MGR Online - อธิบดีดีเอสไอเผยพร้อมจับกุม “ธัมมชโย” ทันที หากอัยการส่งหนังสือเป็นทางการมา รับเตรียมแผนปฏิบัติการเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกาย-วางกำลังรับมือบรรดาเหล่าลูกศิษย์ไว้แล้ว
วันนี้ (23 พ.ย.) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีคณะทำงานอัยการมีความเห็นสมควรสั่งฟ้องพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาที่ 2 ในความผิดฐานสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร จากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด (คดีพิเศษที่ 27/2559) ว่าขณะนี้ดีเอสไอต้องรอหนังสือจากทางอัยการส่งมาก่อน จากนั้นต้องวางแผนการเข้าตรวจค้นภายในวัดพระธรรมกาย โดยดีเอสไอมีแผนการปฏิบัติตามขั้นตอนอยู่แล้วเพื่อนำตัวมาส่งอัยการต่อไป ทั้งนี้ หากเกิดการขัดขวางของเหล่าบรรดาลูกศิษย์ เจ้าหน้าที่ก็ต้องทำตามกระบวนการกฎหมาย ส่วนวันและเวลาไม่สามารถเปิดเผยได้
พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าวอีกว่า สำหรับผู้ต้องหา 3 ราย คือ นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานบริหารสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น จำกัด ผู้ต้องหาที่ 1 ซึ่งถูกจำคุกในคดีพิเศษที่ 64/2557 กระทำความผิดฐานยักยอกทรัพย์กว่า 27 ล้านบาท ถูกตัดสินจำคุก 16 ปี รวมคดีอื่นๆ, น.ส.ศรัณยา มานหมัด ผู้ต้องหาที่ 3 และ นางทองพิน กันล้อม ผู้ต้องหาที่ 4 ในความผิดฐานสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 โดยพนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องคดีและนัดให้มารายงานตัวเพื่อฟ้องต่อศาลอาญาในวันที่ 30 พ.ย. เวลา 09.30 น.
“ส่วนอีก 1 ราย คณะทำงานอัยการมีความเห็นสมควรสั่งฟ้อง น.ส.ศศิธร โชคประสิทธิ์ ผู้ต้องหาที่ 5 ในความผิดฐานสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358, 83 ที่กำลังหลบหนีอยู่ต่างประเทศและดำเนินการประสานงานเพื่อเร่งรัดติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป” อธิบดีดีเอสไอกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า ดีเอสไอได้ส่งสำนวนคดีพิเศษที่ 27/2559 ให้พนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ พิจารณา ตั้งแต่วันที่ 13 มิ.ย. 59 โดยนายธรรมนูญ อัตโชติ ประธานชมรมฟื้นฟูสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นก้าวหน้า พร้อมผู้เสียหาย กล่าวหาว่า พระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย พร้อมพวกรวม 5 คน กระทำความผิดฐานสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร (คดีพิเศษที่ 27/2559) ซึ่ง ดีเอสไอ ได้สืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานและส่งให้อัยการเรียบร้อยแล้วหลายครั้ง แต่อัยการได้มีการสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติม 5 ครั้ง เริ่มจากครั้งแรกที่อัยการนัดฟังคำสั่ง วันที่ 13 มิ.ย. 2559 เลื่อนมาเป็น 11 ส.ค. ครั้งที่ 2 เลื่อนจากวันที่ 11 ส.ค. เป็น 30 ส.ค. ครั้งที่ 3 เลื่อนจากวันที่ 30 ส.ค. เป็น 6 ต.ค. ครั้งที่ 4 เลื่อนจากวันที่ 6 ต.ค. เป็น 7 พ.ย. และครั้งที่ 5 เลื่อนจากวันที่ 7 พ.ย. เป็น 30 พ.ย. จนกระทั่งล่าสุดอัยการคดีพิเศษ มีความเห็นสั่งฟ้องคดีดังกล่าวเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา