xs
xsm
sm
md
lg

เกมพลิก “ทักษิณ” ซวยซ้ำซ้อน ศาลยกฟ้องคดีเลิกพาสปอร์ต-ผิด ม.112!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เมืองไทย 360 องศา


อาจอยู่ในอาการ “หัวร่อไม่ได้ ร้องไห้ไม่ออก” กระอักกระอ่วนพิลึกสำหรับ “ทักษิณ ชินวัตร” ในเวลานี้ เพราะอุตส่าห์จ้างทนายไปฟ้องอธิบดีกรมการกงศุลและปลัดกระทรวงการต่างประเทศกรณีออกคำสั่งเพิกถอนหนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ตทุกประเภท ว่ากระทำโดยมิชอบผิดกฎหมายทั้งในและสากลที่อ้างแบบอินเตอร์ว่าขัดกับหลักปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ล่าสุดศาลปกครองกลางมีคำพิพากษายกฟ้อง ความหมายโดยสรุปก็คือคำสั่งเพิกถอนดังกล่าวของอธิบดีกรมการกงศุลและปลัดกระทรวงการต่างประเทศนั้นทำไปโดยชอบ ไม่มีปัญหาอะไร

แต่ปัญหาใหญ่ดันจะเกิดกับคนที่มาฟ้องคือ ทักษิณ ชินวัตร นั่นแหละ เพราะในท้ายคำพิพากษาของศาลปกครองที่ระบุว่า

“ศาลเห็นว่า ถ้อยคำให้สัมภาษณ์ของผู้ฟ้องคดีมีเนื้อหาบางส่วนพาดพิงบุคคล ตามมาตรา 112 แห่งประมวลกฎหมายอาญา อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงปลอดภัย หรือชื่อเสียงเกียรติภูมิของประเทศไทยได้ การให้สัมภาษณ์ของผู้ฟ้องคดีซึ่งเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ย่อมเป็นที่สนใจของบุคคลทั่วไป และคาดหมายได้ว่าจะถูกนำไปเผยแพร่หรือส่งต่อเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์แพร่หลายไปทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย กรณีจึงเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มาตรา 326 มาตรา 328 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (3) และ (5) เป็นกฎหมายเกี่ยวด้วยความมั่นคงของรัฐและความสงบเรียบร้อย แม้จะยังอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ตาม”

“ดังนั้น การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ใช้ดุลพินิจพิจารณายกเลิกหนังสือเดินทางทั้งสองฉบับของผู้ฟ้องคดี เนื่องจากเห็นว่าการกระทำดังกล่าวของผู้ฟ้องคดีเข้าข่ายผิดกฎหมาย ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงปลอดภัย หรือชื่อเสียงและเกียรติภูมิของประเทศไทย เข้าเงื่อนไขหลักเกณฑ์การยกเลิกหนังสือเดินทาง”

จากคำพิพากษาของศาลดังกล่าวพิจารณาในอีกแง่มุมหนึ่งมันไม่ต่างจากการประจานพฤติกรรมและคำพูดของ ทักษิณ ชินวัตร ได้เป็นอย่างดี เป็นการตอกย้ำให้เห็นว่าเขาได้กระทำผิดต่อความมั่นคงและสถาบันเบื้องสูงอย่างไรบ้าง

ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่งเชื่อว่าสำหรับ ทักษิณ ชินวัตร ก็คงคาดไม่ถึงว่าผลจะออกมาแบบนี้ เพราะถือว่าเขา “ซวยสองต่อ” กันเลยทีเดียว แม้ว่านาทีนี้เขาอาจจะให้ทนายความไปยื่นอุทธรณ์ต่อไปได้ แต่รับรองว่ามีจะมีผลในทางลบกับเขาแน่นอน เพราะว่าจากกรณีการให้สัมภาษณ์ดังกล่าวนี่แหละที่ทำให้กองทัพบกได้มอบหมายให้นายทหารพระธรรมนูญไปแจ้งความให้ดำเนินคดีต่อทักษิณ ในความผิดตามมาตรา 112 และความผิดต่อพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์

แม้ว่าคดียังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตามที่มีการระบุในคำพิพากษาของศาลปกครองกลางดังกล่าวก็ตาม แต่เมื่อเป็นคำพิพากษาออกมาแบบนี้ มีการระบุออกมาชัดเจนว่า “เข้าข่ายความผิด” ทั้งในเรื่องของความมั่นคง ศีลธรรมอันดี ที่สำคัญก็คือความผิดตามมาตรา 112 นั่นแหละถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่จะมีผลสั่นสะเทือนตามมาหลายเรื่อง และจะเปลี่ยนแปลงได้ยาก

ที่ผ่านมาเคยพูด เคยมีพฤติกรรมหลายครั้งที่เข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูง กระทำที่ไม่บังควร แต่อาจเป็นเพราะเขามีอิทธิพล มีเครือข่ายด้านอำนาจรัฐที่ครบวงจรจนทำให้เขาเหิมเกริม กระทำจนเป็นเรื่องปกติ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย

ดังนั้น กรณีที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นสิ่งที่เขาคาดไม่ถึง เพราะเริ่มแรกมีเจตนาฟ้องร้องอธิบดีกรมการกงศุล และปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นการฟ้องเพื่อปกป้องประโยชน์ตัวเอง เป็นการคัดค้านไม่ให้เพิกถอนหนังสือเดินทางกับเขา แต่ไม่คิดว่าผลของคำพิพากษาของศาลปกครองกลางจะชี้ให้เห็นถึงความผิดที่เกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ ความผิดตามมาตรา 112 ซึ่งมีอัตราโทษสูง

ผลของคำพิพากษาศาลปกครองกลางครั้งนี้ยังคาดหมายได้ล่วงหน้าอีกว่า คดีที่มีการแจ้งความให้ดำเนินคดีต่อทักษิณ ชินวัตร ในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพจะเดินหน้าอย่างเต็มกำลัง เพราะในคำพิพากษามีความชัดเจน ดังนั้นถึงได้บอกว่าผลสะท้อนที่กลับมาเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงว่าจะรุนแรงได้ถึงเพียงนี้!
กำลังโหลดความคิดเห็น