xs
xsm
sm
md
lg

ศาลปกครองกลางนัดพิจารณาคดีครั้งแรก 7 ก.ย. ปม “ทักษิณ” ฟ้อง กต.ยกเลิกพาสปอร์ตไม่ชอบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ศาลปกครองกลาง” นัดพิจารณาคดีครั้งแรก 7 ก.ย.นี้ หลังรับคำร้อง “นายทักษิณ” ฟ้องอธิบดีกรมการกงสุล-ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ยกเลิกพาสปอร์ตไม่ชอบไว้พิจารณา “ทีมทนาย” ลุ้นคำสั่งเพิกถอนหรือไม่ รอองค์คณะตุลาการพิจารณา

วันนี้ (5 ก.ย.) มีรายงานว่า กลุ่มสื่อมวลชนสัมพันธ์ สำนักประชาสัมพันธ์ สำนักงานศาลปกครอง ได้เผยแพร่กำหนดนัดพิจารณาคดีที่น่าสนใจของศาลปกครอง ระหว่างวันที่ 5-9 กันยายน 2559 โดยเฉพาะวันที่ 7 กันยายนนี้ เวลา 09.30 น. ศาลปกครองกลางนัดนั่งพิจารณาคดีครั้งแรก ในคดีหมายเลขดำที่ 2115/2558 ระหว่างนายทักษิณ ชินวัตร (ผู้ฟ้องคดี) กับอธิบดีกรมการกงสุล ที่ 1 กับพวกรวม 2 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐออกคำสั่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย (ฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทาง)

นายทักษิณ ชินวัตร ฟ้องว่า อธิบดีกรมการกงสุล ที่ 1 กับพวกรวม 2 คน มีคำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางเลขที่ U957411 และ Z530117 ของผู้ฟ้องคดี โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีอ้างว่าคำสัมภาษณ์ของผู้ฟ้องคดีมีเนื้อหาบางส่วนที่อาจส่งผลต่อความมั่นคงปลอดภัยของประเทศไทย ประกอบกับอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนผู้ฟ้องคดีเพื่อดำเนินคดีอาญา ทั้งนี้ผู้ฟ้องคดีได้มีหนังสือ ลว. 30 ก.ค. 2558 อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว แต่ได้รับแจ้งผลการพิจารณายืนตามคำสั่งเดิมปรากฏตามหนังสือที่ กต 0305.23/23593 ลว. 9 ก.ย. 2558 เป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีได้รับความเดือดร้อนเสียหาย) ณ ห้องพิจารณาคดี 8 ชั้น 3 อาคารศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร

มีรายงานว่า คดีนี้เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2558 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ให้นายวัฒนา เตียงกูล ทนายความพรรคเพื่อไทย เป็นผู้รับมอบอำนาจ ฟ้องคดีอธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ กับพวกรวม 2 คนต่อศาลปกครองกลาง ในคดีพิพาทเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ของรัฐออกคำสั่งโดยมิชอบด้วยกฎหมาย โดยขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทาง ซึ่งศาลได้รับคำสั่งไว้ตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค.ในคดีหมายเลขดำ ที่ 2118/2558 และศาลฯ ได้นัดไต่สวนคดีเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2558 เวลา 10.00 น. ที่ห้องไต่สวน 2 ชั้น 2 อาคารศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ

คดีดังกล่าวนายทักษิณฟ้องอธิบดีกรมการกงสุลและพวก ว่าได้มีคำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางเลข (พาสปอร์ต) ที่ U957411 และ Z530117 ลงวันที่ 26 พ.ค.2558 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยระบุว่าคำสัมภาษณ์ของผู้ฟ้องคดีมีเนื้อหาบางส่วนที่อาจส่งผลต่อความมั่นคงปลอดภัยของประเทศไทย ประกอบกับอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนผู้ฟ้องคดีเพื่อดำเนินคดีอาญา มาตรา 112, 326 และ 328 และพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (3) (5) จึงเข้าข่ายที่จะยกเลิกหนังสือเดินทางตามระเบียบกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ. 2548 ข้อ 21 (4) และข้อ 23 (2)

ทั้งนี้ นายทักษิณได้มีหนังสือ ลว. 30 ก.ค.2558 อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว แต่ได้รับเเจ้งผลการพิจารณายืนตามคำสั่งเดิมปรากฏตามหนังสือที่ กต 0305.23/23593 ลงวันที่ 9 ก.ย. 2558 เป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีได้รับความเดือดร้อนเสียหาย จนนำมาสู่การฟ้องคดีดังกล่าว

สำหรับพาสปอร์ตเลขที่ U957441 และ Z530117 ของนายทักษิณนั้น เป็นพาสปอร์ตบุคคลทั่วไป ซึ่งนายทักษิณได้รับสมัยนายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล และเมื่อวันที่ 28 พ.ค. กรมสารนิเทศ กต. ได้ออกเอกสารเรื่องการยกเลิกหนังสือเดินทางของนายทักษิณว่า ด้วยฝ่ายความมั่นคงได้เสนอให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องภายในอำนาจหน้าที่ เกี่ยวกับเรื่องที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้พิจารณาเห็นว่า ถ้อยคำให้สัมภาษณ์ของนายทักษิณมีเนื้อหาบางส่วนที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงปลอดภัยหรือชื่อเสียงและเกียรติภูมิของประเทศไทย ประกอบกับกรณีดังกล่าวอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนเพื่อดำเนินคดีอาญาในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112, 326 และ 328 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (3) (5) โดยกระทรวงการต่างประเทศได้พิจารณาแล้วเห็นว่า เข้าข่ายที่จะยกเลิกหนังสือเดินทางตามระเบียบกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ. 2548 ข้อ 21 (4) และข้อ 23 (2) จึงได้ประกาศยกเลิกหนังสือเดินทาง เลขที่ U957441 และเลขที่ Z530117 ของนายทักษิณตั้งแต่วันที่ 26 พ.ค. 2558

“เรื่องนี้ กต.ทำตามหน้าที่ ภายหลังได้รับการประสานงานจากหน่วยงานด้านความมั่นคงให้ยกเลิกพาสปอร์ต โดยจากนี้ กต.จะส่งหนังสือเวียนถึงสถานเอกอัครราชทูตไทยที่ประจำการในทั่วโลก เพื่อแจ้งให้ทราบถึงคำสั่งดังกล่าว และขณะนี้ถือว่านายทักษิณไม่ได้เป็นผู้ถือพาสปอร์ตไทยแล้ว ทั้งนี้ นายทักษิณสามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้ แต่หากจะเคลื่อนไหวในต่างประเทศอย่างไรต่อไปนั้นเป็นการดำเนินการส่วนตัวของนายทักษิณ” นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในขณะนั้น

และเมื่อวัน 1 มิ.ย. กรมสารนิเทศได้ออกข่าวย้ำในเรื่องอีกครั้งว่า ตามที่ปรากฏข่าวในสื่อมวลชนบางฉบับว่ากระทรวงการต่างประเทศยังมิได้ยกเลิกหนังสือเดินทางทูตของนายทักษิณนั้น ขอยืนยันข้อมูลที่ถูกต้องดังนี้ 1. ก่อนที่จะยกเลิกหนังสือเดินทางของนายทักษิณเมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2558 นายทักษิณถือหนังสือเดินทางบุคคลธรรมดา (เล่มน้ำตาล) เพียง 2 เล่มเท่านั้น คือหนังสือเดินทางหมายเลข U957441 และหมายเลข Z530117 ตามที่ประกาศไปแล้ว และ 2.หนังสือเดินทางทูตฉบับล่าสุดที่นายทักษิณถือครองคือหมายเลข D215863 กระทรวงการต่างประเทศได้ยกเลิกไปแล้วตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. 2551

มีรายงานด้วยว่า เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ซึ่งเป็นวันที่ศาลนัดไต่สวนคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว คดีหมายเลขดำ 2115/2558 ที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มอบอำนาจให้ทนายความยื่นฟ้องอธิบดีกรมการกงสุล และปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-2 เรื่องกระทำการออกคำสั่งโดยมิชอบต่อศาลปกครองกลาง เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา กรณีที่มีคำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางเลขที่ U957411และ Z530117 ของนายทักษิณ เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2558 เหตุจากการสัมภาษณ์ของนายทักษิณซึ่งอ้างว่ามีเนื้อหาบางส่วนที่อาจส่งผลต่อความมั่นคงปลอดภัยของประเทศไทย ประกอบกับอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน เพื่อดำเนินคดีอาญาต่อนายทักษิณ

โดยนายทักษิณมอบอำนาจให้ทนายความยื่นอุทธรณ์คำสั่งเพิกถอนหนังสือเดินทาง แต่ได้รับเเจ้งผลการพิจารณาอุทธรณ์ เมื่อเดือน ก.ย. 58 ที่ยืนตามคำสั่งเดิม จึงเป็นเหตุให้นายทักษิณได้รับความเดือดร้อนเสียหาย จึงได้มอบอำนาจให้ทนายความยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทาง พร้อมกับยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งเพิกถอนดังกล่าวไว้ชั่วคราวก่อน จนกว่าคดีจะมีคำพิพากษา

โดยวันนั้นนายวัฒนา เตียงกูล ทนายความผู้รับมอบอำนาจของนายทักษิณเดินทางมาศาลเพื่อไต่สวน ขณะที่ฝ่ายผู้ถูกฟ้องมีนายธงชัย ชาสวัสดิ์ อธิบดีกรมการกงสุล ผู้ถูกฟ้องที่ 1 ส่วนปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ผู้ถูกฟ้องที่ 2 มอบอำนาจให้ผู้แทน มาศาลร่วมการไต่สวน

ขณะที่นายวัฒนาเปิดเผยภายหลังการไต่สวนว่า ได้นำหลักฐานต่างๆ ที่ได้ยื่นต่อศาลมาประกอบคำชี้แจงอีกครั้ง ซึ่งการไต่สวน ศาลสอบถามในประเด็นที่คู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายให้ถ้อยคำเพิ่มเติม ส่วนรายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะอยู่ในกระบวนการพิจารณา ในส่วนของนายจุลพงษ์ โนนศรีชัย อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ พยานที่ได้เตรียมมาไต่สวน ศาลเห็นว่าในชั้นไต่สวนคำขอทุเลาการบังคับสั่ง ยังไม่จำเป็นต้องไต่สวนพยาน แต่ศาลให้ทำบันทึกถ้อยคำของนายจุลพงษ์ พยานผู้ฟ้องมายื่นต่อศาลภายใน 7 วัน เพื่อประกอบการพิจารณาเนื้อหาคดี

“ดังนั้น ในการไต่สวนคำขอทุเลาการบังคับคำสั่งเพิกถอนหนังสือเดินทางคงจบแค่นี้ หลังจากนั้นต้องรอองค์คณะตุลาการพิจารณาต่อไปว่าจะมีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับคำสั่งเพิกถอนหรือไม่ ส่วนเนื้อหาคำฟ้องคดี ทราบว่าศาลได้มีคำสั่งรับไว้พิจารณาแล้ว” นายวัฒนากล่าว และตอบคำถามว่า หากนายทักษิณชนะคดีนี้จะเป็นอย่างไร นายวัฒนากล่าวว่า เราขอใช้สิทธิของกระบวนการยุติธรรม ในฐานะผู้ได้รับผลกระทบ ถ้าศาลมีคำสั่งตามคำขอ แล้วจะได้หนังสือเดินทางเล่มใหม่หรือไม่ คงต้องดูระเบียบของกระทรวงต่างประเทศด้วย ส่วนเนื้อหาคดีที่ศาลรับฟ้องไว้แล้ว ตามขั้นตอน ศาลจะส่งคำฟ้องให้ผู้ถูกฟ้องทั้ง 2 ทำคำให้การแก้ต่างคดี ยื่นเข้ามาภายใน 30 วัน นับจากวันที่ได้รับสำเนาคำฟ้อง แล้วศาลจะส่งคำให้การนั้น แจ้งให้ผู้ฟ้องคดีทราบ เพื่อทำคำให้การคัดค้านอีกครั้ง


กำลังโหลดความคิดเห็น