น ผบ.ทบ. แม้อดีตบังคับบัญชาตน รมว.มหาดไทย มา ก็เจอปัญหารายได้น้อย น้ำท่วม พายุ ต้องมาซ่อมแซมบ้าน ตอนนั้นจำได้ไม่เคยไม่ลืม สิ่งใดที่เป็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน พวกเราไม่เคยลืมในฐานะที่เคยเป็นข้าราชการ เป็นทหารเก่ามา เราอยู่กับประชาชนมาโดยตลอด วันนี้ตนมาในฐานะเป็นผู้นำรัฐบาลในปัจจุบัน มีหน้าที่ดูแลประชาชน 70 ล้านคน เพราะฉะนั้นสิ่งแรกที่เราต้องมี คือ มีจิตใจที่ถึงกันทั้ง 70 ล้านคน เพราะอยู่ในแผ่นดินเดียวกัน และวันนี้โลกมีอะไรมากกว่าที่เราเห็น ดังนั้น สำคัญเราต้องพัฒนาด้วยการเรียนรู้เพื่อตามโลกให้ทัน เราจะค่อยแย่ลงไปเรื่อยๆ แล้วปัญหาที่เราเจอวันนี้จะไม่ได้รับการแก้ไข

นายกฯ กล่าวว่า ปรากฏการณ์สภาพอากาศที่เกิดขึ้น จนส่งผลน้ำท่วม ฝนตกนานเกินไป นี้คือสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ประกอบกับบ้านเราเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำด้วย ดังนั้น สิ่งแรกคือเราต้องอยู่กับธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ต้องมีความคิดที่ใหม่ๆ ที่สมัยก่อนเราไม่เจอแบบนี้ เดือดร้อนน้อย ระยะเวลาสั้น เพราะคนเราไม่มีคนมากเท่านี้ ขึ้นเครื่องบินมาได้เห็นสภาพถ้าน้ำท่วมอยู่อย่างนี้ แล้วเยียวยา จากนั้นปัญหาวนกลับมาอีก แล้วจะทำอะไรกิน คงต้องให้มีการปลูกพืชระยะสั้น เลี้ยงปลา กักเก็บน้ำไว้ด้วย ต้องช่วยตัวเองด้วย และรัฐบาลจะหาทางช่วยอีกทางหนึ่ง ทั้งนี้ นอกเหนือจากสภาพอากาศโลกเปลี่ยนแล้ว ยังต้องเผชิญปัญหาภัยก่อการร้าย ความขัดแย้ง

“เราต้องไม่มีความขัดแย้งกันเอง เกิดขึ้นอีกไม่ได้ ไม่ควรมีอีกแล้ว ต้องมาขัดแย้งกันเองในเรื่องนั้นเรื่องนี้ เรื่องของประชาธิปไตย ไม่มีนะ เพราะเราต้องเดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตยจนได้ แต่บ้านเมืองต้องสงบเรียบร้อยก่อน” นายกฯกล่าว

นายกฯกล่าวว่า รวมถึงเรื่องของโรคระบาดที่เกิดขึ้นใหม่ โรคดื้อยา ดังนั้น คนไทยต้องเรียนรู้โดยไม่ต้องเสียค่ายา ไม่ต้องไปหาหมอ เราไม่มีวันหาเงินได้เพียงพอที่จะสนับสนุนได้อย่างเต็มที่ เป็นไปไม่ได้เลย อย่าลืมว่า 70 คน แต่รายได้ของประเทศประมาณ 2.3 แสนล้านบาทต่อปี ดูเยอะแต่หารดูสิ และยังต้องนำไปใช้อย่างอื่นๆ เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องเอามาคิดทั้งหมด สร้างความเข้มแข็งให้กับประชาชน อย่างตนอายุ 60 ปีกว่า ออกกำลังกาย เมื่อวานก็ล้มเห็นไหม ออกกำลังกายกันสักหน่อย เพื่อลดค่าไปหาหมอ อย่างน้อยเช้าแกว่งแขนวันละ 100 ครั้ง จะบริหาร ตับ ปอด หัวใจ โดยอัตโนมัติ ตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค. ตนจะคอยดูคนสงขลาแกว่งแขนหรือเปล่า

นอกจากนี้ ปัญหาการพัฒนาใช้ทรัพยากรอย่างไม่สมดุล จากนั้นทุกพื้นที่ต้องสร้างความสมดุลในการใช้ประโยชน์บนทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด พร้อมลดความเหลือมล้ำ การพัฒนาที่ไม่เท่าเทียม สร้างความเป็นธรรม เหล่านี้คือสิ่งที่ลิดรอนให้ประเทศเราพัฒนาช้าลงไปเรื่อยๆ เสริมไปด้วยความขัดแย้ง ความไม่เข้าใจ เราต้องสร้างการเรียนรู้ควบคู่การพัฒนาด้านต่างๆ สังคมต้องเรียนรู้เราจะอยู่กันอย่างไร “คงไม่เคยมีใครมาพูดแบบที่ผมพูด แต่ผมพูดแล้วผมคิด แล้วผมทำ ไม่ใช่พูดอย่างเดียว ผมไม่ใช่คนแบบนั้น ทุกคนพูดแล้วต้องทำ แต่จะทำอย่างไรอยู่ที่พวกเราด้วย”

ทั้งนี้ โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ตามแนวทางพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบันก็ทรงรับสั่งว่า ให้ดูแลประชาชนให้ดีที่สุด ตามแนวทางพระบรมชนกนาถทรงห่วงใยเสมอมา เห็นได้จากช่วงที่ผ่านมาท่านได้ทรงพระราชทานกำลังใจลงมา ถุงยังชีพ ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ที่พระราชทานมา นั้นคือน้ำพระทัย นี้คือสถาบันที่ต้องอยู่คู่ไทยมาไปตลอด วันนี้เรากำลังอยู่ในช่วงทุกข์โศกและกำลังจะมีอนาคต

ทั้งหมดคือประเทศไทย ที่ต้องมีกฎหมาย การจัดการที่เหมาะสมในการบริหารราชการแผ่นดิน โดยมีรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล ที่ต้องนึกถึงคนทั้งหมด ที่ต้องจัดลำดับความเร่งด่วน เพราะได้ไม่พร้อมกันทั้งหมด และสิ่งที่ผู้ว่าฯขอมา 2 พันกว่าล้านบาท ในการแผนงาน ตนตั้งใจที่จะให้อยู่แล้ว แต่ขออย่าเดียวอย่าต่อต้านการทำงานตรงนี้ เมื่อเราอยากได้ประชาธิปไตย ที่คำนึงเสียงส่วนใหญ่ประเทศต้องการอะไร โดยคนในพื้นที่เป็นสำคัญ อย่าให้คนนอกมาต่อต้าน แล้วจะเกิดอะไรขึ้นมา น้ำท่วมอยู่อย่างนี้ ดังนั้น ต้องศึกษาเรียนรู้ก็จะรู้ว่าสิ่งที่ตนพูดคืออะไร เพราะคนเราศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน ตนขึ้นมาไม่เคยรังแกประชาชน เว้นแต่คนที่ทำผิดกฎหมาย หน้าที่ตนมีเท่านั้น ไม่เคยไปรังแกใครเป็นพิเศษ ทุกคนอยู่ในกระบวนการยุติธรรม ถ้าไม่เข้าก็เอาเข้า ถ้าศาลชี้ว่าผิดก็ผิด ถูกก็ถูก มีแค่นั้น แต่ปัญหาไม่เข้ากระบวนการยุติธรรม ซึ่งมันไม่ได้ เพราะกฎหมายเดียวกัน จะได้ลดความขัดแย้งลงไป

โดยมีศาสตร์พระราชาเป็นภูมิคุ้มกัน จะทำอะไรมีเหตุมีผล มีความรู้ มีคุณธรรม ไม่ไปโกงใคร ไม่ทุ่มเทจนหมดตัว ค่อยๆ ทำ เริ่มด้วยความพอเพียง ซึ่งทรงสอนมาแบบนี้ ไม่ใช่ถึงเวลาก็ทำตามเขา โดยที่คนแรกรวยไปแล้ว แต่คนทำต่อมาเจ๊งทุกคน ต้องมองภาพกว้างตกลงร่วมกลุ่มกัน อย่างรัฐบาลส่งเสริมสามเหลี่ยมเศรษฐกิจภาคใต้ เดินหน้าประเทศและประชาชนมีรายได้สูงขึ้น ทุกฝ่ายต้องปฏิบัติตรงความต้องการประชาชนเป็นหลัก ตนจะไม่ทำตามคะแนนเสียง เพราะไม่ได้มาหาเสียง มาเพื่อช่วยท่านจริงๆ ในโอกาสที่ทำได้ โดยวันหน้าจะเกิดอะไรขึ้นไม่รู้ แต่ต้องสร้างความเชื่อมโยงให้เกิดขึ้นให้ได้

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต่อไปจะต้องมีแผนการพัฒนาประเทศในอีก 20 ปีข้างหน้า เพราะคืออนาคตของพวกเราเพื่อลูกหลานจะอยู่ได้ โดยไม่ต้องรอมรดกจากเรา ขณะที่เราก็ไม่ต้องคอร์รัปชัน โกงกิน แต่สร้างอนาคตให้ลูกหลานด้วยการศึกษาให้ลูกหลานมีงานทำ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เป็นสิ่งสำคัญ และทุกคนต้องส่งลูกไปเรียนหนังสือ ซึ่งครูเองก็จะต้องเรียนรู้ไปด้วยกัน เรากำลังปฏิรูปการศึกษาใหม่ทั้งหมด และต้องปรับปรุงเพื่อการประเมินที่ดีขึ้น และยอมรับว่าการศึกษาไทยยังอ่อนในหลายเรื่อง เช่นวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และวิศวกร เพราะเรามุ่งหวังจะเรียนให้จบปริญญาเพียงอย่างเดียวแต่ไม่มีงานทำ ดังนั้น ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกับรัฐบาลปฏิรูปการศึกษา จะให้รัฐบาลทำอย่างเดียวไม่ได้ ตนขอความร่วมมือในทุกประเด็น เพราะเรามีเรื่องที่ต้องปฏิรูป 36 เรื่อง 100 กิจกรรม รัฐบาลไม่เคยหยุดคิดและทำเพื่อพวกเรา เพียงแต่มีเวลาจำกัด

“ในหลวงรับสั่งไว้แล้วว่า จะต้องใช้ข้อมูลทางวิชาการ วิทยาศาสตร์ และข้อเท็จจริงมาทำงาน โดยอัตลักษณ์ของคนไทย เพราะคนไทยไม่ชอบการบังคับ จึงต้องปรับตัวเอง เคารพกฎหมาย แต่ถ้าไม่ทำผิดก็ไม่เดือดร้อน ใช่ว่าจะเขียนเพื่อลิดรอนสิทธิเสรีภาพ แต่ถ้าไม่ผิดก็ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งสิ้น ส่วนการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ผมได้สั่งการว่าประชาชนจะอยู่อย่างไร หลังจากการเยียวยา เพราะที่ผ่านมาน้ำท่วมภาคใต้ทุกจังหวัด แต่วันนี้เหลือเพียง 5 จังหวัด วันหน้าต้องมาดูว่า เราจะแก้ไขปัญหา น้ำท่วมในอนาคตได้อย่างไร โดยการจัดสรรพื้นที่มาใช้ประโยชน์ ถ้าทุกคนมุ่งหวังเพียงแต่จะทำการเกษตร ที่ดินคงไม่พอเพียง ดังนั้น เราจะเน้นการใช้พื้นที่ให้น้อยลง แต่ได้คุณภาพที่ดีกว่า เช่น เกษตรอินทรีย์ ไม่ใช้สารเคมี โดยทั้งหมดรวมตัวกันเป็นเกษตรแปลงใหญ่ เพื่อจะรู้ถึงปัญหา” นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาน้ำท่วม รัชกาลที่ ๑๐ ให้รัฐบาลนำแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ มาปรับใช้ โดยได้นำทุกโครงการมารื้อดู และศึกษาหากเห็นว่า โครงการใดสามารถทำได้ก็จะดำเนินการ ส่วนโครงการใดที่ยังไม่สามารถทำได้ก็ให้ศึกษาโดยเร็ว โดยที่ประชาชนจะต้องให้ความเห็นชอบ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การสร้างโรงไฟฟ้าขอให้ฟังข้อมูลที่ถูกต้อง อย่าเอาแต่คัดค้าน เพราะในอนาคตจะทำอะไรไม่ได้ เดือดร้อนในวันหน้า ตนไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับใครทั้งสิ้น แต่วันหน้าจะต้องมีการพัฒนาอุตสาหกรรม มีการใช้เทคโนโลยี ซึ่งการใช้ไฟฟ้าจะต้องมีมากขึ้น วันนี้เราพึ่งพาพลังงานไฟฟ้าภายในประเทศส่วนหนึ่ง แต่ที่เหลือมาจากต่างประเทศ ถามว่า ถ้าเกิดปัญหาขึ้นจะอยู่อย่างไรจึงต้องคิดเผื่ออนาคต ถ้าบอกว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินมีพิษ จะต้องดูว่าเป็นพิษอย่างไร วันนี่เราต่อต้านทั้งแก๊สและน้ำมัน ถามว่าจะเอาไฟฟ้าจากไหน เชื่อว่าคนในพื้นที่เข้าใจ ถ้าคิดถึงคนอื่นประเทศไทยเป็นมหาอำนาจแน่นอน เพราะใน 10 ประเทศอาเซียนเรามีศักยภาพมากที่สุด เพราะเราอยู่กลางอาเซียน

พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า วันนี้รัฐบาลต้องรู้ว่าประชาชนต้องการอะไร ซึ่งเรื่องการแก้ไขปัญหาน้ำในภาคการเกษตร รัฐบาลมีมาตรการดูแลอยู่แล้ว เพียงแต่ที่ผ่านมาไม่ได้ขับเคลื่อนกันอย่างจริงจัง ซึ่งวันนี้รัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณไปไปวงเงิน 2 พันล้านบาท เพื่อดำเนินการบริหารจัดการน้ำทั้งหมด เพราะพื้นที่ภาคใต้อยู่ท่ามกลางคาบสมุทรล้อมรอบด้วยทะเล โดยโครงการต่างๆ ที่รัฐบาล จะดำเนินการได้มีการศึกษาแล้ว แต่ในบางพื้นที่ยังถูกคัดค้านวันนี้ประชาชนเริ่มเข้าใจการทำงานของรัฐบาล แต่ประชาชนเองต้องรักษาบรรยากาศให้ได้ เพราะผลประโยชน์ที่เราจะได้อาจไม่ได้หากเกิดการคัดค้าน รัฐบาลไม่ได้ต้องการอะไรแค่ต้องการให้ประชาชนมีความสุข คนใต้เป็นคนน่ารัก มีน้ำใจ อดทนอดทนต่อสู้ต่อความยากลำบาก และภาคใต้จะต้องได้รับการพัฒนาอีกมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น นายกรัฐมนตรี และคณะ ได้ลงเรือให้กำลังใจประชาชนที่ประสบอุทกภัย บริเวณริมคลองตะเครียะ และ ทะเลสาบสงขลา พร้อมมอบถุงยังชีพแก่ประชาชน 1,000 ชุด โดยนายกฯได้สอบถามการเป็นอยู่ของประชาชนที่ประสบภัย โดยบอกว่า มาเยี่ยมมาให้เห็นหน้า และจะแก้ไขปัญหาน้ำอย่างถาวร