โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย นายกฯ ฝากขอบคุณประชาชนทุกหน่วยงานช่วยเหลือชาวนา ชูคนส่วนใหญ่เข้าใจถึงปัญหาที่แท้จริง ยินดีทุกคนรวมพลังฝ่าวิกฤต ขอบคุณโรงสี พ่อค้าคนกลางไม่กดราคารับซื้อ แนะรายย่อยแบ่งข้าวดีขายปลีก ยันไม่อยากเสียเวลาขัดแย้งใคร หนุนชาวไร่ปรับสู่การทำเกษตรสมัยใหม่ ใครโดนเอาเปรียบให้แจ้งศูนย์ดำรงธรรม
วันนี้ (6 พ.ย.) พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ฝากขอบคุณ และชื่นชมพี่น้องประชาชนและทุกหน่วยงานด้วยความจริงใจ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา ดารานักแสดง คนขับรถแท็กซี่ ที่ร่วมกับรัฐบาลให้ความช่วยเหลือชาวนาที่ได้รับผลกระทบจากราคาข้าวตกต่ำในขณะนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่มีความเข้าใจถึงสภาพปัญหาที่แท้จริง และไม่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของใครคนหนึ่งคนใด จึงได้ยื่นมือและแสดงน้ำใจช่วยกันคนละไม้คนละมือ
“ท่านนายกฯ กล่าวว่า รู้สึกยินดีอย่างมากที่เห็นทุกคนรวมพลังกัน มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ซึ่งนอกจากจะเป็นการช่วยเหลือชาวนาฝ่าวิกฤตนี้ ยังถือเป็นการร่วมกันทำความดี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชด้วย” พลโท สรรเสริญ กล่าว
พลโท สรรเสริญ กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรียังฝากขอบคุณนายกสมาคมโรงสีข้าว และบรรดาพ่อค้าคนกลางและโรงสีทั้งหลายที่ออกมาร่วมด้วยช่วยกัน ไม่กดราคารับซื้อข้าว และขอให้พี่น้องชาวนามุมานะในการประกอบอาชีพ แบ่งข้าวคุณภาพดีออกมาขายเป็นรายได้ประจำวัน ส่วนที่เหลือให้นำไปขายในระบบที่พ่อค้าคนกลางและโรงสีให้ราคาอย่างเป็นธรรม
“ท่านนายกฯ ย้ำว่า รัฐบาลไม่อยากเสียเวลาขัดแย้งกับใคร แต่เป็นเวลาที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน ในส่วนของรัฐบาลได้ออกมาตรการช่วยเหลืออย่างครบวงจร และอยากเรียกร้องให้คนไทยเปลี่ยนวิกฤตนี้ให้เป็นโอกาส ส่งเสริมให้เกิดการแก้ปัญหาระยะยาว ป้องกันการเอารัดเอาเปรียบจากนายทุน ชาวนาชาวไร่ต้องปรับตัวไปสู่การทำเกษตรสมัยใหม่ ลดต้นทุนเพิ่มผลผลิตด้วยระบบเกษตรแปลงใหญ่ ใช้ความเข้มแข็งของกลไกโรงสีชุมชน และสหกรณ์ผลิตและขายข้าวโดยตรงกับตลาด และน้อมนำแนวทางพระราชดำริเกษตรทฤษฎีใหม่ เกษตรผสมผสานปลูกพืชหลายชนิด เลี้ยงสัตว์ แปรรูปเพิ่มมูลค่าผลผลิต ฯลฯ ไปประยุกต์ใช้ เพื่อลดความเสี่ยง ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้อย่างยั่งยืน” พลโท สรรเสริญ กล่าว
สำหรับชาวนาที่เดือดร้อน ถูกเอาเปรียบนั้น พลโท สรรเสริญ กล่าวว่า ขอให้แจ้งเรื่องร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ หรือหน่วยทหารในพื้นที่ และรัฐบาลจะจัดชุดปฏิบัติการตำบล (ชปต.) รวบรวมเจ้าหน้าที่จากหลายๆ หน่วยงาน ลงพื้นที่ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์แก่เกษตรกร เช่น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเพาะปลูก การลดต้นทุนการผลิต การจัดหาตลาดโดยตรง ในระยะต่อไป