จะขอหมายค้น ศาลก็ไม่ขัดข้อง จะขอหมายจับ ศาลก็อนุมัติให้ แต่จนแล้วจนรอด ตำรวจยังไม่สามารถบุกเข้าตรวจค้นวัดธรรมกาย ยังไม่อาจจับธัมมชโยได้
อาณาบริเวณวัดธรรมกายบนเนื้อที่หลายพันไร่ มีสภาพไม่แตกต่างจากรัฐอิสระที่อยู่เหนือกฎหมาย สถานที่ซึ่งเป็นแหล่งปฏิบัติธรรม ถูกแปลงเป็นป้อมค่ายที่แน่นหนา ผู้คนที่อยู่ภายใน ไม่ว่าจะห่มผ้าเหลืองหรือไม่ แสดงท่าทีพร้อมสู้รบกับใครก็ตามที่บุกเข้า
แต่ยิ่งแสดงความแข็งกร้าวเท่าไหร่ ก็ยิ่งตอกย้ำว่า ป้อมค่ายลัทธิธรรมกาย ไม่ควรจะดำรงอยู่ต่อไป และจะต้องถูกทำลาย ไม่ว่าจะใช้เวลายาวนานเท่าใดก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นวัด มีญาติโยมมากมาย แม้จะมีการระดมสาวกมาเป็นโล่มนุษย์ป้องกันธัมมชโย แต่เมื่อไม่ยอมรับกฎหมาย สังคมก็ไม่อาจยอมรับธรรมกายได้
ธัมมชโยไม่แตกต่างจากนายทักษิณ ชินวัตร โดยปฏิเสธกฎหมาย ไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม ตีรวนข้อกล่าวหาไปเรื่อย โดยอาศัยฐานมวลชนที่สร้างไว้มาห้อมล้อมป้องกัน เพื่อไม่ต้องรับโทษตามความผิด
แต่ธรรมกายจะดันทุรังไปตลอดชาติหรือ และรัฐบาลจะทนแรงกดดันปล่อยให้ธัมมชโยลอยนวลได้อีกนานเท่าไหร่
ถ้าเป็นยุครัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คดีธัมมชโยคงไม่รุกคืบมาถึงขั้นการออกหมายจับและการออกหมายค้น และลัทธิธรรมกายคงทำมาหากินตามปกติ
แต่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยสิ้นสลายไปแล้ว จึงไม่มีใครคุ้มครอง “ธรรมกาย” ไม่มีอำนาจรัฐปกป้องธัมมชโย
คดีที่เกี่ยวข้องกับวัดธรรมกายและธัมมชโยพุ่งไปแล้วกว่าร้อยคดี คนรอบข้างธัมมชโยที่ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงธัมมชโย ยุยงปลุกปั่นมวลชนมาเป็นโล่มนุษย์ ถูกสอยไปทีละราย โดยล่าสุดโฆษกปากกล้า นายองอาจ ธรรมนิทา ก็หายหัว หลังถูกออกหมายจับ
คนห่มผ้าเหลืองที่เถียงคำไม่ตกฟาก และถูกเชิดให้ออกมาแก้ตัวแทนธัมมชโย อีกไม่นานอาจต้องมุดหัวหนีคดีเช่นเดียวกับนายองอาจ
จะจ้างทนายเพื่อตะแบงข้อกฎหมายเป็นสิบเป็นร้อยทนาย ก็ป้องธัมมชโยไม่ได้ จะส่งคนห่มเหลืองปากกล้ามาทำหน้าที่เป็นโฆษก เล่นลิ้นซื้อเวลา ก็ต้านทานอำนาจรัฐได้อีกไม่กี่น้ำ
สาวกที่ถูกบงการมาเป็นโล่มนุษย์ ญาติโยมที่ถูกระดมมาขวางกระบวนการทางกฎหมาย จะป้องกันธัมมชโยจนวันตายหรือ
แนวป้องกันวัดธรรมกายหลวม เป็นฤกษ์ดีที่ตำรวจจะบุกเข้าไปอุ้มธัมมชโยออกมา
ธรรมกายผ่านยุครุ่งเรืองสุดขีดไปแล้ว ช่วงเวลานับจากนี้ เป็นการนับถอยหลังสู่ความล่มสลาย และเครือข่ายพระที่เคยออกมาปกป้องต่างหลบฉาก นักธุรกิจที่เคยอุปถัมภ์ทยอยกันเงียบหาย
ทุกคนรู้สถานการณ์ดีว่า ยามนี้ไม่อาจช่วยธัมมชโยได้ ไม่มีใครขวางกระแสสังคมที่ต้องการให้ตะครุบตัวเจ้าลัทธิธรรมกาย
ตอนนี้ปล่อยให้ธัมมชโยแสดงฤทธิ์เดชอีกสักพัก แต่ไม่น่าจะนานนักคงสิ้นฤทธิ์ ถูกจับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งเมื่อขาด “ตัวขาย” วัดธรรมกายคงถึงจุดที่ต้องสิ้นสลาย
และรัฐบาลคงไม่ปล่อยให้วัดแห่งนี้ ถูกใช้เป็นฐานมอมเมาลัทธิอุบาทว์เหมือนในอดีต
อดใจรอดูตอนอวสานของลัทธิธรรมกายกันหน่อย เพราะก่อนรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะไป ภารกิจจับธัมมชโยต้องจบสิ้น ลัทธิธรรมกายต้องถูกกวาดล้าง
ปล่อยให้ธัมมชโยลอยนวลต่อไปไม่ได้แล้ว
เพราะยิ่งปล่อยไว้ ยิ่งเป็นอันตรายต่อสังคม ทุกวันนี้อาณาจักรธรรมกายก็ยิ่งใหญ่ กลายเป็นป้อมค่ายที่กฎหมายแทบเอื้อมไปไม่ถึงแล้ว
ถ้าไม่ใช้รัฐบาลทหาร คงไม่มีใครคาดหวังในการปราบธัมมชโย แต่แม้จะเป็นรัฐบาลทหาร ประชาชนบางส่วนก็ยังไม่แน่ใจว่า จะเอาธัมมชโยอยู่หรือไม่
อาณาบริเวณวัดธรรมกายบนเนื้อที่หลายพันไร่ มีสภาพไม่แตกต่างจากรัฐอิสระที่อยู่เหนือกฎหมาย สถานที่ซึ่งเป็นแหล่งปฏิบัติธรรม ถูกแปลงเป็นป้อมค่ายที่แน่นหนา ผู้คนที่อยู่ภายใน ไม่ว่าจะห่มผ้าเหลืองหรือไม่ แสดงท่าทีพร้อมสู้รบกับใครก็ตามที่บุกเข้า
แต่ยิ่งแสดงความแข็งกร้าวเท่าไหร่ ก็ยิ่งตอกย้ำว่า ป้อมค่ายลัทธิธรรมกาย ไม่ควรจะดำรงอยู่ต่อไป และจะต้องถูกทำลาย ไม่ว่าจะใช้เวลายาวนานเท่าใดก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นวัด มีญาติโยมมากมาย แม้จะมีการระดมสาวกมาเป็นโล่มนุษย์ป้องกันธัมมชโย แต่เมื่อไม่ยอมรับกฎหมาย สังคมก็ไม่อาจยอมรับธรรมกายได้
ธัมมชโยไม่แตกต่างจากนายทักษิณ ชินวัตร โดยปฏิเสธกฎหมาย ไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม ตีรวนข้อกล่าวหาไปเรื่อย โดยอาศัยฐานมวลชนที่สร้างไว้มาห้อมล้อมป้องกัน เพื่อไม่ต้องรับโทษตามความผิด
แต่ธรรมกายจะดันทุรังไปตลอดชาติหรือ และรัฐบาลจะทนแรงกดดันปล่อยให้ธัมมชโยลอยนวลได้อีกนานเท่าไหร่
ถ้าเป็นยุครัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คดีธัมมชโยคงไม่รุกคืบมาถึงขั้นการออกหมายจับและการออกหมายค้น และลัทธิธรรมกายคงทำมาหากินตามปกติ
แต่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยสิ้นสลายไปแล้ว จึงไม่มีใครคุ้มครอง “ธรรมกาย” ไม่มีอำนาจรัฐปกป้องธัมมชโย
คดีที่เกี่ยวข้องกับวัดธรรมกายและธัมมชโยพุ่งไปแล้วกว่าร้อยคดี คนรอบข้างธัมมชโยที่ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงธัมมชโย ยุยงปลุกปั่นมวลชนมาเป็นโล่มนุษย์ ถูกสอยไปทีละราย โดยล่าสุดโฆษกปากกล้า นายองอาจ ธรรมนิทา ก็หายหัว หลังถูกออกหมายจับ
คนห่มผ้าเหลืองที่เถียงคำไม่ตกฟาก และถูกเชิดให้ออกมาแก้ตัวแทนธัมมชโย อีกไม่นานอาจต้องมุดหัวหนีคดีเช่นเดียวกับนายองอาจ
จะจ้างทนายเพื่อตะแบงข้อกฎหมายเป็นสิบเป็นร้อยทนาย ก็ป้องธัมมชโยไม่ได้ จะส่งคนห่มเหลืองปากกล้ามาทำหน้าที่เป็นโฆษก เล่นลิ้นซื้อเวลา ก็ต้านทานอำนาจรัฐได้อีกไม่กี่น้ำ
สาวกที่ถูกบงการมาเป็นโล่มนุษย์ ญาติโยมที่ถูกระดมมาขวางกระบวนการทางกฎหมาย จะป้องกันธัมมชโยจนวันตายหรือ
แนวป้องกันวัดธรรมกายหลวม เป็นฤกษ์ดีที่ตำรวจจะบุกเข้าไปอุ้มธัมมชโยออกมา
ธรรมกายผ่านยุครุ่งเรืองสุดขีดไปแล้ว ช่วงเวลานับจากนี้ เป็นการนับถอยหลังสู่ความล่มสลาย และเครือข่ายพระที่เคยออกมาปกป้องต่างหลบฉาก นักธุรกิจที่เคยอุปถัมภ์ทยอยกันเงียบหาย
ทุกคนรู้สถานการณ์ดีว่า ยามนี้ไม่อาจช่วยธัมมชโยได้ ไม่มีใครขวางกระแสสังคมที่ต้องการให้ตะครุบตัวเจ้าลัทธิธรรมกาย
ตอนนี้ปล่อยให้ธัมมชโยแสดงฤทธิ์เดชอีกสักพัก แต่ไม่น่าจะนานนักคงสิ้นฤทธิ์ ถูกจับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งเมื่อขาด “ตัวขาย” วัดธรรมกายคงถึงจุดที่ต้องสิ้นสลาย
และรัฐบาลคงไม่ปล่อยให้วัดแห่งนี้ ถูกใช้เป็นฐานมอมเมาลัทธิอุบาทว์เหมือนในอดีต
อดใจรอดูตอนอวสานของลัทธิธรรมกายกันหน่อย เพราะก่อนรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะไป ภารกิจจับธัมมชโยต้องจบสิ้น ลัทธิธรรมกายต้องถูกกวาดล้าง
ปล่อยให้ธัมมชโยลอยนวลต่อไปไม่ได้แล้ว
เพราะยิ่งปล่อยไว้ ยิ่งเป็นอันตรายต่อสังคม ทุกวันนี้อาณาจักรธรรมกายก็ยิ่งใหญ่ กลายเป็นป้อมค่ายที่กฎหมายแทบเอื้อมไปไม่ถึงแล้ว
ถ้าไม่ใช้รัฐบาลทหาร คงไม่มีใครคาดหวังในการปราบธัมมชโย แต่แม้จะเป็นรัฐบาลทหาร ประชาชนบางส่วนก็ยังไม่แน่ใจว่า จะเอาธัมมชโยอยู่หรือไม่