“ประสาร” แนะ “พระธัมมชโย” มอบตัวสู้คดีฟอกเงิน รับของโจร ไม่มีเหตุผลต้องแข็งขืนอีก ชี้เจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ใช้คำสั่ง คำสั่ง คสช. ที่ 13/2559 เข้าจับกุมได้ทันที
นายประสาร มฤคพิทักษ์ อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวถึง กรณีอัยการสูงสุด มีคำสั่งวันนี้ (23 พ.ย. 59) ฟ้อง พระธัมมชโย และพวก ในความผิดฐานสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร มีผลให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ต้องนำตัวพระธัมมชโย และพวก มาฟังคำสั่งคดี ในวันที่ 30 พฤศจิกายน นี้นั้น ตนเห็นว่า ทนายของพระธัมมชโย ควรแนะนำให้พระธัมมชโยเข้ามอบตัวต่อทางการ เพื่อเข้าสู่การต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป
“พระธัมมชโย ไม่เหลือเหตุผลใดๆ ที่จะแข็งขืนอีกแล้ว หลักฐานเอกสารและพยานบุคคลหนักแน่นเป็นที่รับรู้ของสาธารณชนอย่างกว้างขวาง ทางดีเอสไอและอัยการมีความชอบธรรมอย่างเต็มที่ที่จะต้องนำตัวผู้ต้องหามาให้ได้ หาไม่แล้ว ทั้งอัยการ และดีเอสไอ จะกลายเป็นองค์กรเป็ดง่อยที่เชื่อถือไม่ได้”
นายประสาร กล่าวต่อว่า การเข้าจับกุม พระธัมมชโย ที่วัดพระธรรมกาย ครั้งที่แล้วเมื่อเดือนมิถุนายนนั้น บรรดาผู้ขัดขวางกำลังถูกดำเนินคดีอยู่ ต้องเข้าใจว่า ทางการมีคำสั่ง คสช. ที่ 13/2559 ข้อ 3(4) ที่จะนำมาใช้ได้กับกรณีนี้ เป็นคำสั่งที่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ “เข้าไปในเคหสถานหรือสถานที่ใดๆ เพื่อตรวจค้นบุคคลหรือยานพาหนะใดๆ เมื่อมีเหตุอันควรสงสัยโดยมีหลักฐานตามสมควรว่าบุคคลซึ่งกระทำความผิดหลบซ่อนอยู่และใครที่ขัดขวาง ย่อมมีความผิดด้วย”
นายประสาร กล่าวต่อว่า ในยุคที่นายกรัฐมนตรีย้ำหนักแน่นว่า ต้องการทำให้กฎหมายเป็นกฎหมาย ทุกฝ่ายจึงต้องขานรับ ไม่ควรมีข้ออ้างเรื่อง “ความละเอียดอ่อน” หรือประเด็นที่ว่า “มีอายุความ 15 ปี” อีกต่อไป เพื่อดำรงความถูกต้อง และทำให้กระบวนการยุติธรรม มีความศักดิ์สิทธิ์จริง ดีเอสไอต้องปฏิบัติการจับกุมพระธัมมชโยอย่างจริงจัง ถ้ายุคนี้ไม่สามารถทำได้ ก็อย่าหวังว่ารัฐบาลยุคเลือกตั้งจะทำได้