สนช.พิจารณาร่างงบปี 60 วงเงิน 2.733 ล้านล้านอย่างรวดเร็วเหตุไม่มีสมาชิกอภิปราย มีแค่ “ครูหยุย” ติงตัดงบส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก ชี้ชอบตั้งงบไว้แต่แก้ปัญหา แนะสร้างกิจกรรมช่วงปิดเทอมกันเด็กมั่วสุม โวยตัดโครงการส่งเสริมคนไร้ที่พึ่ง ก่อนสมาชิกมีมติเห็นชอบผ่านฉลุย “วิษณุ” ขอบคุณ แจงงบใช้ขั้นที่ 3 โรดแมปสำคัญมากเพราะเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ยันโปร่งใส
วันนี้ (8 ก.ย.) ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 วงเงิน 2,733,000 ล้านบาท ที่คณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯพิจารณาแล้วเสร็จ โดยนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ประธาน คณะกรรมาธิการชี้แจงว่า มีการปรับลดทั้งสิ้นจำนวน 17,980,242,800 บาท โดยพิจารณาถึงความสอดคล้องกับร่างกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 นโยบายความมั่งคงแห่งชาติ แผนแม่บทระดับชาติ นโยบายสำคัญของรัฐบาล ยุทธศาสตร์การจัดการในการจัดสรรงบประมาณประจำปี ตลอดจนเป้าหมายในการดำเนินงาน ความคุ้มค่า ความพร้อม ศักยภาพในการดำเนินงาน รวมทั้งคำนึงถึงการใช้จ่ายงบประมาณในปีที่ผ่านมาประกอบการพิจารณาอย่างเข้มงวด คือ 1. โครงการหรือรายการที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันหรือหมดความจำเป็น หรือได้ดำเนินการไปแล้ว 2. รายการที่มีเป้าหมายดำเนินงานที่ไม่ชัดเจน มีความจำเป็นน้อย มีค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อนและไม่ประหยัด 3. รายการที่มีผลดำเนินการล่าช้ากว่าแผนที่กำหนดไว้ และคาดว่าจะไม่สามารถใช้จ่ายได้ทันในปีงบประมาณ 2560 โดยมีการเปลี่ยนแปลงงบประมาณ รวมทั้งสิ้น 10,680,485,300 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การพิจารณารายมาตราเป็นไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากไม่มีสมาชิกประสงค์จะอภิปราย มีเพียงสมาชิกบางส่วน อาทิ นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิก สนช. อภิปรายไม่เห็นด้วยกับการตัดงบประมาณในมาตรา 10 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรมกิจการเด็กและเยาวชน ที่มีการตัดงบส่วนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชน 9.4 ล้านบาท ว่าเราชอบมีจริตตั้งงบประมาณมากมายเพื่อไว้ตามแก้ปัญหา เช่น งบบำบัดเด็กติดยา หรืองบแก้ปัญหาตั้งท้องก่อนวัยอันควร พอเห็นเป็นงบส่งเสริม วิชันหรือการมองมักจะไม่ค่อยเห็น
“ในช่วงระยะเวลาที่ปิดภาคเรียน 2 เดือน เด็กจะเคว้งไม่รู้จะทำอะไร ก็ไป เล่นเกมตามร้าน ตามหาโปเกม่อน มั่วสุมตามผับ ไปขับรถซิ่ง ยุ่งเกี่ยวเรื่องเพศ หรือยาเสพติดแล้วเกิดปัญหาให้ต้องไปตามแก้ตามที่ตั้งงบประมาณเอาไว้ ในช่วงนี้ควรจะให้เขารวมกลุ่มทำกิจกรรมทั้งประเทศเหมือนประเทศที่เจริญแล้ว เพราะจะสร้างจิตสำนึกผู้นำให้เกิดขึ้น ไม่ไปมั่วสุมในสิ่งที่ไม่ดี ค่าใช้จ่ายในการจัดกิจกรรมส่งเสริม มีการขอไป 9 ล้านบาท มีการตัดออกไปถึง 4 ล้านกว่าเช่นนี้ น่าคิดว่า หากข่าวออกไปว่ารัฐบาลนี้ตัดงบเด็กออกไปถึงครึ่งหนึ่งจะมีการตอบคำถามนี้อย่างไร” นายวัลลภกล่าว
นอกจากนี้ยังมีการตัดงบในส่วนของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการที่ถูกตัด จำนวน 150 ล้านบาท แต่ โครงการส่งเสริมและพัฒนาคนไร้ที่พึ่งและขอทาน ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ด้อยโอกาสมากในสังคมไทย มีการตัดไปถึง 106 ล้านบาท มีการให้ไปเกลี่ยกันภายใน แต่กลับไปเกลี่ยเอาคนไร้ที่พึ่งที่ถือว่าชีวิตตกต่ำที่สุดแล้วออกไปแบบนี้ ไม่เอะใจกันเลยหรือ ตนอยากให้ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการเกลี่ยที่ผิดอย่างรุนแรง และควรกรุณาให้การดูแลคนเหล่านี้ให้มากกว่านี้
คุณหญิงทรงสุดา ยอดมณี สมาชิก สนช. อภิปรายสนับสนุนว่า กิจกรรมเด็กและเยาวชนมีความสำคัญมาก เพราะเด็กในวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า จะดีหรือไม่ อยู่ที่การหล่อหลอมในวัยเด็ก งบที่สนับสนุนกิจกรรม 9 ล้านบาทยังน้อยไปด้วยซ้ำ แต่กลับถูกตัดออกไปถึง 4 ล้านบาท น่าเสียดายอย่างยิ่ง ขอให้จัดกลับคืนเหมือนเดิมได้หรือไม่
หลังจากที่ประชุมใช้เวลาลงมติเรียงรายมาตราประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง สมาชิกได้ลงมติเห็นชอบในวาระสาม ด้วยคะแนน 183 งดออกเสียง 2 ไม่ลงคะแนน 1 พร้อมทั้งรับทราบข้อสังเกตพ่วงท้าย
ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะตัวแทน ครม.ได้กล่าวขอบคุณว่า ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.อยู่ระหว่างการปฏิบัติภารกิจที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว แต่ได้ติดตามการประชุมเป็นระยะตั้งแต่วาระ ที่ 1 ซึ่งนายกฯ มีความพอใจและชื่นชมการทำงานของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งร่าง พ.ร.บ.งบประมาณนี้จะนำไปใช่ตั้งแต่ 1 ต.ค.นี้เป็นต้นไป หากดูผิวเผินก็เหมือนกับการใช้ในแต่ละปี แต่ครั้งนี้อาจมีความแตกต่าง เพราะเป็นการนำงบประมาณไปใช้ ตั้งแต่ 1 ต ค. 2559 - 30 ก.ย. 2560 ซึ่งช่วงสุดท้ายตามโรดแมปของรัฐบาล เป็นปีสุดท้ายของแผน และขั้นตอนช่วงที่ 2 เพราะจากนั้นจะเข้าสู่การเลือกตั้งและมีรัฐบาลชุดใหม่ ถือเป็นขั้นตอนที่ 3 ดังนั้น ปลายช่วงที่ 3 ถือว่าสำคัญมาก เพราะเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อระหว่างรัฐบาลเก่า และรัฐบาลใหม่ สิ่งสำคัญคือจะมีหลายเหตุการณ์เกิดขึ้น คือการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หลายบทบัญญัติจะบังคับใช้ทันที โดยไม่เกี่ยวกับบทเฉพาะกาล หรือที่เรียกว่าช่วงออกฤทธิ์ แปลว่าการใช้จ่ายงบประมาณจะเข้าสู่ระบบการตรวจสอบภายใต้รัฐธรรมนูญใหม่ และยังมีร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับการใช้จ่ายงบ คือ ร่าง พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้าง ร่าง พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ และร่าง พ.ร.บ.เกี่ยวกับวินัยการเงินการคลังภาครัฐ ซึ่งจะเข้าสู่การพิจารณาของ สนช.ในเร็วๆ นี้
“ขอให้มั่นใจว่าการใช้จ่ายงบประมาณในปีนี้จะเป็นตัวอย่างของการใช้งบประมาณของรัฐบาลต่อๆ ไปจะเกิดความโปร่งใส ยึดหลักธรรมาภิบาล และวินัยการเงินการคลัง ดังนั้นรัฐบาลขอให้คำมั่นสัญญาว่าจะใช้จ่ายงบประมาณทั้งหมดให้เป็นไปตามกฎหมาย และหลักเกณฑ์ และคำแนะนำต่างๆ” นายวิษณุกล่าว