“ประยุทธ์” เผย ประชุมหาแนวทางปมดรามาเอ็มวี “เที่ยวไทยมีเฮ” อยู่ แจงดูตามความเหมาะสม สั่ง วธ. จัดการ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับ ปชช. ต้องการ ใช้ กก. พิจารณาร่วมกัน อย่านำทุกเรื่องเป็นปัญหาหมด แจงคดีจำนำข้าว รบ. ทำตามขั้นตอน ไม่ได้แกล้งใคร ไม่ทำก็เจอละเว้นหน้าที่ ย้อนรู้จัก กม. กันไหม จะสอบสวนเพิ่มเติมมันก็มีสิทธิ เอาหลักฐาน กม. มาว่ากัน
วันนี้ (25 ก.ย.) เมื่อเวลา 06.30 น. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการวิพากษ์วิจารณ์กรณีกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) สั่งปรับปรุงมิวสิกวิดีโอ (เอ็มวี) “เที่ยวไทยมีเฮ” ในฉากที่นำทศกัณฐ์ซึ่งเป็นตัวละครในวรรณคดีไทยมาใช้แสดง ว่า ขณะนี้เขากำลังประชุมเพื่อหาแนวทางปฏิบัติร่วมกัน ตนเข้าใจว่า มีคนคิด 2 แบบ คือ 1. แบบครูอาจารย์นาฏศิลป์ที่เขาถือว่าโขนเป็นศิลปะชั้นสูง มีการครอบครูไหว้ครูต่าง ๆ ซึ่งเป็นการมองในมุมนักอนุรักษ์ และ 2. คนรุ่นใหม่ก็มองในมุมที่ว่าน่าจะนำมาใช้ในการโปรโมตการท่องเที่ยวไทย ซึ่งเราก็ต้องไปดูความเหมาะสม ทั้งนี้ ตนได้สั่งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวง วธ. ไปดำเนินการอยู่
เมื่อถามว่า ต่อไปหากจะอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยให้คนรุ่นหลังได้รู้จักมากขึ้น การดัดแปลงลักษณะนี้จะถือว่าผิดหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า มี 2 วิธี คือ 1. หากนำไปใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสมมันก็โอเค และ 2. มองอีกแง่หนึ่งของการอนุรักษ์อาจจะไม่ถูกเพราะคนเรามีสองข้างหมด คราวนี้ถามว่ามันสมควรหรือยังที่จะนำมาใช้แบบนี้ ซึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับประชาชนที่ต้องการ
“ถ้ามีเอ็มวีนี้อยู่ก็ต้องไปดูการแสดงของจริงที่เป็นเรื่องเป็นราวได้ คราวนี้มามองว่ามันเหมาะหรือไม่ ที่จะไปอยู่ข้างถนน ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะ ถามว่าดูดีหรือไม่ มันก็ดูดี แต่เราก็ต้องนึกถึงบรรดาครูอาจารย์ด้วย เพราะโขนไม่ใช่การแต่งตัวง่าย ๆ แล้วขึ้นไปเต้นแป๊บ ๆ มันไม่ใช่ เขาเย็บเขาแต่งตัวกันใช้เวลา 4 - 5 ชั่วโมง จะถอดอะไรออกมาก็ไม่ได้จนกว่าจะแสดงเสร็จ อะไรที่เป็นวัฒนธรรมก็ถือว่าดีอยู่แล้ว เราก็ต้องรักษาไว้ แต่หากจะนำไปใช้อย่างอื่น ก็ต้องพิจารณาความเหมาะสม ต้องใช้คณะกรรมการไปพิจารณาร่วมกันว่าเราจะทำอย่างไร อย่านำทุกเรื่องไปเป็นปัญหาหมด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่ง ที่มีอธิบดีกรมบัญชีกลาง เป็นประธาน พิจารณาสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดโครงการรับจำนำข้าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สรุปตัวเลขความเสียหายที่ต้องจ่ายจำนวน 35,717 ล้านบาท ว่า ขั้นตอนต่อไป รัฐบาลมีหน้าที่นำเข้าสู่กระบวนการอย่างเดียว ตาม พ.ร.บ. ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 ที่ใช้มากว่า 5 พันคดีแล้ว
“ไม่ได้แกล้งใคร ไม่ได้เลือกปฏิบัติอะไรใคร มันมีหน้าที่อยู่ ถ้าไม่ทำ รัฐบาลไม่ดำเนินการก็จะถูกดำเนินการตามมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และต้องทำให้ทันอายุความที่จะสิ้นสุดภายในเดือน ก.พ. 60 ตนไม่ได้ไปเร่งรัดอะไร กฎหมายเขาเขียนไว้อย่างนั้น รู้จักกฎหมายกันไหม” นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เมื่อที่มาจากการร้องทุกข์กล่าวโทษ ใครมีหน้าที่ก็ทำไป ส่วนการตัดสินเป็นเรื่องของศาล ไม่ใช่เรื่องของตน รวมทั้งตั้งคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่งแบบจีทูจี ในส่วนของ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ และพวก นั้นก็เป็นหน้าที่รัฐบาล ซึ่งได้มีการตรวจสอบ 2 ฤดูการผลิต ในปี 55/56 และปี 56/57 ตามที่ ป.ป.ช. และหน่วยงานที่ตรวจสอบให้สอบ และทำตามคำสั่งศาล ส่วนการจะไปดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมอย่างไร มันก็มีสิทธิ สามารถทำได้ ผู้ถูกกล่าวหาก็ร้องอุทธรณ์ได้
“แล้วมันผิดตรงไหน หรือไม่ต้องเข้ากระบวนการเลย แล้วเอารัฐบาลผมไปรับโทษแทน คิดให้มันถูกต้อง อย่าไปฟังสิ่งที่มันอ้างไปอ้างมา เอาหลักฐาน เอากฎหมายมาว่ากัน เวลานี้ประชาชนสับสนไปหมด กฎหมายไม่เป็นกฎหมายไปหมด เขาจะแกล้งเรื่องอะไร” นายกฯ กล่าว