ผู้จัดการรายวัน360-""อภิรดี"ลงนามคำสั่งบังคับทางปกครอง เรียกค่าเสียหายจีทูจีเก๊ 2 หมื่นล้านบาทแล้ว เผยรู้สึกธรรมดา เพราะเป็นการทำตามขั้นตอน เตรียมส่งหนังสือแจ้งนักการเมืองและข้าราชการทั้ง 6 รายทันที ทีมกฎหมายเพื่อไทยดิ้นสู้ ยื่นหนังสือถึงนายกฯ บอกปิดบัญชียังไม่เสร็จ แต่ดันเรียกค่าเสียหายได้ "บุญทรง"โวยใช้ม.44 กลั่นแกล้ง ลั่นฟ้องทุกคนที่เกี่ยวข้อง "อภิศักดิ์"เผยคดีจำนำข้าว "ปู" ยังไม่ถึงมือ รอกรรมการพิจารณาทางแพ่งสรุปก่อนพิจารณาเซ็น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดความสับสนเกี่ยวกับการลงนามในหนังสือบังคับทางปกครองเพื่อเรียกค่าเสียหายกรณีการขายข้าวในรูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ที่มีมูลค่าความเสียหาย 2 หมื่นล้านบาท กับนักการเมืองและข้าราชการ 6 ราย โดยเฉพาะการตั้งข้อสงสัยว่าทำไม รมว.พาณิชย์ ถึงไม่ยอมลงนามในหนังสือ ทั้งๆ ที่นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายมาตั้งแต่เดือนก.ค.2559 และล่าสุด น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งได้รับมอบหมายให้เซ็นหนังสือแทน รมว.พาณิชย์ ก็ได้ลงนามในหนังสือแล้ว
ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (19 ก.ย.) นางดวงกมล เจียมบุตร เลขานุการรมว.พาณิชย์ (นางอภิรดี ตันตราภรณ์) ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Duangkamol Jiambutr เพื่อชี้แจงกรณีมีข่าวในทางลบเกี่ยวกับการเซ็นหนังสือบังคับทางปกครอง โดยมีใจความโดยสรุปว่า มีแต่คนกดดันให้เซ็นโดยไม่ทราบข้อเท็จจริง เพราะการเรียกค่าเสียหายวงเงินใหญ่โต ต้องคิด ต้องทำให้รอบคอบ และขอให้กองเชียร์ กองแช่ง อย่าเอาแต่มัน เพราะเร็วช้าทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการ
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ว่า นางอภิรดีจะลงนามในคำสั่งดังกล่าวอย่างแน่นอน ส่วนที่ผ่านมา ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าไม่มีใครลงนามคำสั่งนี้ ส่วนตัวไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้น เนื่องจากเมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา เอกสารยังไม่เรียบร้อย จึงยังไม่ได้ลงนาม
***"อภิรดี"ลงนามเรียกค่าเสียหายแล้ว
ในช่วงบ่าย หลังจากแถลงข่าวการลงนามความร่วมมือการซื้อขายผลผลิตข้าวโครงการนาแปลงใหญ่ทั่วประเทศ ระหว่างกลุ่มเกษตรกร โรงสี นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 19 ก.ย.2559 ตนได้เซ็นหนังสือคำสั่งบังคับทางปกครองเพื่อเรียกค่าเสียหายกรณีการขายข้าวจีทูจีกับนักการเมืองและข้าราชการจำนวน 6 รายแล้ว โดยเป็นการลงนามแทนนายกรัฐมนตรี และในส่วนของรมว.พาณิชย์ ได้มอบหมายให้น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ลงนามแทน
"จะมีการส่งหนังสือไปยังนักการเมืองและข้าราชการทั้ง 6 คนทันที โดยจะมีระยะเวลาในการตอบกลับภายใน 30 วัน หากครบ 30 วันแล้ว ยังไม่มีการตอบกลับ จะมีการส่งหนังสือแจ้งเตือนไปอีกรอบใน 15 วัน หลังจากนั้น จะเข้าสู่ขั้นตอนของกรมบังคับคดีต่อไป"นางอภิรดีกล่าว
ทั้งนี้ ในการแถลงข่าวบ่ายวันนี้ นางอภิรดี ระบุว่า รู้สึกธรรมดากับการลงนามในครั้งนี้ เพราะเป็นไปตามขั้นตอน และมีการศึกษาข้อกฎหมายที่มีอยู่ก่อนที่จะมีการลงนามแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า นักการเมืองและข้าราชการ 6 คนที่จะถูกบังคับทางปกครองชดใช้ค่าเสียหายจากการขายข้าวจีทูจี มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท ได้แก่ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการ รมว.พาณิชย์ นายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายทิฆัมพร นาทวรทัต อดีตรองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายอัครพงศ์ ทีปวัชระ อดีตผู้อำนวยการสำนักการค้าข้าวต่างประเทศ
***ขั้นตอนต่อไปส่งหนังสือถึงทั้ง6ราย
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ในหนังสือคำสั่งทางปกครองจะมีการลงนาม 2 ที่ คือ รมว.พาณิชย์ลงนามแทนนายกฯ และปลัดพาณิชย์ลงนามแทนรมว.พาณิชย์ ซึ่งถือเป็นหลังการบริหารราชการแผ่นดิน เมื่อรมว.พาณิชย์มอบหมายมาให้ตนลงนาม ตนก็ลงนามและก็ไม่คิดจะมอบต่อใคร หลังจากลงนามหนังสือคำสั่งครบถ้วน หนังสือจะถูกส่งไปให้กรมการค้าต่างประเทศเพื่อลงเลขที่คำสั่งในหนังสือก่อนส่งไปให้นักการเมืองและข้าราชการทั้ง 6 ต่อไป
***พท.ซัดยังไม่ปิดบัญชีแต่เรียกค่าเสียหาย
ที่ศูนย์บริการประชาชนสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ฝั่ง ก.พ. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อขอให้พิจารณาการออกคำสั่งที่ 56/2559 ที่ให้กรมบังคับคดียึดทรัพย์คดีโครงการรับจำนำข้าว เป็นการกระทำโดยสุจริตและชอบหรือไม่
นายเรืองไกรกล่าวว่า การจะเรียกค่าเสียหาย จะต้องมีการปิดบัญชีให้เรียบร้อยก่อน แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถปิดบัญชีได้ จะนำมูลเหตุอะไรมาตั้งเป็นค่าเสียหาย และกรณีคำสั่งทางปกครอง ถ้าเห็นว่าถูกต้อง นายกฯ ก็ควรเซ็นเอง
***"บุญทรง"อัดใช้ม.44กลั่นแกล้ง
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ได้เขียนบทความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีใจความโดยสรุปว่า เป็นการใช้ม.44 เพื่อกลั่นแกล้ง ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะเป็นการใช้คุ้มครองเจ้าหน้าที่ ให้ไม่มีความผิด และยังได้ตั้งกรมบังคับคดีให้เตรียมยึดทรัพย์ พร้อมยืนยันว่า จะดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีกับทุกคนที่เกี่ยวข้องจนกว่าจะถึงที่สุด แม้ว่าจะต้องไปต่อสู้กันในศาลกี่ศาลก็ตาม หากไม่เช่นนั้นก็อย่าไปมีกฎหมายอะไรให้มากเรื่อง ใช้ ม.44 บริหารและปกครองบ้านเมืองนี้ไปเสียเลย
***คลังรอสรุปคดีค่าเสียหายจำนำข้าว
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการพิจารณาความรับผิดทางแพ่งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในโครงการรับจำนำข้าวว่า ขณะนี้เรื่องยังไม่ถึงตน ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่งอยู่ ทราบว่ายังไม่มีการสรุปตัวเลขขาดทุนที่แน่ชัด และเมื่อคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่งพิจารณาเสร็จแล้ว ก็จะส่งมาที่ตนเพื่อลงนามร่วมกับนายกรัฐมนตรี ก่อนจะส่งให้กรมบังคับคดีเพื่อยึดทรัพย์ต่อไป ตามขั้นตอนเป็นอย่างนั้น ส่วนจะลงนามเอง หรือมอบให้ปลัดกระทรวงการคลังลงนามแทนนั้น ไม่รู้ ต้องดูก่อน เรื่องยังไม่มาเลย
***ปลัดคลังยันพร้อมลงนาม
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กรณีความเสียหายจากโครงการจำนำข้าว คณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่ง ที่มีนายมนัส แจ่มเวหา เป็นประธานได้สรุปความเสียหายแล้ว อยู่ระหว่างการทำรายงานเสนอรมว.คลัง โดยหลังจากนี้ จะมีการให้ปลัดกระทรวงการคลังลงนามในคำสั่งทางปกครองเหมือนกับกระทรวงพาณิชย์หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่รัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา หากให้ลงนามตนก็พร้อมลงนาม
**ซัด"ทนายปู"บิดเบือนคำสั่งคสช.
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากกรณีที่ทนายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกมาทำให้สังคมสับสน และไม่เข้าใจ คำสั่งของหัวหน้าคสช. ที่ 56/2559 ให้อำนาจกรมบังคับคดีในการบังคับคดีทางปกครอง ด้วยการยึดทรัพย์ของผู้ต้องรับผิดในโครงการจำนำข้าว เป็นการพูดไม่จริง เพราะกรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายบุญทรง เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ กระทำความเสียหายในหน้าที่ จึงต้องเรียกค่าเสียหายผ่านพ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิด และกฎหมายก็ให้สิทธิในการอุทธรณ์ผ่านศาลปกครองอยู่แล้ว
"ขอเรียกร้องผู้เกี่ยวข้องทั้งรัฐบาล และกระทรวงพาณิชย์ว่าในช่วงปฏิรูปเพื่อปราบโกง ใครมีหน้าที่ต้องทำอะไร ควรจะต้องทำตามหน้าที่และการลงนามคำสั่งทางปกครองจะเป็นการพิสูจน์ว่าที่เขากล่าวหานั้นไม่เป็นความจริง รัฐบาลควรเตรียมทีมงานรับศึกบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร เพราะฝ่ายบิดเบือนเขาพร้อมแล้ว ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องไม่ประมาท" นพ.วรงค์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดความสับสนเกี่ยวกับการลงนามในหนังสือบังคับทางปกครองเพื่อเรียกค่าเสียหายกรณีการขายข้าวในรูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ที่มีมูลค่าความเสียหาย 2 หมื่นล้านบาท กับนักการเมืองและข้าราชการ 6 ราย โดยเฉพาะการตั้งข้อสงสัยว่าทำไม รมว.พาณิชย์ ถึงไม่ยอมลงนามในหนังสือ ทั้งๆ ที่นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายมาตั้งแต่เดือนก.ค.2559 และล่าสุด น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งได้รับมอบหมายให้เซ็นหนังสือแทน รมว.พาณิชย์ ก็ได้ลงนามในหนังสือแล้ว
ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (19 ก.ย.) นางดวงกมล เจียมบุตร เลขานุการรมว.พาณิชย์ (นางอภิรดี ตันตราภรณ์) ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Duangkamol Jiambutr เพื่อชี้แจงกรณีมีข่าวในทางลบเกี่ยวกับการเซ็นหนังสือบังคับทางปกครอง โดยมีใจความโดยสรุปว่า มีแต่คนกดดันให้เซ็นโดยไม่ทราบข้อเท็จจริง เพราะการเรียกค่าเสียหายวงเงินใหญ่โต ต้องคิด ต้องทำให้รอบคอบ และขอให้กองเชียร์ กองแช่ง อย่าเอาแต่มัน เพราะเร็วช้าทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการ
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ว่า นางอภิรดีจะลงนามในคำสั่งดังกล่าวอย่างแน่นอน ส่วนที่ผ่านมา ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าไม่มีใครลงนามคำสั่งนี้ ส่วนตัวไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้น เนื่องจากเมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา เอกสารยังไม่เรียบร้อย จึงยังไม่ได้ลงนาม
***"อภิรดี"ลงนามเรียกค่าเสียหายแล้ว
ในช่วงบ่าย หลังจากแถลงข่าวการลงนามความร่วมมือการซื้อขายผลผลิตข้าวโครงการนาแปลงใหญ่ทั่วประเทศ ระหว่างกลุ่มเกษตรกร โรงสี นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 19 ก.ย.2559 ตนได้เซ็นหนังสือคำสั่งบังคับทางปกครองเพื่อเรียกค่าเสียหายกรณีการขายข้าวจีทูจีกับนักการเมืองและข้าราชการจำนวน 6 รายแล้ว โดยเป็นการลงนามแทนนายกรัฐมนตรี และในส่วนของรมว.พาณิชย์ ได้มอบหมายให้น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ลงนามแทน
"จะมีการส่งหนังสือไปยังนักการเมืองและข้าราชการทั้ง 6 คนทันที โดยจะมีระยะเวลาในการตอบกลับภายใน 30 วัน หากครบ 30 วันแล้ว ยังไม่มีการตอบกลับ จะมีการส่งหนังสือแจ้งเตือนไปอีกรอบใน 15 วัน หลังจากนั้น จะเข้าสู่ขั้นตอนของกรมบังคับคดีต่อไป"นางอภิรดีกล่าว
ทั้งนี้ ในการแถลงข่าวบ่ายวันนี้ นางอภิรดี ระบุว่า รู้สึกธรรมดากับการลงนามในครั้งนี้ เพราะเป็นไปตามขั้นตอน และมีการศึกษาข้อกฎหมายที่มีอยู่ก่อนที่จะมีการลงนามแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า นักการเมืองและข้าราชการ 6 คนที่จะถูกบังคับทางปกครองชดใช้ค่าเสียหายจากการขายข้าวจีทูจี มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท ได้แก่ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการ รมว.พาณิชย์ นายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายทิฆัมพร นาทวรทัต อดีตรองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายอัครพงศ์ ทีปวัชระ อดีตผู้อำนวยการสำนักการค้าข้าวต่างประเทศ
***ขั้นตอนต่อไปส่งหนังสือถึงทั้ง6ราย
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ในหนังสือคำสั่งทางปกครองจะมีการลงนาม 2 ที่ คือ รมว.พาณิชย์ลงนามแทนนายกฯ และปลัดพาณิชย์ลงนามแทนรมว.พาณิชย์ ซึ่งถือเป็นหลังการบริหารราชการแผ่นดิน เมื่อรมว.พาณิชย์มอบหมายมาให้ตนลงนาม ตนก็ลงนามและก็ไม่คิดจะมอบต่อใคร หลังจากลงนามหนังสือคำสั่งครบถ้วน หนังสือจะถูกส่งไปให้กรมการค้าต่างประเทศเพื่อลงเลขที่คำสั่งในหนังสือก่อนส่งไปให้นักการเมืองและข้าราชการทั้ง 6 ต่อไป
***พท.ซัดยังไม่ปิดบัญชีแต่เรียกค่าเสียหาย
ที่ศูนย์บริการประชาชนสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ฝั่ง ก.พ. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อขอให้พิจารณาการออกคำสั่งที่ 56/2559 ที่ให้กรมบังคับคดียึดทรัพย์คดีโครงการรับจำนำข้าว เป็นการกระทำโดยสุจริตและชอบหรือไม่
นายเรืองไกรกล่าวว่า การจะเรียกค่าเสียหาย จะต้องมีการปิดบัญชีให้เรียบร้อยก่อน แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถปิดบัญชีได้ จะนำมูลเหตุอะไรมาตั้งเป็นค่าเสียหาย และกรณีคำสั่งทางปกครอง ถ้าเห็นว่าถูกต้อง นายกฯ ก็ควรเซ็นเอง
***"บุญทรง"อัดใช้ม.44กลั่นแกล้ง
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ได้เขียนบทความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีใจความโดยสรุปว่า เป็นการใช้ม.44 เพื่อกลั่นแกล้ง ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะเป็นการใช้คุ้มครองเจ้าหน้าที่ ให้ไม่มีความผิด และยังได้ตั้งกรมบังคับคดีให้เตรียมยึดทรัพย์ พร้อมยืนยันว่า จะดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีกับทุกคนที่เกี่ยวข้องจนกว่าจะถึงที่สุด แม้ว่าจะต้องไปต่อสู้กันในศาลกี่ศาลก็ตาม หากไม่เช่นนั้นก็อย่าไปมีกฎหมายอะไรให้มากเรื่อง ใช้ ม.44 บริหารและปกครองบ้านเมืองนี้ไปเสียเลย
***คลังรอสรุปคดีค่าเสียหายจำนำข้าว
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการพิจารณาความรับผิดทางแพ่งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในโครงการรับจำนำข้าวว่า ขณะนี้เรื่องยังไม่ถึงตน ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่งอยู่ ทราบว่ายังไม่มีการสรุปตัวเลขขาดทุนที่แน่ชัด และเมื่อคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่งพิจารณาเสร็จแล้ว ก็จะส่งมาที่ตนเพื่อลงนามร่วมกับนายกรัฐมนตรี ก่อนจะส่งให้กรมบังคับคดีเพื่อยึดทรัพย์ต่อไป ตามขั้นตอนเป็นอย่างนั้น ส่วนจะลงนามเอง หรือมอบให้ปลัดกระทรวงการคลังลงนามแทนนั้น ไม่รู้ ต้องดูก่อน เรื่องยังไม่มาเลย
***ปลัดคลังยันพร้อมลงนาม
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กรณีความเสียหายจากโครงการจำนำข้าว คณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่ง ที่มีนายมนัส แจ่มเวหา เป็นประธานได้สรุปความเสียหายแล้ว อยู่ระหว่างการทำรายงานเสนอรมว.คลัง โดยหลังจากนี้ จะมีการให้ปลัดกระทรวงการคลังลงนามในคำสั่งทางปกครองเหมือนกับกระทรวงพาณิชย์หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่รัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา หากให้ลงนามตนก็พร้อมลงนาม
**ซัด"ทนายปู"บิดเบือนคำสั่งคสช.
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากกรณีที่ทนายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกมาทำให้สังคมสับสน และไม่เข้าใจ คำสั่งของหัวหน้าคสช. ที่ 56/2559 ให้อำนาจกรมบังคับคดีในการบังคับคดีทางปกครอง ด้วยการยึดทรัพย์ของผู้ต้องรับผิดในโครงการจำนำข้าว เป็นการพูดไม่จริง เพราะกรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายบุญทรง เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ กระทำความเสียหายในหน้าที่ จึงต้องเรียกค่าเสียหายผ่านพ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิด และกฎหมายก็ให้สิทธิในการอุทธรณ์ผ่านศาลปกครองอยู่แล้ว
"ขอเรียกร้องผู้เกี่ยวข้องทั้งรัฐบาล และกระทรวงพาณิชย์ว่าในช่วงปฏิรูปเพื่อปราบโกง ใครมีหน้าที่ต้องทำอะไร ควรจะต้องทำตามหน้าที่และการลงนามคำสั่งทางปกครองจะเป็นการพิสูจน์ว่าที่เขากล่าวหานั้นไม่เป็นความจริง รัฐบาลควรเตรียมทีมงานรับศึกบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร เพราะฝ่ายบิดเบือนเขาพร้อมแล้ว ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องไม่ประมาท" นพ.วรงค์ กล่าว
