“รองฯ วิษณุ” เผย รมว.-ปลัดพาณิชย์ลงนามคำสั่งปกครองเรียกค่าเสียหายจำนำข้าวจีทูจี “บุญทรง” มีผลทันทีภายใน 45 วัน เว้นแต่ศาลปกครองออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว “ประวิตร” ป้อง “น้องบิ๊กตู่” ไม่ได้มีความทะเยอทะยานเป็นใหญ่เป็นโต มองคนอื่นทำให้ แนะระวังคนจับตา รอนายกฯ ถึงเคาะรายชื่อ คปต. แย้มมีอยู่แล้ว รมต.ร่วมด้วย สั่งเพิ่มระวังลอบบึ้มหลังมีป่วนทั่วโลก เร่งปราบอาวุธสงคราม
วันนี้ (20 ก.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการออกคำสั่งทางปกครองเรียกค่าเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว ว่าในส่วนของการซื้อขายข้าวแบบจีทูจี ที่เรียกเก็บค่าเสียหายจากนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ กับพวก 6 คนแล้ว ทาง รมว.พาณิชย์ และปลัดกระทรวงพาณิชย์ได้ลงนามในคำสั่งทางปกครองเรียบร้อยแล้ว จากนี้ต้องแจ้งให้ผู้ชดใช้ค่าเสียหายทราบภายใน 30 วัน หากยังไม่ดำเนินการชดใช้จะแจ้งเตือนภายใน 15 และจะมีผลโดยกรมบังคับคดีสามารถดำเนินการได้ทันที ยกเว้นนายบุญทรงจะร้องศาลปกครอง และศาลปกครองออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว กระบวนการจะต้องหยุดเพื่อรอคำพิพากษาของศาล เมื่อถามว่านายบุญทรงระบุว่าตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม นายวิษณุกล่าวว่า อันนั้นไม่ทราบ พร้อมปฏิเสธที่จะตอบคำถามว่าการใช้มาตรา 44 คุ้มครองเจ้าหน้าที่ทำถูกหรือไม่
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีแทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่อยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 71 ที่สหรัฐอเมริกา โดย พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมถึงเสียงวิจารณ์การสร้างฝายกันน้ำที่ใช้ชื่อ “แม่ผ่องพรรณพัฒนา” ชื่อของนางผ่องพรรณ จันทร์โอชา ภริยา พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม ว่าเรื่องนี้ตนไม่ได้มีการพูดคุยกับ พล.อ.ปรีชาแล้ว เขาไม่ได้มีความทะเยอทะยานอยากเป็นใหญ่เป็นโต มองว่าคนอื่นทำให้ทั้งนั้น เมื่อถามว่าการที่ พล.อ.ปรีชาเป็นน้องนายกฯ ต้องระวังอะไรพิเศษหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า หากไม่ใช่น้องนายกฯ คงไม่เป็นข่าว จึงต้องระวังเพราะมีคนจ้องดูอยู่ เป็นธรรมดา
พล.อ.ประวิตรยังกล่าวถึงความการตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.) ว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้จะยังไม่เคาะรายชื่อบุคคล ต้องรอ พล.อ.ประยุทธ์กลับมาก่อน ส่วนคุณสมบัติของคนที่จะมาทำหน้าที่นี้ ต้องมีความรู้ด้านความมั่นคงซึ่งรายชื่อมีแล้ว และเสนอนายกฯ เป็นที่เรียบร้อย แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เมื่อถามว่าคนไปทำหน้าที่ดังกล่าวจะเป็น รมช.หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “เป็นรัฐมนตรี” พร้อมกันนี้ พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงกรณีที่มีเหตุระเบิดหลายจุดในโลกว่า ประเทศไทยต้องระวังและเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น เพราะถ้าไม่เพิ่มคงมีเหตุเกิดขึ้นจำนวนมาก ที่ผ่านมาหน่วยงานด้านความมั่นคงมีการจับกุมผู้กระทำผิดมาก จากนี้ไปต้องดำเนินการกวาดล้างอาวุธที่มีอยู่ไปเรื่อยๆ เพราะส่วนใหญ่เป็นของเก่าที่ประชาชนซื้อมา รวมถึงอาวุธสงครามที่มาจากการสู้รบตามแนวชายแดน