00 อะไรกันนักหนาก็ไม่รู้ โยนขี้โยนกลองกันมั่วซั่วไปหมดแล้ว กับคิวที่ต้องมี “ใครซักคน”เซ็นชื่อในหนังสือคำสั่งทางปกครอง เรียกค่าเสียหายในโครงการขายข้าว“จีทูเจี๊ยะ”ทั้งสิ้น 2 หมื่นล้าน จากบุญทรง เตริยาภิรมย์ - ภูมิ สาระผล อดีตรมว.-รมช.พาณิชย์ และคณะ ผลสอบสรุปบัญชีเสร็จตั้งแต่ปีมะโว้ ป่านนี้ยังไม่มีใครเซ็นเริ่มตั้งแต่ “นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะผู้สั่งให้มีการเอาผิดทางละเมิด มอบให้กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะผู้เสียหายโดยตรง เป็นผู้ลงนามในคำสั่งทางปกครองแทน
00 ผ่านไปนานสองนาน ก็ยังไม่มีแอคชั่นอะไรออกมาจาก กระทรวงพาณิชย์ ที่คอยแต่บ่นกระปอดกระแปดว่า ติดขัด นู่น นี่ นั่น เงิน-ข้าวที่ต้องทวงมาจำนวนมหาศาล ได้มาแล้วไม่รู้จะไปเก็บที่ไหน ก็เป็นที่มาของคำสั่ง คสช. เมื่อสัปดาห์ก่อนที่มอบให้ "มืออาชีพด้านการทวงหนี้" อย่าง กรมบังคับคดี ของกระทรวงยุติธรรม มาคอยรับไม้ต่อ คราวนี้ก็ย้อนกลับมาที่กระทรวงพาณิชย์ ในทำนอง“ขว้างงูไม่พ้นคอ”ว่าจะเซ็นคำสั่งให้เริ่มไปทวงค่าเสียหายได้เมื่อไหร่
00 จนแล้วจนรอด อภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ ก็ยังไม่เซ็น โร่ไปหา“นายกฯตู่”ขอคำปรึกษาในอารมณ์คนไม่อยากเซ็น ก่อนออกคำสั่งโยนให้“ปลัดพาณิชย์”เป็นคนเซ็นแทน ด้วยเหตุผลทะแม่งๆ ที่ว่า “ตัวเองไม่ใช่นักการเมือง”แต่ที่ได้มาทำงานเป็น รมว.พาณิชย์ เพราะต้องใช้ความเชี่ยวชาญ และตรงไปตรงมา ว่าไปโน่น จนคนฟังก็หงุดหงิด พากันบ่นงึมงำ “อะไรของเจ๊ (วะ)”
00 แล้วที่มอบให้ปลัดกระทรวงเซ็น ที่ตอนนี้คือ ชุติมา บุณยประภัศร กำลังจะเกษียณอีก 2 สัปดาห์ เป็นใครก็คงไม่อยากยุ่งกับ“ของร้อนๆ”แบบนี้ แล้วก็มีข่าวว่า “ชุติมา”ลายาวไปเมืองนอกช่วง 2 วีคสุดท้ายในชีวิตราชการ ตีความเป็นอื่นไม่ได้นอกจาก ไม่อยากเซ็นเหมือนกัน ส่วน วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ว่าที่ปลัดพาณิชย์คนใหม่ ก็มีข่าวในเชิงว่า ถ้าถูกบีบให้ต้องเซ็นต์ ก็พร้อมจะออกจากราชการ ก่อให้เกิดคำถามว่า กระบวนการทวงหนี้ “แก๊งจีทูเจี๊ยะ”มันผิดปกติรึป่าว ทั้งที่มี มาตรา 44 คุ้มกะลาหัวว่า หากทำด้วยความถูกต้อง ก็ฟ้องทั้งอาญา-แพ่งไม่ได้
00 ยังไม่รู้เรื่องราวจะจบยังไง แต่ก็สะท้อนแล้วว่า“อภิรดี”ไม่เหมาะที่จะได้ทำงานร่วมกับ คสช.ใน“สถานการณ์พิเศษ”แบบนี้ ตั้งแต่การเข้ามาของกรมบังคับคดี ของกระทรวงยุติธรรม ของ“บิ๊กต๊อก” พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา เข้ามาเป็นตัวช่วย ในเรื่องความเด็ดขาด-ความใจถึง อีกเรื่องที่ไม่น่าอภัยเลย ก็ที่บอกปัด โยนภาระให้ปลัดกระทรวงฯดื้อๆ ตัว “อภิรดี”เองก็เป็นปลัดพาณิชย์มาก่อน ถ้าบอกว่าตัวเองไม่ใช่นักการเมือง ถอดรหัสแล้วก็ไม่อยากเข้าไปเป็น“คู่ขัดแย้ง”โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่ต้องเรียกค่าเสียหายมี “อดีตบิ๊ก ก.พาณิชย์”หลายคน แต่ก็ต้องถามว่า แล้วปลัดพาณิชย์ตอนนี้ “ชุติมา”หรือ“วิบูลลักษณ์”ก็เป็นข้าราชการ ไม่ได้เป็นนักการเมือง แล้วต่างจาก“อภิรดี”ตรงไหน มาทรงนี้ก็ “สอบไม่ผ่าน”ทั้งในฐานะเจ้ากระทรวง หรือในฐานะรุ่นพี่ ที่ผลักภาระให้ ลูกน้อง-รุ่นน้อง คนแบบนี้แหละที่ใกล้ได้กลับไปเลี้ยงหลานแล้ว
00 นี่แค่เคสแรกที่เกี่ยวกับการทวงค่าเสียหายจำนำข้าว ยอด 2 หมื่นล้าน จาก “บูญทรง แอนด์เดอะแก๊ง”เท่านั้น ยังมีบัญชีที่ต้องไปทวง“คุณหนูปู”ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับชาวคณะ ที่จนผ่านนี้กระทรวงพาณิชย์ ก็ยังปิดบัญชีไม่เสร็จ รวมๆ แล้วเป็นแสนล้าน ถึงวันที่ต้องไปบี้กับ“คุณหนูปู”ไม่ขาสั่น ชิ่งลาออกกันหมดกระทรวงเลยหรือ
00 เจ๋งๆฝุดๆ เมื่อ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTTGC)ได้รับการจัดอันดับจากดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (DJSI)ในกลุ่ม Top 10 ของบริษัทเคมีภัณฑ์ ชั้นนำของโลก ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยปีนี้ ได้คะแนน 92% ตัดเกรดแล้วก็ระดับ A+ และเป็นบริษัทคนไทยในกลุ่มเคมีภัณฑ์เพียงหนึ่งเดียวในเอเชีย ที่ได้รับการจัดอันดับจาก DJSI ซึ่งเป็นดัชนีหลักทรัพย์ประเมินประสิทธิผลการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัทชั้นนำระดับโลก ... ปรบมือสิ รออะไร
00 ผ่านไปนานสองนาน ก็ยังไม่มีแอคชั่นอะไรออกมาจาก กระทรวงพาณิชย์ ที่คอยแต่บ่นกระปอดกระแปดว่า ติดขัด นู่น นี่ นั่น เงิน-ข้าวที่ต้องทวงมาจำนวนมหาศาล ได้มาแล้วไม่รู้จะไปเก็บที่ไหน ก็เป็นที่มาของคำสั่ง คสช. เมื่อสัปดาห์ก่อนที่มอบให้ "มืออาชีพด้านการทวงหนี้" อย่าง กรมบังคับคดี ของกระทรวงยุติธรรม มาคอยรับไม้ต่อ คราวนี้ก็ย้อนกลับมาที่กระทรวงพาณิชย์ ในทำนอง“ขว้างงูไม่พ้นคอ”ว่าจะเซ็นคำสั่งให้เริ่มไปทวงค่าเสียหายได้เมื่อไหร่
00 จนแล้วจนรอด อภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ ก็ยังไม่เซ็น โร่ไปหา“นายกฯตู่”ขอคำปรึกษาในอารมณ์คนไม่อยากเซ็น ก่อนออกคำสั่งโยนให้“ปลัดพาณิชย์”เป็นคนเซ็นแทน ด้วยเหตุผลทะแม่งๆ ที่ว่า “ตัวเองไม่ใช่นักการเมือง”แต่ที่ได้มาทำงานเป็น รมว.พาณิชย์ เพราะต้องใช้ความเชี่ยวชาญ และตรงไปตรงมา ว่าไปโน่น จนคนฟังก็หงุดหงิด พากันบ่นงึมงำ “อะไรของเจ๊ (วะ)”
00 แล้วที่มอบให้ปลัดกระทรวงเซ็น ที่ตอนนี้คือ ชุติมา บุณยประภัศร กำลังจะเกษียณอีก 2 สัปดาห์ เป็นใครก็คงไม่อยากยุ่งกับ“ของร้อนๆ”แบบนี้ แล้วก็มีข่าวว่า “ชุติมา”ลายาวไปเมืองนอกช่วง 2 วีคสุดท้ายในชีวิตราชการ ตีความเป็นอื่นไม่ได้นอกจาก ไม่อยากเซ็นเหมือนกัน ส่วน วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ว่าที่ปลัดพาณิชย์คนใหม่ ก็มีข่าวในเชิงว่า ถ้าถูกบีบให้ต้องเซ็นต์ ก็พร้อมจะออกจากราชการ ก่อให้เกิดคำถามว่า กระบวนการทวงหนี้ “แก๊งจีทูเจี๊ยะ”มันผิดปกติรึป่าว ทั้งที่มี มาตรา 44 คุ้มกะลาหัวว่า หากทำด้วยความถูกต้อง ก็ฟ้องทั้งอาญา-แพ่งไม่ได้
00 ยังไม่รู้เรื่องราวจะจบยังไง แต่ก็สะท้อนแล้วว่า“อภิรดี”ไม่เหมาะที่จะได้ทำงานร่วมกับ คสช.ใน“สถานการณ์พิเศษ”แบบนี้ ตั้งแต่การเข้ามาของกรมบังคับคดี ของกระทรวงยุติธรรม ของ“บิ๊กต๊อก” พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา เข้ามาเป็นตัวช่วย ในเรื่องความเด็ดขาด-ความใจถึง อีกเรื่องที่ไม่น่าอภัยเลย ก็ที่บอกปัด โยนภาระให้ปลัดกระทรวงฯดื้อๆ ตัว “อภิรดี”เองก็เป็นปลัดพาณิชย์มาก่อน ถ้าบอกว่าตัวเองไม่ใช่นักการเมือง ถอดรหัสแล้วก็ไม่อยากเข้าไปเป็น“คู่ขัดแย้ง”โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่ต้องเรียกค่าเสียหายมี “อดีตบิ๊ก ก.พาณิชย์”หลายคน แต่ก็ต้องถามว่า แล้วปลัดพาณิชย์ตอนนี้ “ชุติมา”หรือ“วิบูลลักษณ์”ก็เป็นข้าราชการ ไม่ได้เป็นนักการเมือง แล้วต่างจาก“อภิรดี”ตรงไหน มาทรงนี้ก็ “สอบไม่ผ่าน”ทั้งในฐานะเจ้ากระทรวง หรือในฐานะรุ่นพี่ ที่ผลักภาระให้ ลูกน้อง-รุ่นน้อง คนแบบนี้แหละที่ใกล้ได้กลับไปเลี้ยงหลานแล้ว
00 นี่แค่เคสแรกที่เกี่ยวกับการทวงค่าเสียหายจำนำข้าว ยอด 2 หมื่นล้าน จาก “บูญทรง แอนด์เดอะแก๊ง”เท่านั้น ยังมีบัญชีที่ต้องไปทวง“คุณหนูปู”ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับชาวคณะ ที่จนผ่านนี้กระทรวงพาณิชย์ ก็ยังปิดบัญชีไม่เสร็จ รวมๆ แล้วเป็นแสนล้าน ถึงวันที่ต้องไปบี้กับ“คุณหนูปู”ไม่ขาสั่น ชิ่งลาออกกันหมดกระทรวงเลยหรือ
00 เจ๋งๆฝุดๆ เมื่อ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTTGC)ได้รับการจัดอันดับจากดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (DJSI)ในกลุ่ม Top 10 ของบริษัทเคมีภัณฑ์ ชั้นนำของโลก ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยปีนี้ ได้คะแนน 92% ตัดเกรดแล้วก็ระดับ A+ และเป็นบริษัทคนไทยในกลุ่มเคมีภัณฑ์เพียงหนึ่งเดียวในเอเชีย ที่ได้รับการจัดอันดับจาก DJSI ซึ่งเป็นดัชนีหลักทรัพย์ประเมินประสิทธิผลการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัทชั้นนำระดับโลก ... ปรบมือสิ รออะไร
