อดีต สปท.เชื่อ “พระธัมมชโย” ยังอยู่ในวัด ระดมศิษย์ป้องกันหลังถูกหมายจับ ชี้การแข็งขืนทำให้หมดความชอบธรรม ยากที่จะได้รับการปรานีจากกระบวนการยุติธรรม
นายประสาร มฤคพิทักษ์ อดีต สปท. และแกนนำ 40 ส.ว.กล่าวว่า ขณะนี้พระธัมมชโยกำลังแข็งขืนต่อหมายจับของทางการอย่างสุดฤทธิ์ มีการระดมศิษย์นับหมื่นมาสวดมนต์ 11 ล้านจบ ระดมคนมาเป็นกองกำลังป้องกัน ตั้งสิ่งกีดขวางราวกับกำลังตั้งทัพรับศึก ตนเชื่อว่าลัทธิธรรมกายในเวลานี้ถึงจุดสุ่มเสี่ยงที่สุดต่อการเจียนอยู่เจียนไป ลองคิดดูว่าถ้าพระธัมมชโยถูกขังคุกก็ต้องถูกจับสึก สิ้นความเป็นพระทันที และเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าลัทธิธรรมกายกับภาคการเมืองอิทธิพลกลุ่มหนึ่งนั้นมีความแนบแน่นกันอย่างลึกซึ้ง การคงอยู่ของธรรมกายหมายถึงการดำรงอยู่ของกลุ่มการเมืองนั้น มันเป็นเดิมพันสูงที่สองฝ่ายจะต้องยืนหยัดอยู่ให้ได้เพื่อค้ำจุนซึ่งกันและกัน
นายประสารกล่าวว่า การตั้งกำแพงยักษ์ของธรรมกาย แสดงว่าพระธัมมชโยยังหลบอยู่ในบริเวณวัดนั้นเอง การหลีกเลี่ยงไม่มอบตัวและไม่ยอมให้จับกุม เท่ากับธรรมกายหมดสิ้นความชอบธรรม เพราะฝ่ายทางการมีกฎหมายและความชอบธรรมอยู่ในมือเต็มที่ ขณะที่ฝ่ายธรรมกายไม่มีข้อต่อสู้ทางกฎหมายใดๆ เหลืออยู่เลย ได้แต่บ่ายเบี่ยง ใช้เทคนิคถ่วงเวลา ตั้งกองกำลังป้องกันและท่องคาถา “หลวงพ่อบริสุทธิ์” ซ้ำยังลวงโลกว่า การดำเนินคดีนี้เป็น “การทำลายพุทธศาสนา” ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้วเป็นการทำลายมลทินของพุทธศาสนาต่างหาก เพราะเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าลัทธิธรรมกายบิดเบือนพระธรรมวินัยและคำสอนของพุทธศาสนาอย่างฉกรรจ์ เมื่อพระธัมมชโยเลือกหนทางที่จะหลบซ่อนในมุมมืดไม่ยอมเผชิญความจริงเช่นนี้ ยิ่งทำให้ยากที่จะได้รับความปรานีจากกระบวนการยุติธรรม